เฟิ่งชิงหัวรีบหลบตาทันที ถึงแม้นางไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่อง แต่ก็สร้างเรื่องเอาไว้ไม่น้อย จึงไม่อยากจะถูกคิดบัญชีย้อนหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่นางกำลังเสียเปรียบ
ทันทีที่จ้านเป่ยเซียวเห็นนางหลบตา ก็รู้ทันทีว่านางกำลังคิดหาทางปัดความผิดอยู่ในใจ ถึงไม่รีบเร่งเร้านาง ให้นางค่อย ๆ แต่งเรื่องออกมาให้ดี ๆ
เฟิ่งชิงหัวครุ่นคิด แล้วพูดออกมาว่า : “ท่านพูดเองไม่ใช่หรือว่า ในจวนแห่งนี้ ข้าอยากทำอะไรก็ทำ ?”
จ้านเป่ยเซียวคิดไม่ถึงเลยว่า จู่ ๆ เฟิ่งชิงหัวจะพูดเช่นนี้ออกมา จึงขานรับ
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้า : “ข้าแค่อยากจะลองดูว่า หากข้าทำร้ายน้องชายของเจ้า จะมีผลลัพธ์เช่นไร ท่านจะคิดบัญชีกับข้าหรือไม่ ?”
จ้านเป่ยเซียวจ้องมองเฟิ่งชิงหัว หรี่ตามองดูอยู่สักพัก มองจนกระทั่งเฟิ่งชิงหัวรู้สึกละอายแก่ใจ แต่ยังคงรักษาสีหน้าที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้เอาไว้ แล้วมองเขากลับเช่นนี้
จ้านเป่ยเซียวกระแอม : “คราวหน้าหากคิดจะสั่งสอนเด็ก สั่งให้พวกหลิวหยิ่งจัดการก็พอแล้ว อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นพี่สะใภ้ของเขา ลงมือด้วยตนเองดูจะไม่เหมาะสมนัก”
เฟิ่งชิงหัวถอนหายใจ จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม : “รู้แล้ว”
จ้านเป่ยเซียวเหลือบมองนางอย่างจนใจ แล้วหันไปพูดกับหลิวหยิ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า : “เจ้าไปดูที่จวนอ๋องสิบสองสักหน่อย หากได้รับบาดเจ็บก็ให้ส่งยาไป”
หลิวหยิ่งพยักหน้า ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ จนรู้สึกตัวชา เกี่ยวกับเรื่องที่พระชายาทรงทำร้ายอ๋องสิบสอง แต่กลับคิดจะทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็กและปล่อยผ่านไปนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก
ขณะที่กำลังจะเดินออกไป ได้ยินพระชายาของตนเองพูดจ้อด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า : “ท่านอ๋อง ท่านรู้ไหมว่าอะไรคือจุดโคมลอย ? เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าสิบสองจะจับข้าจุดโคมลอย อีกทั้งจะจุดโคมลอยคนในครอบครัวของข้าด้วย เป็นการอวยรหรือไม่ ?”
หลิวหยิ่งได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสงสัย พระชายาไม่ทรงรู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ แค่คิดก็น่าจะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องดี
หรือคิดจะแสดงความไร้เดียงสาต่อหน้าท่านอ๋องสักนิด ?
ขณะที่กำลังคิดเช่นนี้อยู่ หลิวหยิ่งก็ได้ยินเสียงของนายท่านพูดขึ้นอย่างดุดัน ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง : “หลิวหยิ่ง เจ้าไปดูนัก หากเขาเจ็บหนักก็แล้วไป แต่หากหากบาดเจ็บเล็กน้อยละก็ จับขาทั้งสองข้างนั้นหักเสีย”
หลิวหยิ่ง : “!”
