เฟิ่งชิงหัวได้ยินคำกล่าวเช่นนี้รู้สึกเพียงว่าได้ยินเรื่องพวกนี้มามากเกินไปแล้ว คนพวกนี้ ความตายมาอยู่ตรงหน้าถึงจะนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังมีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู ก่อนเกิดเรื่องตอนที่เป็นสุนัขรับใช้ของคนอื่นทำไมไม่เคยคิดว่าจะส่งกระทบต่อทั้งครอบครัว?
“วันนี้ข้าจะตัดหัวของเจ้าซะ จะได้ไม่ทำให้ครอบครัวของเจ้าคอยหวาดระแวงทุกคืนทุกวัน เป็นเช่นไร?” หญิงสาวใช้แส้ยกคางของคนคนนั้นขึ้นแล้วกล่าวขึ้นมา
“พระชายาไว้ชีวิตด้วย พระชายาไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อย ข้อน้อยก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น พระชายาได้โปรดเมตตาด้วย”
เดิมทีจู่ปู้นึกว่าพระชายาจะต้องถามเขาว่าตกลงใครเป็นคนสั่งการอย่างแน่นอน แต่แล้วหญิงสาวกลับไม่ได้ถาม แต่หันไปนั่งที่ห้องโถงแทน มือข้างหนึ่งประคองศีรษะเอาไว้กล่าวออกมาอย่างหละหลวม: “ในเมื่อเจ้าอ้อนวอนให้ข้าเมตตา เช่นนั้นข้าก็จะเมตตาเจ้าสักครั้งหนึ่ง ตอนนี้ ไปเรียกทุกคนในกรมคลังมาทันที รวมไปถึงใต้เท้าของพวกเจ้า บอกเขาว่า หากเขายังมาไม่ถึงภายในหนึ่งก้านธูป เช่นนั้นข้าก็จะให้เขาพักผ่อนตลอดไป!”
ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่หละหลวม จู่ปู้นั่นกลับถูกลักษณะท่าทางของนางทำให้ตกใจ ไม่กล้าฝ่าฝืนเลยแม้แต่น้อย และไปหาถังเจี๋ยด้วยตัวเอง
ในตอนที่ใต้เท้าถังแห่งกรมคลังปรากฏตัวในห้องโถง ก็เห็นทหารทั้งหลายที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยในเวลาปกติตอนนี้แต่ละคนกำลังยืนหลังตรงมือถือไม้พลองสุยหั่วเอาไว้ มองไปทางประตูใหญ่ด้วยสายตาดุร้าย
ถังเจี๋ยรู้สึกตกใจอย่างมาก คนพวกนี้เปลี่ยนนิสัยไปอย่างนั้นหรือ?
แต่จู่ปู้กลับรู้อย่างชัดเจน เพราะตอนนี้บนร่างกายของเขายังปวดแสบปวดร้อนอยู่เลย
บนร่างกายของบางคนในกลุ่มคนพวกนี้ มากน้อยก็มีรอยแส้กันทั้งนั้น
เฟิ่งชิงหัวมีทักษะฝีมือในการเฆี่ยนตีคนอย่างมาก จะไม่เฆี่ยนตีเจ้าจนเนื้อตัวแตกยับ หนึ่งแส้ฟาดลงไปนอกจากรอยเขียวช้ำแล้วไม่มีปัญหาใดๆเลย แต่ความรู้สึกภายในมีเพียงคนที่ถูกตีเท่านั้นที่จะรู้ ความรุนแรงของความปวดแสบปวดร้อนนั่นยากที่จะบรรยายออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...