“อาจารย์ย่า อาจารย์ย่า ท่านจะตายไม่ได้ หากท่านตาย ข้าจะบอกทุกคนอย่างไร ท่านต้องผ่านไปให้ได้”
อู่ตู๋จื่อผู้กำยำร้องไห้ได้น่าหวาดกลัว เสียงนั้นราวกับพลังขับเคลื่อนที่ปลุกเฟิ่งชิงหัวซึ่งกำลังหมดสติได้สำเร็จ
“หุบปาก!” เฟิ่งชิงหัวส่งเสียงออกไปด้วยความหงุดหงิด จากนั้นลืมตาขึ้น เพราะแสงสว่างแสบตา นางจึงยกมือขึ้นปิดตา
“อาจารย์ย่า ท่านฟื้นแล้วหรือ? ข้ารู้ ท่านเป็นคนมีวาสนา ไม่มีวันเป็นอะไรแน่นอน”
ขณะพูด อู่ตู๋จื่อผู้กำยำยื่นหน้าเข้าไปใกล้เฟิ่งชิงหัว ถูกนางตบไปไกล
“เจ้าไม่เพียงขวางออกซิเจนของข้าทั้งยังอยากให้ข้าตาบอดหรือ?” เฟิ่งชิงหัวพูดด้วยความทรมาน
อู่ตู๋จื่อกุมหน้า พูดด้วยความน้อยอกน้อยใจ “อาจารย์ย่า ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าข้าน่ารัก เห็นใดตอนนี้จึงบอกว่าข้าขัดตา ข้าน้อยใจยิ่งนัก”
เฟิ่งชิงหัวทนกับการออดอ้อนของเขาไม่ได้ เด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียง:“จ้านเป่ยเซียวเล่า?”
“จ้าเป่ยเซียว? ต่อสู้กับเหลียนเจี้ยงที่วรยุทธ์แกร่งกล้ามากขึ้นทั้งที่ตนกำลังบาดเจ็บ เอาไข่ไปสู้กับหินไม่ใช่หรือ?” อู่ตู๋จื่อย่นจมูก
“เข่าเล่า ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“อยู่ห้องข้างๆ ยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าจะมีชีวิตอีกนานไม่เพียงใดยังไม่แน่นอน พิษที่เขาข่มเอาไว้เวลานี้ไม่อาจข่มไว้ได้แล้ว”
เมื่อเฟิ่งชิงหัวได้ฟัง ลุกขึ้นทันที ทว่าด้วยความไม่ระวังจึงกระทบกับแผลของตนเอง ปวดจนนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“เหลียนเจี้ยงช่างไม่ใช่ลูกผู้ชายจริงๆ ลงมือกับผู้หญิงอย่างเหี้ยมโหด” เฟิ่งชิงหัวโอดครวญ ยื่นมือไปจับชีพจรของตนเอง กระดูกหักซองซี่ อวัยวะบาดเจ็บ โชคดีที่อู่ตู๋จื่อช่วยนางต่อแล้ว แต่แผลภายในยังต้องค่อยๆ รักษา
“ใช่ เหลียนเจี้ยงนั้นเป็นคนบ้า ไม่รู้ว่าตั้งแต่เขาหนีไปจากหุบเขาเข้าร่วมกับพวกใด จึงมีบริวารมากขนาดนั้น” อู่ตู๋จื่อที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างเห็นด้วย
เฟิ่งชิงหัวพักครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้น ไปที่ห้องข้างๆ
หลิวหยิ่งและพวกเฝ้าที่หน้าประตู เห็นเฟิ่งชิงหัวเดินมารีบพูดขึ้นทันที “พระชายา บาดแผลของพระชายาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่ได้เป็นอะไรมาก ข้ามาเยี่ยมท่านอ๋อง” เฟิ่งชิงหัวเปิดประตู
ภายในห้อง จ้านเป่ยเซียวนอนบนเตียงอย่างนิ่งสงบ หายใจรวยริน มีเพียงแผงอกที่กระเพื่อจึงพิสูจน์ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
เฟิ่งชิงหัวจับชีพจรให้เขา พบว่าอู่ตู๋จื่อไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย
จ้านเป่ยเซียวแผลใหม่กระทบแผลเก่า ราวกับฝืนตนเอง เวลานี้ร่างกายของเขาใกล้จะหมดแรงแล้ว ไม่อาจข่มพิษในร่างกายได้ พิษเหล่านั้นกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ไปถึงหัวเข่าของเขาแล้ว
ระยะนี้ เกรงว่าเขาคงไม่อาจเดินได้
ภายในใจของเฟิ่งชิงหัวรู้สึกผิด เคยเห็นเขาเดินด้วยความมั่นใจ เห็นเขากวัดแกว่งหอกด้วยความทระนง เขาที่เคยเห็นแสงสว่าง เกรงว่าไม่อยากกลับไปสู่ความมืดกระมัง
นางจะบอกเขาอย่างไร เขาในตอนนี้ เท้าทั้งสองข้างไม่อาจเดินได้แล้ว
เฟิ่งชิงหัวเกลียดความมุทะลุของตนเอง หากไม่ใช่เพราะนางดึงดัน คิดว่าตนรับมือได้ ทั้งยังรู้จุดอ่อนของหนานกงจี๋ แล้วจะทำให้จ้านเป่ยเซียวบาดเจ็บขนาดนี้ได้อย่างไร
เฟิ่งชิงหัวกำลังเสียใจ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงชายที่อยู่บนเตียงดังขึ้น “ข้ายังไม่ตาย สีหน้าของเจ้าเกินจริงไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...