พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 197

ท่านน้าสุ่ยอยู่ในจวนเฉิงเซี่ยงมากก็นานหลายปี แม้ว่าตัวนางเองจะขี้ขลาดขี้กลัวอยู่บ้าง ถือหางคนเขามาตลอดเลย แต่ว่านางเองก็ไม่ได้โง่อะไร รู้ว่าตอนนี้ตนเองไม่มีเหตุผลที่ดีพอ ตนและลูกสาวยังไงก็ไม่มีทางที่จะออกไปจากสถานที่กินคนแห่งนี้ได้อยู่แล้ว

แม้ว่าเฉิงเซี่ยงจะไม่ได้เลวร้ายกับนางมากนัก แต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับการกดขี่ของฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่กระทำกับตน เขากลับไม่เคยถามมาโดยตลอด

หากเป็นเมื่อก่อนนางไม่กล้าแน่นอน แต่ว่าเพื่อลูกสาวของตน นางตัดสินใจบากหน้าออกไปเลย

จงใจที่จะไม่มองสบตาในทางด้านที่หนานกงจี๋มองมา ท่านน้าสุ่ยคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเฟิ่งชิงหัวทันที: “พระชายา ท่านก็ออกไปจากจวนเฉิงเซี่ยง น่าจะทราบดี ฮูหยินเฉิงเซี่ยงใช้อำนาจบาตรใหญ่ในจวนมาโดยตลอด ยกเว้นคุณหนูใหญ่และนายท่าน ยังไงก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาอยู่แล้ว สนมที่คอยปรนนิบัติมากมายที่เคยอยู่ในจวนเมื่อก่อนนี้ต่างถูกนางกระทำอย่างโหดร้ายทารุณด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ส่วนคนที่อยากจะหนีแล้วถูกจับกลับมานั้นก็ได้เพียงถูกตีอย่างเหี้ยมโหด หากไม่ใช่ว่าเมื่อปีนั้นหลังจากที่ข้าให้กำเนิดคุณหนูสามแล้วก็ดื่มยาที่ไม่สามารถมีบุตรได้อีกตลอดชีวิตลงไปเอง เกรงว่าก็คงจะตกอยู่ในเงื้อมมือโหดเหี้ยมของฮูหยินเฉิงเซี่ยงไปนานแล้ว”

“ข้าคิดว่าข้าระวังในการวางตัวแล้ว ก็จะสามารถปกป้องลูกสาวของข้าให้ปลอดภัยได้ ใครจะไปคิดว่าคุณหนูใหญ่ไม่ได้เห็นลูกสาวของข้าอยู่ในสายตามาโดยตลอด ตั้งแต่เล็กก็เรียกใช้นางเป็นหญิงรับใช้ไม่น้อยเลย ทำโทษให้ไปเก็บดอกบัวในแม่น้ำในช่วงหน้าหนาวจัดๆ ให้ยืนอยู่ท่ามกลางแสดงอาทิตย์ในหน้าร้อนจัดๆ ทั้งหมดต่างก็เป็นอะไรที่เจอมาจนชินแล้ว ก็ได้รับการชักนำจากคุณหนูใหญ่ คุณหนูสามจึงเป็นปฏิปักษ์ต่อพระชายามาตลอด อีกอย่างยังจงใจยั่วยวนองค์รัชทายาทที่เป็นน้องเขยของตนเองในที่ลับตาคนอีก”

“คนชั่วช้า! เจ้าพูดจาส่งเดช! เจ้าเป็นพวกเดียวกันกับหนานกงเยว่ลั่ว! พวกเจ้าต่างอยากจะมาปรักปรำข้ากันทั้งนั้น!” หนานกงเยว่หลีหน้าซีดไปเลย คุกเข่าอยู่บนพื้นและจ้องไปยังท่านน้าสุ่ยอย่างไม่วางตา

ท่านน้าสุ่ยส่ายหน้า: “ข้าไม่ได้ปรักปรำ ทุกคนต่างก็ทราบดี พระชายาและคุณหนูสามต่างไม่ได้ลงลอยกัน เหตุใดข้าจะต้องช่วยพูดแทนพระชายาด้วย ข้าเพียงแค่พูดตามความจริงเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ต่างเป็นสิ่งที่คุณหนูสามบอกข้า บอกว่านางเคยช่วยทั้งสองคนส่งจดหมายให้กัน ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังถูกคุณหนูใหญ่ชักนำหลายครั้งว่าให้ทำให้พระชายาเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อหน้าองค์รัชทายาทด้วย”

“แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ คุณหนูใหญ่ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้มีดต่อคุณหนูสามนี่นา?” เฟิ่งชิงหัวจงใจถามช่องโหว่ที่แฝงอยู่ในนั้นออกมา

ท่านน้าสุ่ยดึงสติกลับมาแล้วรีบกล่าวขึ้นว่า: “ใช่ ก็เป็นเพราะในใจของคุณหนูใหญ่ไม่ยินดี นางอาจจะไม่ได้ต้องการเอาชีวิตของลูกสาวข้า แต่เพียงแค่อยากจะหาคนระบายอารมณ์ก็เท่านั้นเอง แต่ในตอนนี้ลูกสาวของข้าเดิมทีก็ไม่ได้สติมาหลายวันแล้ว จะไปทนต่อบาดแผลเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ขอความกรุณาพระชายาได้โปรดช่วยลูกสาวของข้าด้วย ชาติหน้าบ่าวจะยอมเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนท่าน”

ในขณะที่พูดอยู่ ก็ทำความเคารพโดยการกราบกรานท่าเบญจางคประดิษฐ์มาทางเฟิ่งชิงหัวอย่างยิ่งใหญ่

เฟิ่งชิงหัวมองมายังหนานกงจี๋ที่สีหน้าเคร่งขรึม: “ใต้เท้าเฉิงเซี่ยง ตอนนี้ไม่มีคำพูดใดจะพูดอีกแล้วใช่เปล่า บัดนี้คุณหนูใหญ่และคุณหนูสามมีความขัดแย้งมากเช่นนี้ หากปล่อยให้นางอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะไม่นานนัก คุณหนูสามก็จะต้องตายอยู่ในจวนอ๋อง บัดนี้ความจริงยังไม่แน่ชัด ยาถอนพิษของยาพิษนี้ก็ยังหาไม่เจอ ก็ยังไม่พบคนที่ถูกพิษคนอื่นอีก หากเกิดทำให้การใหญ่ของฝ่าบาทพังไป เกรงว่าไม่ว่าท่านหรือข้าก็คงจะรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ?”

เฟิ่งชิงหัวก็มองไปยังแม่ลูกที่อยู่บนพื้นครู่หนึ่งอีกแล้วกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า: “ใต้เท้าเฉิงเซี่ยงแทนที่จะเอาเวลาว่างมาต่อล้อต่อเถียงกับข้าตรงนี้ จะดีกว่าไหมที่จะใช้เวลาช่วงที่เหลือไปจัดการเรือนในของตนเสียบ้าง เป็นถึงจวนเฉิงเซี่ยงคิดไม่ถึงว่าจะยอมให้ฮูหยินคนหนึ่งมาทำอะไรแปลกประหลาดเช่นนี้ได้ หรือจะดีกว่าไหมที่จะไปสั่งสอนลูกสาวของตนเสียบ้าง ลองไปถามหน่อยว่าลูกสาวที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ บุรุษของตระกูลใดจะกล้าเอาเล่า? แม้ว่าบุรุษเหล่านั้นอาจเป็นเพราะรูปโฉมและความสามารถของคุณหนูใหญ่จึงแต่งเข้าตระกูลไป ใครจะไปคิดว่านางจะเหมือนดังเช่นแม่ของนางหรือเปล่า ตบตีสนม อีกทั้งยังทำให้สนมเหล่านี้ไม่มีทางที่จะให้กำเนิดบุตรได้น่ะ?”

คำพูดนี้ของเฟิ่งชิงหัวราวกับว่าพูดตรงใจของคนที่อยู่ในที่นั้นทั้งหมดก็ว่าได้

แม้ว่าในตอนนี้ฮูหยินเฉิงเซี่ยงจะวางแผนทำร้ายสนมเหล่านั้นหรือไม่ อีกทั้งบนฝ่ามือนังมีชีวิตคนด้วย แต่จวนเฉิงเซี่ยงแต่ก่อนนั้นใสนมมากมายเช่นนั้น บัดนี้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น กลับเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างไม่ต้องเถียงเลย

โดยเฉพาะคนผู้นี้ที่คิดไม่ถึงว่าจะดื่มยาไร้บุตรไปด้วยตนเอง

ใครกล้ารับประกันว่าคุณหนูใหญ่ผู้นี้จะไม่เลียนแบบตัวอย่างที่เห็นนี้ อีกอย่างเฉกเช่นคนที่ทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย แอบลักลอบยั่วยวนน้องเขยเช่นนี้ คุณธรรมจะสูงไปแค่ไหนกันเชียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว