สรุปเนื้อหา ตอนที่ 25เยี่ยมคารวะพ่อตาแม่ยาย – พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดย ฝูซูกงจื่อ
บท ตอนที่ 25เยี่ยมคารวะพ่อตาแม่ยาย ของ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูซูกงจื่อ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 25เยี่ยมคารวะพ่อตาแม่ยาย
“น้องจ้าว….เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” หลังจากเมื่อขึ้นมาบนเรือได้แล้ว จางยวี่โหร่วก็แสร้งทำสีหน้าเป็นกังวลเหลือเกิน
จ้าวซินซินในยามนี้ใบหน้าขาวซีดไม่เคลื่อนไหวทุกคนจึงตกใจกันใหญ่ นางคงไม่ได้ตายไปจริงหรอกนะ
หันยี่ฉีพูดขึ้นเบาๆด้านข้าง “ตอนนี้ต้องกดลงไปที่ท้องของนางเพื่อให้สำลักเอาน้ำออกมา ไม่งั้นนางคงได้ตายจริงแน่”
หญิงชายไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน จึงมีจางยวี่โหร่วคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้
แต่นางแรงน้อย กดลงไปตั้งหลายครั้งก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง นางจึงหันไปคว้าเสื้อของเป่ยจื่อห้าวตะโกนใส่หน้าเขาว่า “องค์ชายสาม ท่านยังมัวเฉยอยู่ทำไม ท่านรับปากข้าแล้วนี่ว่าจะรับนางเข้ามาอยู่ในจวนด้วย ตอนนี้ถือว่านางเป็นคนของท่านแล้ว ท่านรีบช่วยนางเร็วเข้าเถอะ”
เป่ยจื่อห้าวไม่มีทางเลือก จึงเข้าไปกดลงที่ท้องและที่หน้าอกของจ้าวซินซิน ในที่สุด นางก็สำลักน้ำออกมาจนได้
ถึงแม้จะยังสลบอยู่ แต่พวกเขาก็รู้แล้วว่า นางคงไม่ตายแน่
จางยวี่โหร่วย่อมไม่ปล่อยให้นางตายแบบนี้แน่ การตายเป็นวิธีปลดปล่อยตัวเองที่ง่ายที่สุด เมื่อก่อนนี้นางได้เคยทำเรื่องเลวร้ายต่อนางถึงขนาดนั้น เรื่องอะไรจะยอมปล่อยนางให้ตายง่ายๆ
ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว ย่อมไม่มีจิตใจเที่ยวเล่นต่ออีก ต้องรีบกลับไปโดยเร็ว เพื่อพาจ้าวซินซินไปหาหมอ จากนั้นค่อยพานางกลับไปบ้านรักษาตัว
เมื่อเห็นสีหน้าดำคล้ำของเป่ยจื่อห้าวแล้ว ในใจจางยวี่โหร่วก็นึกยิ้มเยาะ เขาไม่มีทางแสดงสีหน้าดีใจให้กับ คนที่ทำเขาเสียเรื่องได้ล่ะสิ ตอนนี้ในใจเขาคงนึกแค้นจ้าวซินซินอยู่เป็นแน่ งั้นสู้ให้หมาสองตัวกัดกันเองท่าจะดี
เป่ยจื่อห้าวโกรธจนหัวแทบลุกเป็นไฟ ตั้งใจมาเที่ยวเล่นแท้ๆ แต่กลับทำเอาตัวเองดูทุเรศทุรังแบบนี้ พอเรือถึงฝั่ง เขาจึงตรงดิ่งกลับจวนทันทีเพื่อชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่สนใจใยดีความเป็นความตายของจ้าวซินซิน ผู้หญิงคนนี้ทำแผนเขาเสียหมดแถมพลอยทำให้เขาซวยไปด้วย ถือว่าเป็นตัวซวยโดยแท้
จางยวี่โหร่วจึงไปหารถม้า ส่งจ้าวซินซินกลับไปที่จวนซู่ จากนั้นก็คิดว่าจะกลับเช่นกัน
ถึงยังไงนางก็ไม่ได้คิดอยากจะออกมาเที่ยวกับเป่ยจื่อห้าว และถึงแม้จะไม่มีหันยี่ฉีช่วยเหลือ นางก็สามารถคิดหาทางทำให้เรื่องจบลงแบบนี้ได้เช่นกัน
เดิมทีจางยวี่โหร่วตั้งใจจะขี่ม้ากลับบ้านเอง แต่กลับมีผู้ชายหน้าหนาคนหนึ่งจะตามไปส่งนางที่บ้านให้ได้บอกว่าจะไปเยี่ยมคารวะพ่อตาแม่ยาย
เมื่อคืนวานแอบลอบเข้ามาแล้วทีนึง วันนี้กลับนึกอยากไปเยี่ยมคารวะ? นางไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้จริงๆ
เมื่อทั้งสองมาถึงที่หน้าตำหนักไท่ซือ คุณปู่ของนางจางไท่ซือที่กลับจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้ก็มาถึงพอดี
พอรู้ว่าจางยวี่โหร่วออกไปกับองค์ชายสามแต่เช้า ในใจก็รู้สึกเป็นกังวล แต่พอกลับมาเจอนางอยู่กับอ๋องชิงผินแล้ว ก็ยิ่งไม่สบายใจหนักเข้าไปอีก
ภายนอกลืออะไรกันบ้างเขาก็รู้อยู่ในใจ หลานสาวสุดที่รักของเขาต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน โดนนินทาว่าเป็นผู้หญิงใจโลเล เขาย่อมรู้สึกโกรธแน่นอน แต่เรื่องกลับกลายเป็นแบบนี้แล้ว ก็น่าจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครนินทาได้อีก แต่ เจ้าเด็กคนนี้กลับทำเหมือนไม่แยแส กลับทำพฤติกรรมท้าทายอีกด้วย หรือว่าความสัมพันธ์กับชายสองคนนี้ยังไม่ชัดเจน?
