“อ๊ะ !” เฟิ่งชิงหัวคำรามด้วยความโกรธพลิกตัวลุกขึ้นนั่งจากเตียง มองดูสีท้องฟ้าภายนอก ยังคงมืดมิด นี่คงจะเกือบจะชั่วยามที่สี่ แต่ทว่านางไม่มีกะจิตกะใจที่จะนอน จึงลุกขึ้นรับลมในลานบ้านเสียเลย
ลานฟางเฟยแห่งนี้ใหญ่กว่าลานบ้านก่อนหน้าของนางหลายเท่า ข้างในลานเพาะปลูกต้นไม้ดอกไม้จำนวนไม่น้อย ขณะนี้เป็นฤดูที่ผลิบาน กลิ่นดอกไม้ชนิดต่าง ๆ อบอวลไปทั่วซึมทะลุเข้าไปในใจ
กระตือรือร้นอยู่ครู่หนึ่ง เฟิ่งชิงหัวก็หักกิ่งไม้อย่างสะดวกมือ กวัดแกว่งอยู่กลางลานบ้าน ท่าทางร่ายรำคล่องแคล่ว ขยับดุจมังกรคะนองน้ำ หลังจากกวาดพลังกระบี่ออกไป กลีบดอกไม้ก็ร่วงหล่นแต่กลับไม่ร่วงลงพื้น กลับล่องลอยไปกับพลังกระบี่ของนางรอบ ๆ ตัวนาง
ใบหน้าเปล่งปลั่งผมดำขลับ เสื้อผ้าชมพูลายลูกท้อ งดงามจนชมไม่หมด
บนหอคอยสูงไม่ไกล ชายหนุ่มจ้องมองฉากนี้อยู่ห่าง ๆ ไม่ละสายตาเป็นเวลานาน
ข้างกายเขา มีคนที่คลุมหน้ายืนอยู่ มองไปตามสายตา ก็พบสตรีกลางลาน กึ่งเสียง กล่าวถามด้วยเสียงมีส่วนเย็นชา : “เจ้าแน่ใจแล้วหรือ ?”
ชายหนุ่มเอ่ยปาก : “ถ้าหากมีคนเช่นนี้ ข้าหวังว่าจะเป็นนาง”
“นางอ่อนแอเกินไป” ชายคลุมหน้าพูดเรียบเฉย
ชายหนุ่มเอ่ย : “หรือว่าข้าแม้กระทั่งคนคนเดียวยังปกป้องไม่ได้ ?”
ชายคลุมหน้าไม่กล่าวอะไรต่อ พูดเพียงแค่ : “ตามใจเจ้า”
ทันทีหลังจากนั้น ชายคลุมหน้าก็จากไป ชายหนุ่มยังคงยืนมองอยู่บนหอคอยสูงเป็นเวลานาน จนกระทั่งร่างนั้นหายไป
วันที่สอง เฉิงเซี่ยงที่ได้ยินว่าพระชายาอ๋องกลับมาทันใดนั้นก็รีบส่งคำเชิญมา หวังว่าพระยาชาอ๋องสามารถมาเยี่ยมเยือนที่จวนได้ คำเชิญได้ถูกส่งมายังมือของเฟิ่งชิงหัว
เฟิ่งชิงหัวมองดูอักษรที่หร็อมแหร็มเสร็จ ก็ยิ้มอย่างไม่ถือสา เปลี่ยนมือและโยนคำเชิญไว้ข้าง ๆ ไม่คิดที่จะให้ความสนใจ
หนานกงจี๋ผู้นี้ ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงผลประโยชน์มาก ทั้งชำนาญการใช้จิตใจของคน ครั้งนี้รีบร้อนอยากให้นางกลับไปเช่นนี้ แน่นอนว่าคงมิใช่เรื่องดีอะไร หลีกเลี่ยงได้ชั่วคราวก็หลีกเลี่ยง ทว่านางก็สงสัย เรื่องครั้งนี้ที่ทำให้เขาร้อนใจ เป็นเรื่องอะไรกันแน่
จากนั้นไม่นานนัก เฟิ่งชิงหัวใช้นกหลวนส่งข่าวฉบับหนึ่งออกไป หลังจากรอทั้งบ่าย ก็มิได้รับข่าวสารตอบกลับอะไรกลับมา ตรงกันข้ามกลับได้รับข่าวคราวของอู่ตู๋จื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...