ด้านนอกหน้าต่างนั้นท้องฟ้ามืดมนประหนึ่งน้ำหมึก
ความหนาวเหน็บลอดเข้าตามซอกหน้าต่างที่มีรอยแตกร้าว
ไป๋ซือหวงรีบอุ้มเสี่ยวหลางขึ้นเตียงแล้วเอาผ้าห่มตัวบาง ซึ่งเป็นผ้าห่มผืนเดียวที่มีอยู่ห่มให้บุตรชาย
นางมองใบหน้าอันน่ารักกำลังหลับปุ๋ย นางเองก็เริ่มหลับตามไป
เมื่อหมดฤทธิ์ยา เด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกตัวจากอากาศอันหนาวเหน็บ
เขาเปิดดวงตาสีฟ้าของตัวเอง มองมารดานอนหลับสนิทในท่าตะแคงก็ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
เมื่อครู่เขาเจ็บเจียมตาย แต่เป็นเพราะท่านแม่ร่างเวทมนตร์ เขาถึงจะนอนหลับ และตอนนี้ร่างกายเขาก็ไม่มีความเจ็บปวดแล้ว
ท่านแม่เป็นเทพธิดาจริงๆใช่หรือไม่?
เช่นนั้น...เขาก็ไม่ใช่ปีศาจสิน่ะ?
เขาไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรกับท่านแม่ที่เป็นเทพธิดาเลย
ระหว่างที่คิด เขาเอื้อมมือไปกอดแขนมารดาไว้แน่น จากนั้นก็ค่อยๆเข้าสู่นิทราอีกครั้ง
ไป๋ซือหวงตื่นเพราะมีสายลมหนาวพัดมากระทบร่างกาย นางพลิกกายแล้วลงจากเตียง เมื่อมองสิ่งแวดล้อมอันซอมซ่อ หักพังก็ต้องถอนหายใจ
นางเดินมายืนหน้ากระจกทองแดงแล้วเห็นใบหน้าอันน่ากลัวก็ต้องดันกระจกออก
อัปลักษณ์เกินไปแล้ว นางทนดูต่อไม่ได้
ชาติที่แล้วนางเป็นสตรีตัวสูง มีรูปโฉมงามสะคราญดุจบุปผา ถึงจะข้ามภพมายังมิติใหม่ แต่จะน้อยหน้าไม่ได้
ในความทรงจำของนาง เหมือนเจ้าของร่างเดิมจะเป็นอีสุกอีใสจนทำให้เสียโฉม
คนยุคโบราณเชื่อคำพูดลวงโลกนี้สนิทใจ ทว่านางเรียนการแพทย์แต่เด็ก รู้ว่าโรคอีสุกอีใสไม่มีทางทำให้เสียโฉมอย่างแน่นอน
ต้องมีสาเหตุอื่นแน่
หลังจากที่นางทะลุมิติมา จำได้ว่าร่างเดิมมีแต่คราบเลือด แต่ก็หายดีอย่างน่าประหลาดใจ หรือว่าร่างกายนี้จะมีไกกลวิเศษ?
เมื่อมีคำถามคาใจ นางก็เข้ามิติแห่งกาลเวลา ใช้ค่าน้ำใจสองร้อยแต้มเพื่อตรวจสุขภาพทั้งร่างกายด้วยความเสียดาย
หลังจากผ่านการตรวจร่างกายโดยเครื่องมือแพทย์แล้ว ผลตรวจก็ออกมาอย่างรวดเร็ว
ผลตรวจระบุว่าร่างกายปกติ ทว่าใบหน้ามีสารพิษบางอย่างที่ทำให้เสียโฉมอยู่
ไป๋ซือหวงมองใบรายงานผลตรวจด้วยแววตาเย็นเยียบ
ร่างเดิมเสียโฉมตอนเด็ก ซึ่งนอกจากคนในจวนแล้ว นางก็ไม่เคยพบเจอคนนอกมาก่อน
“เสี่ยวหลาง ตอนนี้เชื่อหรือยังว่าแม่เป็นเทพธิดา?”
นางแสร้งทำเป็นเพิ่งตื่นนอน พลางพูดหยอกล้อ
ถึงแม้ในใจเสี่ยวหลางจะเชื่อแล้ว แต่ก็ยังคงเอียงคอคิดอยู่นาน ก่อนจะถามด้วยความระมัดระวัง “ท่านแม่เป็นคนคลอดข้า ดังนั้นข้าเป็นลูกของเทพธิดาใช่ไหมขอรับ?”
ไป๋ซือหวงเห็นใบหน้าอันมีความหวังของเขาก็พูดปดโดยไม่กระดากปาก “ใช่แน่นอน ดังนั้นดวงตาสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของเทพ ล้ำค่ากว่าเด็กที่รังแกเจ้าเยอะเลย”
“อันนี้คืออะไรขอรับ?”
เสี่ยวหลางใช้นิ้วเล็ก ๆ ชี้พาสเตอร์น่ารักๆที่ข้อมือตัวเอง พลางถามด้วยความฉงนสนเท่ห์
“อันนี้หรือ เป็นรอยจากที่แม่ใช้พลังเมื่อครู่”
“อ่อๆ”
เสี่ยวหลางเชื่อด้วยความมึนงง ไป๋ซือหวงเห็นใบหน้าไร้เดียงสาพยักหน้าหงึกๆก็รู้สึกเอ็นดู
นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเสี่ยวหลาง ทว่ามือยังไม่ทันแตะตัวเขา เสี่ยวหลางก็รีบถอยหลังทันที
แต่เขารู้สึกทำแบบนี้ไม่ดี จึงยื่นหัวไปใต้ฝ่ามือนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลังแห่งจันทรา