ถูกด่าว่าเป็นสุนัขจ้านเป่ยเซียวก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองเฟิ่งชิงหัวด้วยสายตาขรึม ราวกับว่านางได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายและไม่น่าให้อภัย
เฟิ่งชิงหัวกลัวสายตาของเขาจริงๆ รีบยกมือขึ้นอย่างยอมจำนน “ตกลง ตกลง ข้าไม่ดู ได้รึยัง ต่อให้มีใครเอามีดมาจ่อที่คอข้า ข้าก็จะไม่ดู เท่านี้เจ้าพอใจแล้วรึยังเล่า? จะนอนได้หรือยัง?”
จ้านเป่ยเซียวจ้องไปที่เตียงด้านหลังพวกเขา ยุ่งเหยิงและมีรอยย่น ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ทำให้คิดมาก
เฟิ่งชิงหัวคิดว่าเขารักความสะอาดมาก ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นยืนทันทีและก้าวถอยหลังออกไปสองเมตร “เจ้าต่างหากที่บ้าไปแล้วและลากข้าขึ้นมาก่อน ไม่ใช่เรื่องของข้า อย่าหวังให้ข้าจัดที่นอนให้เจ้า ข้าง่วง จะไปนอนแล้ว!”
หลังจากพูดจบ นางก็ผลุนผลันออกจากห้องด้านใน นอนลงบนเก้าอี้ยาวนุ่มๆ ของนาง เอาผ้านวมนุ่มๆ คลุมตัวอย่างรวดเร็ว หลับตาลงและแสร้งทำเป็นตาย
จ้านเป่ยเซียวนอนลง แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยภาพเร้าร้อนก่อนหน้านี้ และนอนไม่หลับทั้งคืน
หลังจากรุ่งสาง เฟิ่งชิงหัวก็ตื่นขึ้นมา เปิดประตูเพื่อออกไป จ้านเป่ยเซียวก็เรียกหลิวหยิ่งเข้ามา
“นายท่าน”
“ตอนนี้พวกเว่ยหยวนถึงที่ไหนแล้ว?”
“เมื่อวานก็ออกจากเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว และตอนนี้น่าจะถึงเขตซู่โจวแล้วขอรับ”
“มอบจดหมายฉบบับนี้ให้กับกองทหารรักษาการณ์ของเซียวเป่ย” จ้านเป่ยเซียวมอบจดหมายที่มีรอยประทับไฟให้กับหลิวหยิ่ง
“พระชายาล่ะ”
“ตอนนี้พระชายาอยู่ในครัว ท่านหญิงผู้นั้นอยากทานแป้งกรอบเป็นอาหารเช้าขอรับ” หลิวหยิ่งกล่าว
จ้านเป่ยเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “บอกนางว่าข้าทานบะหมี่เป็นอาหารเช้า”
หลิวหยิ่งรับคำสั่ง หลังจากออกมาแล้ว เขารู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย นายท่านเริ่มสั่งอาหารเมื่อไหร่กัน?
เฟิ่งชิงหัวซึ่งอยู่ในครัว พูดไม่ออกหลังจากรู้เรื่องนี้ “ท่านอ๋องของพวกเจ้าชอบทำโน่นทำนี่ เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ายุ่งอยู่? จะมีเวลาทำบะหมี่ให้เขาได้อย่างไร?”
“พระชายา นี่เป็นครั้งแรกที่นายท่านรับสั่งทานบะหมี่เป็นอาหารเช้า ท่านทำให้เถอะขอรับ ขนมกรอบนี้ ข้าน้อยช่วยหาคนเฝ้าไฟให้ท่านนะขอรับ?”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็แค่ขอให้ใครสักคนทำบะหมี่ไปส่งแล้วบอกว่าข้าทำ” เฟิ่งชิงหัวไม่ขยับ ยังคงนวดแป้งต่อไป
“ไม่ได้ขอรับ พระชายา ท่านก็รู้ว่านายท่านรับใช้ยากเสมอมา ถ้ารู้ว่าท่านไม่ได้ทำด้วยตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้นก็จะโมแล้วขอรับ?”
เมื่อได้ยินคำว่า “โมโห” เฟิ่งชิงหัวก็รู้สึกเจ็บไหล่อีกครั้ง
กระต่ายตัวนั้น!
“ตกลง เดี๋ยวเจ้ามาเอา”
“นายท่านบอกว่าเขาอยู่ที่หลังภูเขาและให้ท่านไปส่งด้วยตนเองขอรับ” หลิวหยิ่งยังรู้สึกว่านายท่านเรื่องมากเล็กน้อย สีหน้าเขาพูดไม่ออก
โชคดีที่พระชายาตกลงหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซึ่งทำให้หลิวหยิ่ง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
กลัวว่านายท่านจะเรื่องมากมากเกินไป พระชายาไม่ทำ และเขาที่เป็นลูกน้องก็จะลำบาก
ขณะที่กำลังอบขนมกรอบ เฟิ่งชิงหัวเอาก้อนบะหมี่ที่เหลือและเริ่มทำเป็นบะหมี่ หลังจากสุกแล้วตักลงในชามกระเบื้องสีขาวที่ใหญ่ที่สุด ตักเนื้อหนึ่งช้อนเต็ม แล้วโรยพริก ผักชี น้ำมัน ต้นหอม
เนื้อทำจากเนื้อวัวปรุงสุกหั่นเป็นก้อนจากครัวใหญ่ ชุปในน้ำมันร้อน ผัดกับซอสเพื่อเก็บน้ำ
แล้วตักซุปกระดูกชิ้นโตอีกชามที่ต้มไว้ตั้งแต่เช้า โรยด้วยผงเครื่องเทศที่นางบดและต้นหอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...