พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 138

สายตาที่เนี่ยกวางหย่วนมองไปยังเฟิ่งชิงหัวมีความเห็นอกเห็นใจ กล่าวด้วยความโศกเศร้า : “ท่านอาวุโส ถ้าหากมีอะไรให้ช่วย ท่านบอกมาได้เลย มันเป็นหน้าที่ที่ข้าพึงทำ”

“โหวเย่น้อยร้ายแรงแล้ว นี่เป็นตัวอย่างตราประทับของเจ้า รับไว้” เฟิ่งชิงหัวส่งของที่เนี่ยกวางหย่วนให้นางเมื่อครู่นี้ส่งกลับไป ใครจะรู้ เนี่ยกวางหย่วนปฏิเสธและพูดว่า : “ของสิ่งนี้ท่านอาวุโสรับไว้เถอะ วันหลักหากมีอะไรจำเป็น ให้ส่งคนมาหาข้าพร้อมตราประทับนี้ ข้าจะพยายามอย่างสุดกำลังแน่นอน”

เฟิ่งชิงหัวเห็นเขาพูดอย่างตั้งใจ ทำได้เพียงพยักหน้า : “ได้ เช่นนั้นโหวเย่น้อย แล้วพบกันใหม่”

เฟิ่งชิงหัวเก็บตัวอย่างตราประทับกลับไป เดินไปข้างจ้านเป่ยเซียว

สายตาของจ้านเป่ยเซียวตามหลังเฟิ่งชิงหัวไปยังเนี่ยกวางหย่วน ขมวดคิ้ว : “เจ้าคลุกคลีกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”

เฟิ่งชิงหัวยิ้มกล่าว : “ทำไม ท่านอ๋องสนใจใคร่รู้ ?”

ก้าวก่ายมากเกินสินะ คิดว่าตัวเขาเป็นสวามีของนางจริง ๆ แล้ว ?

เฟิ่งชิงหัวทำทุกอย่างที่นางต้องการโดยไม่ทนการกดขี่ใด ๆ ถ้าหากตอนนี้จะต้องอาศัยฐานะของหนานกงเยว่ลั่ว จะถูกจ้านเป่ยเซียวควบคุมทุกด้านอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน

จ้านเป่ยเซียวเหลือบมองที่ที่เฟิ่งชิงหัวว่างตัวอย่างตราประทับ ไม่ได้พูดอะไร

สายตาของเฟิ่งชิงหัวอยู่ที่ของประมูลบนเวทีที่กำลังประมูล

ฉีเป่าเจไม่ใช่คนที่เก่งแต่ปาก นี่เป็นสินค้าชิ้นที่เจ็ดในการประมูล มันคือปะการังแดงที่สูงเท่าคน

ปะการังแดงมาจากทะเลลึก แค่ปะการังแดงขนาดเท่าดอกไม้ในการถางก็ราคาพันตำลึงแล้ว ต้นที่อยู่ตรงหน้าจะต้องเป็นสิ่งล้ำค่ามหัศจรรย์ที่ในโลกมีน้อยมากแน่นอน

ราคาเริ่มประมูลคือสองแสนตำลึง ตอนนี้ไปถึงห้าแสนตำลึงแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เฟิ่งชิงหัวไม่สนใจสิ่งของแวววาวเหล่านี้ ในใจคิดถึงอาวุธของหมู่บ้านศัสตราวุธ คิ้วก็ขมวดเป็นปมแน่น

ในตอนที่เฟิ่งชิงหัวกำลังไตร่ตรอง ทันใดนั้นเสียงเย็นชาของจ้านเป่ยเซียวข้าง ๆ ก็ดังขึ้น : “หนึ่งล้านตำลึง”

ทันใดนั้น จุดสนใจของทั้งงานก็รวมมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง

ที่ที่จ้านเป่ยเซียวนั่งอยู่ไม่เหมือนกับคนอื่น เขาห่างจากเวทีสูงใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นที่ว่างเดียวที่เป็นอิสระ อีกทั้งยังมีม่านโปร่งแสงกั้นสายตาผู้คนจำนวนมากที่อยู่ด้านนอก

เสียงของเขาไม่ได้ดัง แต่หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ออกไป คนทั้งงานกลับได้ยินกันชัดเจนท่วนทั่ว

เฟิ่งชิงหัวถลึงตาโตจ้องมองเขา สายตานั้นกำลังกล่าว คนโง่เงินมาก

ถึงแม้ปะการังแดงนี่จะเป็นของมีค่า แต่ก็เป็นแค่ของตาย หนึ่งล้านตำลึงแค่กองอยู่ในบ้านยังกองไว้ไม่ได้ มาใช่แลกสิ่งนี้ของที่กินดื่มก็ไม่ได้

โลกของคนมีเงินนางไม่เข้าใจ

สำหรับคนอื่น มีคนอยากได้ปะการังแดงนี้ไม่กี่คน แต่ท่านอ๋องเจ็ดเพียงแค่เห็นก็มุ่งมั่นที่จะได้มันมา แม้ว่ามีคนเสนอราคาเพิ่มแต่ก็ไม่กล้า

สุดท้าย ปะการังแดงต้นสวยงามนี้ก็กลายเป็นของท่านอ๋องเจ็ด

รอจนปะการังแดงถูกนำออก ในตอนที่เตรียมสินค้าชิ้นที่แปด เฟิ่งชิงหัวก็อดไม่ได้ที่จะกล่าว : “เจ้าบ้ารึ ? ใช้เงินเป็นของเล่านเช่นนี้ ?”

“เจ้าไม่ชอบ ?”

“ข้าชอบมันเมื่อไหร่กัน ?”

“ไม่ใช่ว่าเข้าจ้องมองมันนานขนาดนั้น ?”

“ที่ไหนกัน ข้าแค่คิดธุระแค่นั้นเอง” เฟิ่งชิงหัวกล่าวโต้แย้งโดยจิตสำนึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว