พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 114

เฟิ่งชิงหัวก้มมองลงไปที่ชุดผ้าไหมสีดำบนร่างกายของนาง แล้วก็มองไปยังเรือนร่างของจ้านเป่ยเซียว ไม่รู้ว่าเหตุใด จึงพูดโพล่งออกมา “เสื้อผ้าของเราสองคนคล้าย ๆ กันเลย แม้แต่ลายยังก็เหมือนกันอีกด้วย”

หลังจากพูดจบ ก็เห็นว่าชายหนุ่มที่กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้นวางหนังสือลง ดวงตาสีเข้มคู่นั้นจ้องมามาที่ตน เหมือนกับเมื่อครู่นี้ไม่มีผิด

เฟิ่งชิงหัวรีบเอ่ยพูด “จะถามเรื่องคดีไม่ใช่หรือ ถามมาเลย มีสิ่งใดยังไม่ชัดเจนอีก”

“นั่งลงเสีย” ชายหนุ่มเอ่ยปาก จากนั้นสายตาก็มองไปยังเก้าอี้นุ่มที่อยู่ข้าง ๆ

“ไม่ ไม่เป็นไร ข้ายืนอยู่ตรงนี้รายงานคดีก็เหมือนกัน ดูเป็นมืออาชีพอีกด้วย ฮะฮ่า” เฟิ่งชิงหัวหัวเราะสองทีด้วยท่าทีทำตัวไม่ถูก

“ในตอนนี้เจ้าเป็นผู้ชันสูตรคนหนึ่ง เป็นมืออาชีพมากกว่านี้ได้หรือไม่?” จ้านเป่ยเซียวพูดเสียงขรึม

“นั่งก็นั่ง” เฟิ่งชิงหัวรีบทำสีหน้าหน้าจริงจัง นั่งลงบนเก้าอี้นุ่ม “ถามมาเถอะ”

“แหวนหยกวงนั้น คือของจ้านถิงเฟิง”

“อือ ข้ารู้แล้ว แต่ว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนที่ลงมือฆ่า” เฟิ่งชิงหัวพูด

“เหตุใด?”

“ปัญหาเรื่องนิสัย” เฟิ่งชิงหัวพูดเสียงขรึม “จ้านถิงเฟิงเดิมแล้วเป็นคนที่ชาญฉลาดอย่างมาก ผู้หญิงที่ต้องตาต้องเป็นคนที่มีหน้าตาและฐานะที่โดดเด่น อ้างอิงจากที่เขาให้ความสำคัญกับราชบัลลังก์ เขาต้องแต่งงานกับคนที่จะช่วยให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ได้เป็นแน่ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหญิงสามัญชนในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้แน่ ในกรณีที่เป็นไปได้ยากที่สุด หากเขาต้องตาหญิงสาวสามัญชนจริง ๆ อย่างมากก็แค่เก็บซ่อนเอาไว้เป็นสนมลับ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมอบของแทนใจให้กับอีกฝ่ายหลังจากร่วมหลับนอนกัน ให้ต้องออกตามหาด้วยไปทั่วทุกหนแห่ง สุดท้ายก็ฆ่าและอำพลางว่าเป็นการฆ่าตัวตายอีก มันอ้อมค้อมเกินไป”

“เช่นนั้น เหตุใตแหวนหยกวงนั้นจึงเป็นการมอบให้ ไม่ใช่การขโมยมา?”

“ตามระดับที่เซียวรัวสุ่ยให้คุณค่าต่อแหวนหยกวงนั้น หากว่าเป็นการขโมยมา นางไม่น่าจะพกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา ขายทิ้งไปเสียจะไม่ดีกว่าหรือ? ต่อมานางกลืนแหวนหยกวงนั้นลงไป แสดงว่าฆาตกรมีความเกี่ยวข้องกับแหวนหยกวงนี้” เฟิ่งชิงหัวเอ่ยพูด ทั้งยังเสริมอีกประโยค “เกี่ยวข้องกับผู้ชาย”

เฟิ่งชิงหัวเป็นนิติเวชมาหลายปี ทั้งยังเคยฝึกวิชาอาชญาวิทยา สำหรับเรื่องเราประเภทนี้นางมีสัญชาตญาณที่เฉียบแหลม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่องรอยบนร่างของเซียวรัวสุ่ย รวมถึงสิ่งที่นางตรวจพบ เพียงพอให้นางคาดเดาเรื่องราวได้เกือบทุกส่วนแล้ว ในตอนนี้เพียงแค่ต้องได้รับการยืนยันทีละรายการเท่านั้น

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าฆาตกรเป็นชาย เช่นนั้นเหตุใดเจ้ายังกักทุกคนเอาไว้ในวัดแห่งนี้อีก?” จ้านเป่ยเซียวเลิกคิ้วมองนาง ถึงจะเป็นการถามไปอย่างนั้น แต่สีหน้าของเขากลับแสดงออกว่ารู้ดีที่การที่เฟิ่งชิงหัวทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล

ผู้หญิงคนนี้ ความแค้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ต้องถูกแก้แค้น อีกทั้งสำหรับคนที่ขัดหูขัดตา ก็จะไม่มีทางที่จะเมตตาเลยแม้แต่น้อย

เฟิ่งชิงหัวเลิกคิ้วเลียนแบบอีกฝ่าย “ในตอนนี้ข้าก็เพียงแค่คาดเดาเท่านั้น หากข้าคาดเดาผิด ฆาตกรเป็นผู้หญิงขึ้นมาล่ะ? อีกอย่าง เหตุใดข้าจึงจำเป็นต้องล้องมนทินให้พวกนาง? ข้าดูเหมือนคนโง่มากเช่นนั้นหรือ?”

จ้านเป่ยเซียวขบขันกับการแสดงออกของนาง มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย พูดต่อเสียงเบา “เล่นลิ้น”

เฟิ่งชิงหัวจ้องเขา “ข้าเล่นลิ้นอย่างไร ข้าเป็นเพียงแค่ผู้ชันสูตรตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง บอกว่าควบคุมตัวใต้เท้าเหยียน คนตัวเล็กไม่มีปากเสียงอย่างข้า จะไปมีวิธีใดเล่า! ”

ประโยคที่บอกว่าไม่มีวิธีนั้น พูดออกมาได้เต็มภาคภูมิอย่างเป็นพิเศษ

จ้านเป่ยเซียวเลิกคิ้วมองนาง “ผู้ชันสูตรตัวเล็ก ๆ? ข้าเห็นว่าเมื่อครู่นี้ รัศมีความแค้นที่เจ้ามีต่อองค์ราชทายาทนั้นช่างแสดงออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมทีเดียว”

เขามองออกเหยียนหรูชิงชื่นชมนางอย่างมาก กระทั่งมอบคดีนี้ให้นางสอบสวน เกรงว่าอีกไม่นาน นางก็ต้องได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่จ้านเป่ยเซียวกลับไม่ได้ยินดีมากมายเท่าไรนัก

พูดถึงตรงนี้ จ้านเป่ยเซียวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พักผ่อนเถอะ”

เฟิ่งชิงหัวได้ยินคำพูดนี้ของเขานั่นก็หมายความว่าไม่ถามเรื่องคดีต่อแล้ว พยักหน้าแล้วมองไปรอบ ๆ “ท่านนอนห้องด้านในหรือห้องด้านนอก?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว