ทันใดนั้นดวงตาของฮ่องเต้เซวียนถ่งก็หันไปยังเฮงเฮาที่ตลอดมาไม่รู้ถึงการมีอยู่ : “ว่ามา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ฮองเฮาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่รู้ว่าควรกล่าวอย่างไร ถึงแม้นางจะเห็นกับตาจริง ๆ แต่ในขั้นตอนนั้น นางก็แค่โกรธและตกใจเพียงเท่านั้น กลายเป็นพวกเดียวกันกับองค์หญิงซีหลันไปได้อย่างไรกัน
ในเวลานี้เฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างเอ้อระเหยอยู่ข้าง ๆ : “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ท่านก็พูดเถอะ หรือว่า ท่าคิดจะรอจักรพรรดิประทานการแต่งงานจริง ๆ ให้องค์รัชทายาทแต่งงานกับคนเช่นนี้ ?”
“หุบปาก ใช่เรื่องที่เจ้าจะสอดปาก ? หวันเอ๋อร์ดีขนาดนี้ ช่วยไม่ได้ที่เจ้าจะใส่ร้าย”
“เหอะ ๆ” เฟิ่งชิงหัวหัวเราะ ถากถางอย่างมาก
ฮองเฮามองไปยังใบหน้าของไทเฮาที่ตัดสินใจจะให้เจียงหยูหวันเป็นพระชายาองค์รัชทายาท และมองไปยังจักรพรรดิที่ยังคงเตรียมคล้อยตามไทเฮา หากว่าลงพระราชโองการแล้วจริง ๆ เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่งยาก
ครั้งก่อนองค์รัชทายาทเพราะงานที่ถอนหมั้นของตระกูลหนานกงจึงทำให้พระองค์ไม่พอใจ ตอนนี้ เมื่องานแต่งนี้ประทานแล้ว ก็จะไม่มีทางที่จะย้อนกลับได้
ฮองเฮามองลูกชายของตนเองอย่างลึกซึ้ง ในที่สุดก็รวบรวมความกล้า
“ดี ข้าจะพูด เรื่องเป็นเช่นนี้ วันนี้องค์หญิงซีหลันมาเยี่ยมเยือนข้า จากนั้นคุณหนูเจียงก็มา ทั้งสองเกิดการเสียดสีกันขึ้นเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองก็พนันกัน ให้ข้าเป็นพยาน...”
ฮองเอาเล่าทุกอย่างที่เฟิ่งชิงหัวพูดเกี่ยวกับเจียงหยูหวันที่เหยียบเรือสองแคม ในที่นี่นอกจากเฟิ่งชิงหัวและฮูหยินเฒ่าเจียงที่สลบไปไม่ได้แสดงออกอะไร ใบหน้าของคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย
ความตกใจตั้งแต่แรกของฮ่องเต้เซวียนถ่ง ใบหน้าของเขาซีดเซียวในตอนท้าย โดยเฉพาะประโยคนั้นของเจียงหยูหวัน เพื่อที่จะไม่แต่งกับเจ้าเจ็ดของตนเอง คาดไม่ถึงว่าจะแกล้งป่วย ตามฮูหยินเฒ่าเจียงกลับบ้านเกิด
เรื่องนี้เขารู้ดี ในตอนนั้นเจ้าเจ็ดนอนไม่สบายอมทุกข์อยู่บนเตียงเพราะอาการบาดเจ็บ เขาจึงอยากประทานแต่งงานให้เขา เพื่อให้เขาสบายใจขึ้น ใครจะไปคิดเจียงหยูหวันผู้นั้นจู่ ๆ ก็ป่วยอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรมาก ในตอนนี้ทุกอย่างกลับปะติดปะต่อกันขึ้นมา
ไทเฮาเองก็คิดไม่ถึง ผู้หญิงที่นางบอกว่าน่ารักฉลาดหลักแหลม จะเป็นเช่นนี้
ถึงแม้นางไม่ชอบจ้านเป่ยเซียว แต่อย่างไรจ้านเป่ยเซียวก็เป็นหลานของตน จ้านเป่ยเซียวนั้นอัมพาตจริง แต่นั่นก็เป็นคนของราชวงศ์ เป็นคนที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างนางกล้าเมินเฉยรึ ?
ตอนนี้ยังคิดอยากจะแต่งงานกับองค์รัชทายาท ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปเถอะ !
สีหน้าขององค์รัชทายาทเองก็ไม่ดีนัก ใบหน้าที่ปกติดุจดั่งอาบลมในฤดูใบไม้ผลิก็เต็มไปด้วยความหม่นหมอง
เดิมทีคิดว่าแต่งงานกับเจียงหยูหวันก็จะเป็นการกระทบกับจ้านเป่ยเซียว ใครจะไปรู้ ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นสาวใจง่าย ด้านหนึ่งแบ่งให้ตนเอง อีกด้านแอบไปสารภาพที่ห้องของเจ้าเจ็ด แม้กระทั่งเมื่อวันก่อน ยังไปขวางรถม้าของจวนอ๋องเฉิน
ในเวลานี้ฮองเฮามองไปยังการแสดงออกของไทเฮากับจักรพรรดิ ก็รู้สึกสบายกายสบายใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกยินดีหลังจากลำบากมานาน
โดยเฉพาะไทเฮา เจ้ามิใช่ว่าอยากให้จักรพรรดิประทานแต่งงานรึ ตอนนี้รู้ว่าคนที่ประจบประแจงเจ้าเป็นเช่นนี้ ข้าจะดูว่าเจ้ายังจะมีหน้าอะไร !
เจียงหยูหวันค่อนข้างห่างจากคนอื่น ๆ ในตอนที่ได้ยินฮองเฮาพูด นางก็รู้ ครั้งนี้ตนเอง กลับตัวไม่ได้แล้วจริง ๆ
ขณะนี้ท่านย่ายังไม่ได้สติ ถึงแม้ว่าฟื้นขึ้นมา ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้
นางในตอนนี้ไม่มีความรู้สึกตื่นตระหนกเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว เพียงแค่หันหลังให้คนมากมายด้วยสีหน้าแข็งทื่อ มองไปยังใบหน้าที่นอนสลบของท่านย่า
การเปลี่ยนแปลงของจ้านเป่ยเซียวเล็กน้อยมาก เพียงแค่ในตอนที่ได้ยินรายละเอียดรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
ฮ่องเต้เซวียนถ่งกล่าวเสียงเย็น : “เจ้าเจ็ด ที่ฮองเฮาพูดเป็นเรื่องจริง คุณหนูตระกูลเจียง หากเคยสกัดพระชายาเจ็ดบอกว่าให้นางยอมยกตำแหน่งให้ และยังเคยบุกเข้าไปในห้องของเจ้าคนเดียว และยังเขียนจดหมายให้เจ้า ?”
หัวคิ้วของจ้านเป่ยเซียวขมวดแน่นเล็กน้อย ราวกับเลี่ยนเอียน กล่าว “อืม”
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เสด็จย่า ข้าวิงวอนให้ยกเลิกคำสั่งที่ประกาศไปด้วย ลูกไม่อยากแต่งงานกับหญิงที่เป็นสาวใจง่ายเช่นนี้” จ้านถิงเฟิงดึงแขนเสื้อออก คุกเข่าลงอ้อนวอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...