ที่แท้ ที่พระชายาตรัสเช่นนี้ ก็เป็นการฟ้องนี่เอง เลือดเย็นจริง ๆ
หลิวหยิ่งรีบจากไปทันที เกรงว่าหากตนเองไปช้าอีกเพียงก้าวเดียว ชีวิตน้อย ๆ ของอ๋องสิบสอง คงตกอยู่ในกำมือของพระชายาแน่นอน
อีกทางด้านหนึ่ง ไม่ง่ายเลยที่จ้านชิงอิงจะรักษาชีวิตน้อย ๆ และเดินลากขาที่ถลอกปอกเปิกของตนเองกลับจวนมาได้
เพราะเขาไปฝึกวรยุทธ์แต่เด็ก ดังนั้นในเมืองหลวงจึงไม่มีจวนของเขา แต่อายุของเขาก็ไม่น้อยแล้ว หากอาศัยอยู่ในวังก็ดูไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นฮ่องเต้เซวียนถ่งจึงมอบคฤหาสน์ให้เขาพักอาศัยเป็นการชั่วคราวหนึ่งหลัง
คฤหาสน์แห่งนี้ เป็นจวนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงพระราชทานให้กับขุนนางเก่าสามราชวงศ์ผู้หนึ่ง ขุนนางเก่าผู้นั้นไม่มีผู้สืบสกุล หลังจากสิ้นอายุขัยลงแล้ว จึงนำคฤหาสน์หลังนี้กลับมา และทำการบูรณะอย่างเรียบง่าย
จ้านชิงอิงเพิ่งกลับมาจากด้านนอก ชุดคลุมยาวที่แต่เดิมดูหรูหรา ได้กลายเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วที่ถูกแขวนอยู่บนร่างกายนานแล้ว ที่รัดผมขาดวิ่น ผมเผ้ารุงรัง ดูอย่างไรก็เหมือนคนบ้าชัด ๆ
ทันทีที้ก้าวเข้าประตูมา ก็ถูกพ่อบ้านที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตูขับไล่ออกไป
คนในจ้วนล้วนเพิ่งถูกจัดสรรมา จึงจำจ้านชิงอิงไม่ได้
“ขอทานมาจากไหนกัน ถึงได้กล้าดีมาขอทานอยู่ตรงนี้ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก !”
“เจ้าพูดว่าใครมาของทานกัน ? ข้าเอง !” จ้านชิงอิงพูดด้วยความโมโห
เมื่อพ่อบ้านได้ยินเสียงก็รู้สึกคุ้นหู จึงเดินเข้าไปสำรวจดูให้มั่นใจ จากนั้นก็รีบปรี่เข้าไปพูดอย่างเขินอายพร้อมรอยยิ้ม : “ที่แท้ท่านอ๋องก็กลับมาแล้ว ท่านอ๋อง ทำไมพระองค์ถึงมีสภาพเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ?”
“ถูกหญิงเสียสติทำร้ายเข้า” จ้านชิงอิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา ไม่รู้ว่าปกติแล้วม้าของจวนอ๋องเจ็ดเป็นอะไรเป็นอาหาร ถึงได้ลากเข้าวิ่งไปมาสี่ชั่วยามเต็ม ๆ อย่างมีชีวิตชีวา หากไม่ใช่เพราะในที่สุดเข้าสามารถคลายจุดที่ถูกสกัดออกได้ เกรงว่าคงต้องถูกลากกลับบ้านเก่าแล้ว
จ้านชิงอิงไม่รู้เลยสักนิดว่า เฟิ่งชิงหัวฉีดยากระตุ้นให้กับม้าตั้งแต่ต้นแล้ว หากไม่วิ่งจนหมดแรงคงไม่มีทางหยุดเด็ดขาด
ตอนนี้แม้กระทั่งมือและขาของจ้านชิงอิงต่างก็สั่นเทา ขาทั้งสองข้างเดินด้วยท่าทางที่แปลกประหลาดเหมือนเป็ด ทันทีที่พ่อบ้านเห็น ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา
ที่แท้เป็นเพราะพื้นรองเท้าของจ้านชิงอิง ถูกเสียดสีจนขาดวิ่นนานแล้ว ทำไมฝ่าเท้าถูไถไปกับพื้น ปากรองเท้าด้านขวาเปิดออก เผยให้เห็นนิ้วหัวแม่เท้าของชายหนุ่ม
จ้านชิงอิงมีสีหน้าเขียวคล้ำ ไม่มีเวลาที่จะคิดสั่งสอนเขาเสียด้วยซ้ำ และพูดด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง : “ยังไม่รีบประคองข้าเข้าไปอีก !”
“พ่ะย่ะค่ะ ๆ ๆ” พ่อบ้านประคองจ้านชิงอิงและกำลังจะเดินเข้าไปด้านใน หลิวหยิ่งที่แอบเฝ้าดูอยู่ตลอดก็เดินออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...