เข้าสู่ระบบผ่าน

พลังแห่งจันทรา นิยาย บท 5

เซียวป๋อชิงถลึงตาใส่นางด้วยความโกรธ เมื่อครู่ยังเรียกเขาว่าชายโฉด พอจะลงโทษคนอื่นก็มาเปลี่ยนเป็นท่านแม่ทัพ

ช่างเป็นหญิงเจ้าเล่ห์ที่เปลี่ยนง่ายนัก!

“เหลียนเอ๋อร์ด้อยการอบรม ให้ไปกักบริเวณไว้ก่อน พวกเจ้าต่างก็บาดเจ็บทั้งคู่ จงกลับไปรักษาตัวก่อน”

เขาพูดเหมือนไม่สู้เต็มใจนัก

ไป๋หว่านเหลียนสีหน้าสลดลง แม้จะไม่พอใจ แต่ก็จำต้องพยักหน้า

ความแค้นนี้นางจะจดจำไว้

สัมผัสได้ถึงความอาฆาตของไป๋หว่านเหลียน แต่ไป๋ซือหวงก็ไม่สะทกสะท้าน ในสายตาเจ้าของร่างเดิม ไป๋หว่านเหลียนเหมือนปีศาจร้าย แต่สำหรับนางแล้ว นี่แค่ปลาซิวปลาสร้อย ไม่คณนามือซักนิด

แม้จะไม่พอใจต่อการจัดการของชายโฉด เพราะด้วยนิสัยอย่างนาง จะรีบตัดขาดชายงี่เง่าประเภทนี้ซะ แต่เจ้าของร่างเดิมยังมีลูกอยู่อีกคน เห็นทีว่าจะรีบร้อนไม่ได้

พร้อมกับความอัดอั้นตันใจ และทำตาขวางใส่เซียวป๋อชิง ไป๋ซือหวงจึงหันหลังจากไป

เซียวป๋อชิงกำหมัดแน่น เส้นเอ็นที่ขมับปูดนูนขึ้นมา

ถ้าไม่เห็นว่าเป็นสมรสพระราชทาน ป่านนี้คงเลิกกับนางไปนานแล้ว!

ค่ำคืน ไป๋ซือหวงหนาวสั่นสะท้าน จึงเร่งรีบกลับมายังเรือนซีอู๋ที่เจ้าของร่างเดิมอาศัยอยู่ ก่อนจะมานางได้อาบน้ำด้วยน้ำเย็น ชำระโลหิตและคราบไคลออกจากตัวไปหมดสิ้น

ด้วยเกรงว่าเด็กจะตกใจ

พอเข้าเรือนมา หนาวเหน็บกว่าข้างนอกเสียอีก!

ประตูหน้าต่างถูกลมพัดแรงจนต่างก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด

ภายในตกแต่งแสนจะเรียบง่าย มีเตียงเล็กหนึ่งตัว โต๊ะผุพังตัวหนึ่งและเก้าอี้ขาบิดเบี้ยวอีกสองสามตัว

ไป๋ซือหวงเดินคลำไปตามความมืด กว่าจะเจอเทียนครึ่งเล่มและจุดสว่างขึ้น

“เสี่ยวหลาง เจ้าอยู่ที่ไหน?”

ลูกชายเจ้าของร่างเดิมเกิดมาก็เนื้อตัวมอมแมม ซ้ำยังมีขนเต็มตัว ดูคล้ายกับลูกหมาป่าตัวหนึ่ง

เซียวป๋อชิงมองหน้าแค่แว่บเดียว ก็ตั้งชื่อส่ง ๆ ให้เด็กว่าเสี่ยวหลาง

ในซอกมุมหนึ่งของความมืดมิด มีก้อนกลม ๆ สีฝุ่นกำลังสั่นเทาอยู่

รับรู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าและเสียงเรียก เขาจึงรีบหันมา ใบหน้าอ่อนเยาว์แทบจะไร้ซึ่งความอิ่มเอิบ นัยน์ตาสีน้ำเงินแวววาวด้วยความระแวดระวัง

ไป๋ซือหวงถือเทียนไข และพบเห็นเจ้าก้อนกลมนี้เข้า พอจะเข้าใกล้ เขาก็กระโดดขึ้นโต๊ะอย่างว่องไว

มือน้อยยันอยู่ที่โต๊ะ ตั้งท่าเหมือนพร้อมจะต่อสู้

“ท่านเป็นผี อย่ามาเข้าใกล้ข้า!”

