เฟิ่งชิงหัวเดินกลับออกมาจากบันไดหินสลัก เมื่อผ่านภูเขาเทียม จู่ ๆ ก็ถูกลากเข้าไป เหลียนซินที่เดินอยู่ข้างหลังเห็นเช่นนี้ก็ตกใจ
“องค์หญิง !” เหลียนซินกำลังจะร้องของความช่วยเหลือ ข้างในก็มีเสียงราบเรียบของเฟิ่งชิงหัวออกมา
“ข้าไม่เป็นอะไร เจ้าเฝ้าอยู่ข้างนอกก่อน อย่าให้ใครพบ”
“เพคะ” เหลียนซินออกห่างมาจากภูเขาเทียมเล็กน้อย มองดูรอบด้าน ไม่พบใคร ก็ซ่อนตัวอยู่หลังตันไม้หนาทึบอย่างเฉลียวฉลาด
ในภูเขาเทียม เฟิ่งชิงหัวสองแขนกอดอกอย่างไม่มีความผิดมองไปยังชายตรงหน้า : “เจ้ามีเวลาอะไรที่ไม่สามารถกลับไปคุยกับข้า ต้องมาอยู่ที่นี่ ไม่ลงแรงแต่รอหวังผล ?”
“ตอนนี้ข้าก็รอจนพบแล้วมิใช่รึ ?” นัยน์ตาของจ้านเป่ยเซียวลำพองใจ
เฟิ่งชิงหัวหัวเราะเยาะ : “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะเดินทางนี้ หากข้าเดินเตร่ไปที่อื่นล่ะ ?”
“งั้นข้าก็จะไปจับเจ้าที่อื่น มักมีโอกาสเสมอ” จ้านเป่ยเซียวกล่าวเสียงเย็น
“ก็ได้ เจ้ามาหาข้าทำไม ?” เฟิ่งชิงหัวถามอย่างหงุดหงิด
ที่นี่คือพระราชวัง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฐานะของตนก็คือองค์หญิง หากมีคนพบว่า “ประชุมลับ” อยู่กับเขาที่นี่ ถึงเวลานั้นองค์ความสัมพันธ์ของหญิงซีหลันกับท่านอ๋องเจ็ดแพร่สะพัดออกไป จากนั้นไม่ใช่นางที่จะลำบาก
จ้านเป่ยเซียวได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาคลุมเครือ ยืนมือออกไปช้า ๆ โอบรอบเอวของเฟิ่งชิงหัว ; “ข้าไม่อยากทำอะไร เพียงแค่ มือของข้ามันไม่ค่อยฟังคำสั่ง และก็ไม่รู้ว่าเจ้ามีผลกระทบกับมันไหม”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปยังมือของเขา ไม่ได้มีปฏิกิริยาสักพัก กล่าวอย่างตรงไปตรงมา : “มือของเจ้าจะไม่ฟังคำสั่งได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ยังดีอยู่ไม่ใช่รึ ? ข้าดูหน่อย”
ระหว่างที่พูดก็จะดึงมือของเขามาจับชพจรให้ แต่ทว่าจ้านเป่ยเซียวกลับโอบเฟิ่งชิงหัวแน่นกว่าเดิม หน้าอกเป็นระยะ
“เจ้ายิ้มอะไรอีก ? ข้าพูดมันน่าตลกหรือ ?” เฟิ่งชิงหัวไม่เข้าใจ
จ้านเป่ยเซียวกลับกล่าวต่อ : “ไม่เพียงแต่มือนี้ที่ไม่เชื่อฟัง ปากก็ด้วย ไม่ค่อยที่จะเชื่อฟัง ราวกับอยากจะเข้าไปแนบชิดอะไรอยู่ตลอด”
ระหว่างพูด จูบหนึ่งก็ประทับลงบนริมฝีปากของเฟิ่งชิงหัว บดละเอียดไป ๆ มา ๆ
เฟิ่งชิงหัวยื่นมือผลักเขา ตัวลาดเอียงไปข้างหลัง ปฏิกิริยาที่แสดงกลับมา ชายคนนี้ไม่ได้ป่วยสักนิด เห็นชัด ๆ ว่ากำลังลวนลามกันอยู่
ไม่ฟังคำสั่ง เห็นชัด ๆ ว่าตัวเขาเองนั่นแหละใช้วิธีสกปรก
“จ้านเป่ยเซียว เจ้ามีของตกพื้นแล้ว !” เฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างโมโห
“อะไร ?”
“ศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีของเจ้ามันตกลงพื้นแล้ว รีบเก็บขึ้นมาสิ !”
“ศักดิ์ศรีมีประโยชน์อะไร ข้าไม่ได้กินศักดิ์ศรีเป็นข้าว” จ้านเป่ยเซียวกล่าวในใจ รักษาหน้า จะสามารถโอบกอดหยกเนื้ออ่อนได้ ?
ครั้งนี้เฟิ่งชิงหัวรู้สึกว่าจ้านเป่ยเซียวราวกับเปลี่ยนแกนกลางไปแล้ว หรือว่ามีวิญญาณหนึ่งอยู่ในร่างของเขา มิน่าเล่านิสัยคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้มากเพียงนี้
ก่อนหน้านี้เป็นคนเย็นชา ขยับไม่ขยับก็อะไร ไม่รู้จักมารยาท ไม่ก็ต้องคงโทษคน ผลสุดท้ายตอนนี้กลับรังแกลวงลามผู้หญิง
“เดี๋ยว ๆ” จู่ ๆ เฟิ่งชิงหัวก็ราวกับหาจุดสำคัญอะไรได้ จ้องมองไปที่จ้านเป่ยเซียวอย่างอันตราย
“เดี๋ยวอะไร ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...