เมื่อรู้ว่าอ๋องชิงผินมาเยี่ยมคารวะ จางไท่ซือกับพ่อแม่ของจางยวี่โหร่วจึงได้ออกมาต้อนรับ
นี่….นี่เป็นคำพูดของโหร่วเอ๋อที่เคยร้องห่มร้องไห้ตะโกนร้องแต่จะแต่งกับองค์ชายสาม สาวน้อยคนนั้นจริงหรือ?
หรือว่าอ๋องชิงผินบีบบังคับนางให้พูดแบบนี้? หากเป็นแบบนั้นจริง ถึงแม้หันยี่ฉีจะมีฐานะสูงส่ง แต่ตระกูลจางจะไม่ยอมให้ดวงใจที่มีค่ายิ่งของพวกเขาเพียงดวงเดียวนี้ถูกรังแกเป็นอันขาด
ในเวลานี้ คนที่นิ่งฟังอย่างเงียบๆคอยสังเกตสถานการณ์มาตลอดอย่างจางไท่ซือจึงได้เปิดปากพูดขึ้นมา
“ในเมื่อนี่เป็นการตัดสินใจของโหร่วเอ๋อ ก็ขอให้เคารพการตัดสินใจของนาง อ๋องชิงผิน ข้าผู้เฒ่ามีหลานสาวคนนี้เพียงคนเดียว ต่อไปต้องฝากฝังท่านดูแลแล้ว”
จางห้าวกับฉินซื่อแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ทำไมแม้แต่ท่านพ่อถึงได้…..
ในบ้านตระกูลจางแห่งนี้ จางไท่ซื่อรักเอ็นดูจางยวี่โหร่วมากกว่าใครทั้งหมด ในเมื่อเขาเอ่ยปากแบบนี้ แสดงว่าคิดใคร่ครวญมาดีแล้ว ตอนนี้อ๋องชิงผินยังอยู่ในที่นี้ด้วย ไม่สมควรที่พวกเขาจะพูดอะไรที่จะทำให้ผิดใจกันได้ จึงได้แต่ทำตามที่พูด
“ขอบคุณจางไท่ซือที่เชื่อใจข้า ต่อไปข้าจะปฏิบัติต่อยวี่โหร่วเป็นอย่างดี จะไม่ให้นางได้รับความลำบากอย่างแน่นอน”
แต่ยิ่งเขาพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้ทุกคนหวาดผวา เพราะเขาพิฆาตชายาไปแล้วถึงเจ็ดคน หากโหร่วเอ๋อของพวกเขาโชคร้ายกลายมาเป็นคนที่แปดเข้า แล้วพวกเขาจะอยู่ได้ยังไงกัน
จางห้าวพยายามอดทนแล้ว แต่ก็อดใจไม่อยู่ถามขึ้นว่า “ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง แล้วท่านจะรับมือกับองค์ชายสามยังไง? เดิมทีท่านอ๋องเป็นคนทูลกับฮ่องเต้ว่าขอเวลาสามเดือน แต่นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง ถ้าตอนนี้พวกท่านจะอยู่ด้วยกันจริง จะไม่ถือเป็นการไม่สมควรล่ะหรือ?”
หันยี่ฉีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆไปว่า “เรื่องบางอย่างแค่ทุกคนรู้กันอยู่ในใจก็พอแล้ว ส่วนชื่อเสียงของจางยวี่โหร่วนั้น ข้าย่อมรู้การอะไรควรไม่ควร สามเดือนให้หลังข้าจะจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง ประกาศแต่งนางเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการ ถึงตอนนั้นหากมีคนคัดค้านขึ้นมา ข้าจะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...