ไป๋ซือหวงเบิ่งตาโต เห็นแรงกระโดดขนาดนี้ ราวกับหมาป่าทีเดียว

“ข้าจะเป็นผีได้ยังไง ข้าคือแม่เจ้าต่างหาก”

ไป๋ซือหวงย่องเข้าไปอีก เพราะอยากใกล้ชิดเขา

“นักพรตที่มาทำพิธีบอกว่าท่านตายแล้ว ท่านก็คือผี”

ตาสีน้ำเงินของเสี่ยวหลางหม่นหมองลง น้ำเสียงเด็กน้อยซ่อนความเสียใจอยู่

เขาไม่มีแม่อีกแล้ว

แม้ว่าแม่เขาจะเป็นคนปัญญาอ่อน ซ้ำยังตบตีเขาทุกวัน แต่ยังไงนางก็คือแม่ และตอนนี้เขาก็ไม่มีแม่อีกแล้ว

ในใจเขารู้สึกถึงความอ้างว้างโดดเดี่ยว

“ข้าเพิ่งไปเล่นงานไป๋หว่านเหลียนก่อนจะกลับมา ถ้าเป็นผีจริง ไป๋หว่านเหลียนจะถูกข้าเล่นงานได้หรือ?”

เสี่ยวหลางจ้องมองนางตาไม่กระพริบ สังเกตดี ๆ นางยังมีเงาอยู่

เห็นพี่กวาอีบอกว่า ผีจะต้องไม่มีเงา

“ถึงงั้นก็ไม่ใช่แม่ข้าอยู่ดี แม่ข้าเป็นคนปัญญาอ่อน ท่านกล้าเล่นงานผู้หญิงคนนั้น แต่ผู้หญิงใจร้ายนั่นชอบมารังแกแม่ข้าเรื่อย แม่ข้าสู้นางไม่ได้”

“แค่อยากลูบหัวของเจ้าหน่อย”

“ท่านหลอกข้าชัด ๆ จากนั้นก็จะตีข้าอีก ข้าเคยเชื่อท่านตั้งหลายครั้ง คราวนี้ไม่เชื่ออีกแล้ว!”

เสี่ยวหลางตะคอกอย่างรุนแรง น้ำตาเอ่อล้นออกจากดวงตาสีน้ำเงินนั่น

เขาจ้องนางตาเขม็ง เช็ดน้ำตาแล้วหันหลังไป

แต่ร่างน้อยยังคงตัวสั่นอยู่ เสียงสะอื้นไห้เบา ๆ ได้ยินชัดในยามวิกาลที่เงียบสนิท

เด็กคนนี้...ถูกทำร้ายมาเพียงใดกันหนอ

เขาเพิ่งจะสามขวบเท่านั้น

ไป๋ซือหวงรู้สึกขอบตาร้อนผ่าว นางสูดลมหายใจเข้าลึก “แม่ไม่ได้หลอกเจ้าจริง ๆ เจ้าดูการกระทำของแม่ก่อน”

นางลองเอื้อมมือไปจับมือเขา แต่ทันทีที่สัมผัสถูก เสี่ยวหลางก็มีอาการเจ็บปวดรุนแรง และขดตัวไปกับโต๊ะ

เขากัดฟันไม่ยอมส่งเสียง ดวงตาเรียวยาวคล้ายมีหมอกน้ำเงินมาปกคลุม

“เจ้าเป็นไรไป!”

ไป๋ซือหวงตกอกตกใจกับสีหน้าซีดเผือดของเสี่ยวหลาง นางอยากไปตรวจดู แต่ก็กลัวจะทำร้ายเขาอีก

ทันใดนั้น ในสมองของนางก็ปรากฏความทรงจำส่วนหนึ่ง

ไป๋หว่านเหลียนจิตใจโหดร้าย แอบฝังเข็มนิ่มเล่มยาวไว้ในชีพจรของเสี่ยวหลาง ทำให้ทุกครั้งที่เขาขยับตัวจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

เมื่อเข็มเงินเข้าร่าง ไหลไปตามโลหิตจนถึงชีพจรหัวใจ ก็จะหมดทางเยียวยา

นางเห็นความเจ็บปวดของเขาแต่ไม่อาจช่วยเหลือได้ จึงรู้สึกร้อนใจอย่างมาก

ฉับพลัน สมองนางเกิดอาการเจ็บจี๊ด รู้สึกคล้ายถูกดึงดูดเข้าไปในสถานที่ ๆ ไม่คุ้นเคยแห่งหนึ่ง

และสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้า ก็ทำให้นางตกตะลึง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลังแห่งจันทรา