เฟิ่งชิงหัวที่น่าจะเจ็บไข้ได้ป่วยรุมเร้าร่างกายและบวกกับนอนติดเตียงลุกไม่ขึ้นจ้องตาถลึงไปยังผู้ล่วงรู้ที่เหมือนดั่งว่าจะท่องมาจากตำราก็ไม่ปานที่อยู่ตรงหน้านาง ประเดี๋ยวเดียวก็ไม่รู้เลยว่าควรจะทำสีหน้าท่าทางอย่างไรออกมาอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
สีหน้าท่าทางของจ้านเป่ยเซียวก็กวาดสายตามองมาที่เฟิ่งชิงหัวอย่างผิดแปลกไปบ้าง
“พวกเจ้าไม่เชื่อ? งั้นก็รอดูไปเถอะ ไม่เกินครึ่งปี พระชายาผู้นั้นของท่านจะต้องฆ่าตัวตายแน่นอน! ต่อไปอ๋องเฉินก็อย่าแต่งพระชายาอะไรอีกเลย ยังไงก็เป็นการบ่อนทำลายแม่นางคนอื่นเขาอยู่ดี” ผู้ล่วงรู้แหงนศีรษะขึ้นแล้วกล่าวด้วยใบหน้าที่ทะนงตัว
เฟิ่งชิงหัวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม: “ผู้ล่วงรู้กล้าพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าก็คงจะมีความมั่นใจอยู่หลายเท่า งั้นพวกเราก็มาตั้งตารอดูกัน เพียงแต่ข้าน้อยยังมีอีกหนึ่งคำถาม ไม่ทราบว่าสามารถถามได้หรือไม่?”
ผู้ล่วงรู้เห็นว่าหลังจากที่ตนเองเข้ามาก็เป็นคนที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรเลยถามมาตลอดอยู่คนเดียว ก็เลยโพล่งออกมาอย่างไม่ทนว่า: “คำถามของเจ้าทำไมจึงได้เยอะเช่นนั้น อนุญาตให้ถามได้แค่อีกหนึ่งคำถาม!”
“ได้ๆๆ เมื่อครู่ได้ฟังสวีกว่างบอกว่าท่านทราบเรื่องนั้นของราชวงศ์ ไม่ทราบว่าท่านทราบหรือไม่ว่าคนที่ฆ่าทำร้ายซุนผินเป็นใครกัน?” ท่าทางของเฟิ่งชิงหัวเปี่ยมไปด้วยอาการอยากสดับรับฟังอย่างมาก ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความสัตย์จริง ราวกับว่าได้เชื่อถือในตัวของผู้ล่วงรู้ที่อยู่ตรงหน้านี้ไปแล้ว
ฝ่ายชายยืดอกตรงขึ้นมาครู่หนึ่งแล้วตะเบ็งกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า: “นี่แน่นอนว่าข้าทราบ เดิมทีน่ะเหรอ เรื่องแบบนี้ข้าก็จะไม่พูดกับพวกคนพูดมากตัวเล็กๆ เช่นนี้แบบเจ้าหรอก เพียงแต่เห็นแววตาและความอยากรู้อยากเห็นของเจ้าก็นับว่าอยู่ในขั้นที่ไม่เลวนัก งั้นข้าก็จะบอกเจ้าก็แล้วกัน”
เฟิ่งชิงหัวเอามือประสานเข้าหากัน ท่าทางมีมารยาทอย่างคนผู้น้อย ยกผู้ล่วงรู้ผู้นั้นไว้เหนือหัว อารมณ์ผ่อนคลายสบาย ทนไม่ได้ที่จะรีบพูดเรื่องราวที่รู้ทั้งหมดออกมา
หลังมือทั้งคู่ของผู้ล่วงรู้ด้านหลัง แล้วก็กล่าวออกมาเป็นฉากๆ : “หากจะพูดถึงซุนผินผู้นี้ มาจากชนบทลำธารเจียงหนาน รูปลักษณ์นั้นเรียกได้ว่ายิ่งกว่าสาวคณิกา......”
“คุณชายท่านนี้ คนผู้นั้นในวาจาของท่านยังไงก็เป็นถึงชายผินของเสด็จพ่อของข้า ท่านช่วยให้เกียรติด้วย” จ้านถิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างกล่าวเตือนออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
ผู้ล่วงรู้แม้แต่มองก็ยังไม่มองเขาเลย แล้วก็กล่าวต่อว่า: “ก่อนออกเรือนเคยพบผู้ชายคนหนึ่งโดยบังเอิญ ให้คำมั่นสัญญากันลับๆ เดิมนั้นอยากแอบหนีไปกับคนผู้นี้โดยลำพัง แต่กลับถูกสร้างคำพูดหลอกลวง ไปยังวังลึกลับเพื่อเขา เพื่อปรนนิบัติคนผู้หนึ่งที่สามารถเป็นพ่อตนได้ จากนั้นกุ้ยผินผู้นี้ก็เริ่มเก็บร่วมรวมข่าวกรองลับอย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อผู้ชายคนนี้ จากนั้นมีวันหนึ่งกุ้ยผินผู้นี้จู่ๆ ก็พบโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้เข้า และจากนั้นก็ถูกผู้ชายสังหารด้วยมือตนเอง ตำแหน่งของมีดเล่มนั้นน่าจะปักอยู่ตรงตำแหน่งนี้”
ในขณะที่พูดอยู่ก็ยังทำท่าทางประกอบตำแหน่งที่ซุนผินถูกแทงในวันนั้นด้วย
ผู้ล่วงรู้เอ่ยปากว่า: “เอาล่ะ คำถามของเจ้าข้าตอบไปแล้ว สำหรับว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ยังมีเรื่องที่หลอกใช้ให้ซุนผินเก็บรวบรวมข่าวกรองลับอะไรนั้น ข้าก็ไม่ขอพูดละกัน”
เฟิ่งชิงหัวแอบด่าว่ากลับกลอกออกมาคำหนึ่งอย่างลับๆ
แค่อิงตามจุดนี้ ยังไงก็ไม่มีทางจะแน่ใจได้ว่าจริงเท็จประการใด ใครจะไปรู้ว่าเขาจับแพะชนแกะหรือเปล่า หรือว่าเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของซุนผินอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...