พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 122

สวีกว่างมองไปยังนายท่านของตนครู่หนึ่ง ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความหมายว่าทุ่มวางเดิมพันทั้งหมดในการเสี่ยงวัดดวงครั้งสุดท้าย: “คนผู้นั้นข้ารู้จักตอนอยู่ที่อันโจว ตอนนั้นเขาจงใจที่จะมาตีสนิทกับข้า บอกว่าสามารถช่วยองค์รัชทายาทได้ ไม่ต้องการการตอบแทนใดๆ ข้าเห็นว่าเขามีฝีมืออยู่บ้าง ดังนั้นก็เลยปิดบังองค์ท่านแล้วก็รับเขาเข้ามา เพราะว่าเขาก็ไม่ได้ทำความดีความชอบอะไรมากมาย ดังนั้นข้าก็เลยไม่ได้พามาให้องค์ท่านรู้จัก หลังจากเกิดเรื่องในครั้งนี้ขึ้น ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้อย่างไร ก็ติดต่อมาหาข้าเองโดยตรงบอกว่าสามารถช่วยให้ข้ารอดได้ เดิมข้าก็ว้าวุ่นใจจนคิดอะไรไม่ออกอยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยรับปากไป”

“แล้วเจ้ามองออกได้ยังไงว่าเขามีฝีมืออยู่บ้าง?” เฟิ่งชิงหัวกล่าวออกมาด้วยความแสร้งทำเป็นว่ารู้อยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงกลับเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

สวีกว่างกวาดสายตาไปรอบด้านครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกมาอย่างลำบากใจ: “เรื่องนี้เกี่ยวพันกันหนักหนา ยิ่งเป็นอะไรที่คาดคิดไม่ถึงด้วย ไม่อาจตัดสินพิจารณาได้ตามปกติ ดังนั้นเป็นไปได้ไหมที่จะให้คนอื่นๆ หลบออกไป?”

เฟิ่งชิงหัวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พยักหน้า: “ลุกขึ้นมา เข้าไปกับข้า”

จากนั้นเฟิ่งชิงหัวดันเก้าอี้ล้อเลื่อนของจ้านเป่ยเซียวเคลื่อนไปด้านในอย่างเป็นปกติมาก จ้านถิงเฟิงชำเลืองมองครู่หนึ่ง ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ตามเข้าไปติดๆ

บริเวณทางเข้า เฟิ่งชิงหัวขวางทางเขาไว้: “ข้าว่า องค์รัชทายาท เมื่อครู่ท่านก็ได้ยินที่บ่าวของท่านพูดแล้วว่า เรื่องนี้ไม่สามารถสรุปได้จากความคิดผิวเผิน ท่านรออยู่ข้างนอกจะดีกว่า?”

จ้านถิงเฟิงกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา: “เรื่องเกี่ยวพันถึงบ่าวของข้า โดยเฉพาะเมื่อครู่เขาได้บอกไปแล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้า ข้าเข้าไปฟังอยู่ข้างๆ ก็คงจะไม่มีอะไรไม่สมควรกระมัง?”

“องค์ท่าน ฐานะที่ท่านเป็นผู้ต้องสงสัยยังไม่ได้ถูกลบเลือนหายไปเลย เข้าไปสง่าผ่าเลยเช่นนี้ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านเข้าไปในห้องฟังอยู่ข้างๆ หรือว่าเข้าไปแสดงอาการบ่งบอกให้บ่าวของท่านรับบาปอย่างไร? จะว่าไปอีกแม้ว่ากระหม่อมจะบอกว่าคนร้ายในคดีฆ่าคนตายนี้จะไม่ใช่ท่าน แต่ที่แท้แล้วเป็นท่านที่เห็นชอบด้วยหรือไม่นั้นก็ยังไม่แน่ชัด ยังมีจุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง ถ้าเกิดว่าบ่าวของท่านเพื่อให้หลุดพ้นจากความผิดแล้วกุเรื่องโกหกลวงโลกขึ้นมา ท่านอยู่ที่นี่ก็จะยิ่งกระทบต่อการตัดสินของพวกเราได้”

จ้านถิงเฟิงถูกคำพูดแต่ละคำแต่ละประโยคของเฟิ่งชิงหัวต่อต้านอย่างรุนแรงจนสีหน้าซีดเขียวไปเลย จากนั้นก็กล่าวด้วยเสียงโมโห: “งั้นทำไมเขาจึงเข้าไปได้?”

เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นก็มองไปยังจ้านถิงเฟิงราวกับว่ามองคนโง่คนหนึ่งก็ว่าได้: “องค์ท่าน ข้าสงสัยจริงๆ ว่าท่านดำรงตำแหน่งเป็นรัชทายาทได้อย่างไร? เป็นเพราะว่าท่านแม่ของท่านเป็นฮองเฮางั้นเหรอ?”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร!”

“ก็ไม่ได้หมายความว่าไง ข้าเพียงแต่อยากจะบอกว่าฆาตกรกับผู้ต้องสงสัยจะไม่อยู่ในศาลเดียวกัน เหตุผลที่คนธรรมดายังเข้าใจได้ เหตุใดองค์ท่านจึงดูเบาปัญญาไปอยู่บ้างเล่า ฮะ ขอโทษด้วย เบาปัญญาน่าจะต้องเป็นท่านที่กล่าวออกมาเองมากกว่า ไม่ควรเป็นคนอื่นที่มาให้การยืนยันนี้กับท่าน” เฟิ่งชิงหัวหัวเราะออกมาอย่างจริงใจ และไม่ได้มีความรู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียว

ชายในฝันในสายตาของหญิงสาวในพระนครถูกเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้ แม้ว่าจะเป็นองค์รัชทายาทที่ได้รับการขนานนามว่าอ่อนโยนและเฉียบแหลมมาตลอดก็ย่อมอดรนทนไม่ไหวเช่นกัน ไม่รักษาท่าทีไม่รู้สึกรู้สาภายนอกต่อไปอีก กล่าวออกมาด้วยเสียงโมโหและสีหน้าที่ดุร้ายเล็กน้อย: “เฟิ่งเซียว ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาท ก็ควรจะสำเหนียก! ตามฐานะของข้าสามารถทำให้เจ้าตายได้ 10 ครั้ง 100 ครั้ง! อย่ามาเล่นลิ้นกับข้าที่นี่ สวีกว่างเป็นคนของข้า เรื่องนี้ความจริงเป็นอย่างไร ข้ามีวินิจฉัยที่ยุติธรรมอยู่แล้ว เจ้าอยู่ที่นี่ก็เพียงแค่ร่วมมือทำการตรวจสอบคนร้ายเท่านั้น บัดนี้คนร้ายตัวจริงได้ประจักษ์แล้ว อย่างอื่นไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเจ้าเลย!”

“อ่อ แบบนี้งั้นเหรอ ที่องค์รัชทายาทพูดมาก็ถูก กระหม่อมเกือบก้าวก่ายเกินหน้าที่แล้วสิ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเรื่องที่ค้างคาอยู่ก็มอบให้เป็นหน้าที่ขององค์รัชทายาทแล้ว” ในขณะที่พูดอยู่ เฟิ่งชิงหัวทำมือประสานคารวะ จากนั้นก็แบมือออก: “น้อมเชิญองค์ท่าน”

จ้านถิงเฟิงเห็นสถานการณ์แล้ว จู่ๆ ก็คิดไม่ถึงว่าจะขึ้นขี่หลังเสือแล้วลงยากขึ้นมา

หากเป็นเมื่อก่อน เขาก็จะเดินก้าวเข้าไปเลย จะไปสนใจเจ้าคนปากมากพวกนี้ที่ไหน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว