พลาดรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 62

วันต่อมา

ด้านมิริณหลังจากที่ย้ายออกจากคฤหาสน์มาหลายวันจนกระทั่งถึงวันนี้มิวาก็ยังไม่ทราบเรื่อง ฉันจะปิดเรื่องนี้ให้ได้นานที่สุดเพราะฉันไม่อยากให้มิวาเป็นกังวลและเป็นห่วงฉัน และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ร่างบางเดินออกจากมหาลัย มิริณฉันเหลือบมองนาฬิกาอีกไม่กี่นาทีจะบ่ายสาม ขณะที่เดินอยู่นั้นฉันเหลือบไปเห็นป้ายสมัครงานพาร์ทไทม์จากนั้นฉันก็ถ่ายภาพเอาไว้ หลังจากที่กลับถึงห้องพัก ใบหน้าหวานถึงกับมีสีหน้าคิดหนัก ตอนนี้ในหัวของฉันมันคิดเรื่องอะไรไม่ได้เลยนอกจากเรื่องที่อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกฉันเข้าไปคุย

"มิริณดา เธอรู้ใช่ไหมว่าวันนี้ครูเรียกเธอมาเพราะทางมหาลัยมีหนังสือเตือนนักศึกษาคนที่ยังค้างจ่าย"

"หนูพอจะทราบ ค่ะ" ถึงฉันเป็นเด็กทุนก็จริงแต่ฉันไม่ใช่เด็กทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ฉันยังต้องจ่ายค่าบำรุงและหน่วยกิตเป็นบางส่วนซึ่งรวมๆ แล้วมันก็หลายหมื่นซึ่งในบัญชีของฉันที่มีอยู่ตอนนี้ฉันมีไม่ถึงหมื่น ฉันจะหาตังที่ไหนมาจ่ายค่าเทอมซึ่งภายในเดือนหน้าฉันต้องผ่อนจ่ายให้ครบไม่เช่นนั้นฉันก็ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ จะขอมิวาฉันก็เกรงใจเพราะตอนนี้มิวาเองก็ไม่ได้ทำงาน และที่หนักไปกว่านั้นมิวาก็ยังขอตังสามีใช้

!! เฮ้ย... !! มิริณถึงกับล้มตัวลงที่นอนและถอนหายใจยาวๆ ออกมา ใบหน้าหวานถึงกับคิดหนัก ค่าเทอมที่ฉันยังจ่ายไม่ครบสี่หมื่นกว่าบาท สำหรับนักศึกษาอย่างฉัน หาตังสี่หมื่นภายในหนึ่งเดือนมันเป็นอะไรที่ยากมาก จะกลับไปทำอาชีพเด็กN อีกครั้งก็ยากหน่อย เพราะฉันไม่ใช่เด็กNประจำ

หลายวันต่อมา

และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันต้องเข้าร่วมชมรม ขณะที่ร่างบางยืนซื้อน้ำอยู่ภายในโรงอาหารมิริณกับเหลือบไปเห็นแพทที่เดินเคียงคู่กับอรัณไปยังตึกคณะนิเทศ เอาจริงตั้งแต่วันนั้นที่ยัยคุณแพทโดนฉันตบ ฉันคิดว่าเธอคงตามมาหาเรื่องฉันที่มหาลัยไม่จบไม่สิ้นแน่นนอน แต่ผิดคลาดยัยคุณแพทนิ่งมาก นิ่งเสียฉันกลัวว่ายัยนั้นจะกลับมาเล่นลับหลังฉัน มิริณพยายามสลัดภาพของคู่รักแห่งปีนั้นออกจากหัว จากนั้นก็เดินไปยังชมรม

"มิริณวันนี้แกเข้าชมรมด้วยใช่ไหม" ยัยบีนาที่หันมาถามฉันด้วยท่าทีสงสัย เพราะสำหรับยัยบีนาและยัยขวัญข้าว เรื่องฉันกับพี่อรัณฉันก็เล่าจนหมด ยัยสองคนนี้ก็เข้าใจฉันดี และอีกอย่างฉันก็ออกมาจากคฤหาสน์ของเขาแล้ว ตอนแรกฉันไปพักอยู่กับยัยขวัญข้าวแต่ก็เกรงใจเพื่อน เลยออกมาเช่าหอเองดีกว่า

"ไม่รู้ดิ...ถ้าเขาไม่เข้าฉันอาจจะคงเข้าก็ได้" ที่ฉันตอบแบบนั้น สองคนนี้ก็ทราบเรื่องที่ฉันตั้งใจหลบหน้าเขา

"แก จะหลบหน้าพี่เขาไปได้นานแค่ไหน ยังไงก็อยู่ชมรมเดียวกัน" ยัยขวัญข้าวเอ่ยกับฉันมา

"ไม่รู้ดิ ฉันแค่ไม่อยากเจอเขา"

"เออ งั้นก็ตามใจแกละกัน ถ้าพี่อรัณไม่เข้าพวกฉันจะไลน์มา เคมะ" ยัยขวัญข้าวหันมาบอกกับฉันจากนั้น ร่างบางก็แยกกับเพื่อนเพื่อจะไปห้องสมุด

ด้านอรัณขณะที่ทั้งสี่หนุ่มอยู่ในห้องวิศวะ เรียวตะ ริก และริว ทั้งสามหนุ่มอยู่ในชุดวอมพร้อมที่จะเข้าชมรม และอรัณกับยังอยู่ในชุดนักศึกษาเช่นเดิม

"เชี่ยรัณ มึงยังไม่ไปเปลี่ยนชุดอีกๆ สิบนาทีพวกกูจะไปกันแล้วนะครับ" ริกเอ่ยมาขณะที่อรัณยังคงพ่นควันบุหรี่อยู่ริมหน้าต่างด้วยท่าทีสบาย

"วันนี้กูไม่มีอารมณ์เข้าวะ พวกมึงไปกันเถอะ" อรัณเอ่ยขณะที่สายตายังคงมองลงไปชั้นล่างของตึก

"ไม่อยากเจอ น้องมิริณแล้วหรือไง" ริวแกล้งเอ่ยแซวเพื่อน เพราะรู้ข่าวว่ามิริณออกจากคฤหาสน์ของอรัณพวกเขาเองต่างก็ตกใจ และไม่ทราบว่ามิริณเข้าไปอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น รู้อีกทีก็วันก่อนที่อรัณนั้นเมาหนักและพวกเขาไปส่งที่บ้าน ป้าเพ็ญจึงเล่าเรื่องให้ริกและริวฟัง ต้นเหตุที่อรัณเมาหนักก็เพราะรู้สึกเสียใจทำให้มิริณออกจากบ้านทั้งที่จริงอรัณทั้งรักและเป็นห่วงมิริณ แต่ก็ยังมีแพท เรื่องถึงได้ดูวุ่นวายมากเช่นนี้

"ไม่อะ เธออาจจะไม่อยากเจอหน้ากูก็ได้" อรัณเอ่ยกับเพื่อนแค่นั้น แต่ภายในใจยังรู้สึกคิดถึงและอยากเจอเธอนับวันการที่ไม่มีมิริณอยู่คฤหาสน์เขานั้นยิ่งเจ็บปวดใจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้อาการนี้เขาจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน

ส่วนคนที่ทำให้อรัณกำลังคิดถึงอยู่นั้น ด้านมิริณวันนี้เธอตั้งใจจะหลบหน้าอรัณ แต่หลังจากที่เธอจะไม่เข้าชมรมแล้วนั้น บีนากับไลน์มาให้เธอเข้าชมรม เพราะวันนี้อรัณไม่อยู่ที่นั้น พอร่างบางเดินมาห้องโบว์ลิ่งมิริณก็เจอกับทั้งสามหนุ่มแต่ก็ไม่เจออรัณจริงอย่างที่บีนาบอกกับเธอจริง

ด้านมิริณเองก็ซ้อมเล่นโบว์ลิ่งกับเพื่อนด้วยท่าทีปกติ แต่กับมีสายตาคมคู่นึ่งที่เฝ้ามองเธออยู่อีกมุมโดยที่ร่างบางนั้นไม่รู้ตัว

!! หึ...เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงถ้าวันนี้เขาเข้าชมรม มิริณก็คงหลบหน้าเขา อรัณมองร่างบางด้วยความรู้สึกเจ็บและจุกขึ้นมาภายในใจ

ด้านมิริณผ่านไปราวสามชั่วโมง จนกระทั่งถึงช่วงท้ายชมรม จากนั้นพี่ที่เป็นหัวหน้าชมรมก็เดิมเข้ามากลุ่มพวกฉัน

"น้องมิรินดา" มิริณที่ได้ยินชื่อของตัวเอง ร่างบางก็ยกมือขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรักร้ายนายวิศวะ