บทที่ 10 นิทรรศการวัตถุโบราณ
ธายุกรเบิกตาโพลง เขาพูดเกรี้ยวกราดออกไปโดยไม่คิด “แกพูดอะไรไร้สาระ นั่นมันก็แค่การพูดเล่นเท่านั้น เธอซื้อตึกได้สำเร็จแล้วยังไง ฉันต้องคุกเข่าขอโทษเธอจริงๆ ด้วยเหรอ คนไร้ประโยชน์อย่างแกอย่าเอาเรื่องล้อเล่นนี้มาทำให้เป็นเรื่อง”
รพีพงษ์หรี่ตาลง เสียงของเขาเริ่มเยือกเย็น เขาพูดเสียงดังว่า “สิ่งที่พนันกันเอาไว้ คุณเองไม่ใช่หรือไงที่บอกว่าเป็นเครื่องรับประกันให้คุณปู่ ตอนนี้คุณแพ้ แล้วดันมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่น หรือว่าคุณคิดว่าคุณปู่เป็นตัวตลก”
ธายุกรกระวนกระวายแล้วพูดว่า “แกอย่ามาพูดใส่ร้ายฉัน ฉันจะคิดว่าคุณปู่เป็นตัวตลกได้ยังไง”
“ไม่เห็นคุณปู่อยู่ในสายตาสักนิด ให้คุณปู่เอาการเดิมพันเป็นเครื่องรับประกัน คุณอยากจะผิดสัญญาก็ทำได้อย่างนั้นเหรอ นี่ไม่เรียกว่าเห็นคุณปู่เป็นตัวตลกแล้วจะเรียกว่าอะไร หรือว่าคุณคิดจะอยู่เหนือคุณปู่แล้วทำให้คนในตระกูลทุกคนฟังคุณ” รพีพงษ์ถามซักไซ้
ธายุกรหน้าซีดเผือด เขาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะพูดใส่ร้ายเขาขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็ไม่รู้จะตอบโต้กลับไปอย่างไร
โดยปกติแล้วสิ่งที่นภทีป์สนใจที่สุดคืออำนาจในการควบคุมคนในตระกูล สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่คนในตระกูลกล้ามาดูถูกอำนาจของเขา ดังนั้นหลังจากที่เขาได้ฟังสิ่งที่รพีพงษ์พูด เขาก็จ้องเขม็งไปที่ธายุกร
คนในตระกูลกำลังจดจ้องมา ถ้าเขาเอาเรื่องเดิมพันนี้เป็นเพียงเรื่องล้อเล่น วันข้างหน้าอำนาจที่เขามีในฐานะผู้นำตระกูลก็คงจะหมดลงไปเช่นกัน
“ธายุยอมรับสิ่งที่ตัวเองพนันเอาไว้เถอะ ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ ในเมื่อแกแพ้แล้ว ก็ควรจะรักษาสัญญา ผู้ชายในตระกูลไม่เคยทำเรื่องผิดสัญญาที่ไร้ยางอายแบบนี้” นภทีป์เอ่ยขึ้น
“แต่ว่า คุณปู่…” ธายุกรยังคงไม่ยอม
“ไม่ต้องแต่แล้ว ไปคุกเข่าขอโทษเธอซะ อย่ามาทำให้ทุกคนเสียเวลา” นภทีป์พูดเสียงแข็ง
ธายุกรรู้ว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปรึกษาใครแล้ว เขาทำได้เพียงมองรพีพงษ์ด้วยสายตาเคียดแค้น จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าอารียา
อารียาเชิดหน้าขึ้น เธอรู้ดีว่าช่วงเวลาสำคัญนี้เป็นสิ่งที่รพีพงษ์ทำเพื่อเธอ เธอควรจะแสดงท่าทีที่ควรแสดงออกไป
ธายุกรคุกเข่าลงต่อหน้าของอารียา ภายใต้สายตาของทุกคนที่กำลังจดจ้องมา เขาก้มหัวแล้วพูดออกมาว่า “ขอโทษ”
“หวังว่านายจะจำมันเอาไว้นะ” อารียาพูดขึ้น
ธายุกรกัดฟันกรอด เขากำหมัดแน่น จากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความโกรธและอับอาย เขามองอารียาด้วยแววตาเคียดแค้นแล้วเดินไปยืนข้างนภทีป์
วันนี้เป็นวันที่น่าอัปยศที่สุดของเขา
ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความแค้นนี้เขาจะต้องเอาคืนแน่
จู่ๆ ธายุกรก็เหมือนคิดอะไรออก เขาแสยะยิ้มออกมาแล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่ครับ ช่วงนี้คุณปู่กำลังหาที่จัดแสดงวัตถุโบราณของคุณปู่อยู่ไม่ใช่เหรอครับ ในเมื่ออารียาซื้อตึกได้ในราคาห้าล้าน อย่างนั้นก็แสดงว่าเธอมีความสามารถมาก ผมล่ะนับถือและเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ”
“อย่างนั้นก็ให้เธอยืมวิลล่าฟ้าอนงค์เป็นสถานที่จัดแสดงวัตถุโบราณสิครับ แบบนี้จะได้แสดงให้เห็นว่าคุณปู่อยู่ในระดับไหน”
ชรินทร์ทิพย์ที่อยู่อีกด้านก็รู้ทันทีว่าธายุกรคิดจะทำอะไร เธอกลอกตาไปมาแล้วพูดเสริม “ใช่ค่ะคุณปู่ วัตถุโบราณพวกนั้นเป็นของจริงทั้งหมด ในเมื่อจะจัดแสดงก็ต้องหาสถานที่ดีๆและเหมาะสม ดูแล้วในเมืองริเวอร์ก็คงจะมีแต่วิลล่าฟ้าอนงค์ที่เหมาะสมที่สุด เธอสามารถซื้อตึกได้ในราคาห้าล้าน ยืมวิลล่าฟ้าอนงค์มาเป็นสถานที่จัดแสดงเธอทำได้แน่นอน อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ให้เธอจัดการเลยสิคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว