ตอนที่ 39บทลงโทษของสามี
จางยวี่โหร่วถูกอุ้มตลอดทางที่ออกจากวัง หลังจากนั้นก็ถูกนำตัวไปไว้บนรถม้า
รถม้าขับออกไปตามทาง แต่พวกเขาสองคนไม่พูดไม่จา แต่เดิมห้องโดยสารก็คับแคบอยู่แล้ว มาบวกกับลมหายใจหนักๆเย็นยะเยือกของเขาที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในเวลานี้ ทำให้รู้สึกตึงเครียดจนแทบจะหายใจไม่ออก
เขาไม่พูด จางยวี่โหร่วจึงไม่รู้จะพูดอะไรดี นางคิดว่าเรื่องของนางไม่จำเป็นต้องบอกให้เขารู้ทุกเรื่อง เพราะถึงยังไงนางก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดบาปในใจ
แต่นางก็รู้สึกขอบคุณเขาอย่างยิ่งที่ช่วยพูดให้นางในงานเลี้ยง แถมยังพาตัวนางออกมาอีกด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วนางคงจบไม่สวยแน่ คงไม่พ้นต้องให้คนทำเปลหามนางออกมาซะล่ะมั้ง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ทันใดนั้นรถม้าก็หยุดลง แล้วจึงได้ยินคนขับรถม้าพูดขึ้นว่า “ถึงแล้วขอรับ”
จางยวี่โหร่วรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยภาระหนัก ไม่ต้องทนนั่งอยู่กับเขาในนี้อีกแล้ว
นางแหวกม่านหน้าต่างออก เห็นป้ายที่ติดอยู่ตรงด้านนอกประตูสลักอักษรคำว่า “ตำหนักไท่ซือ” ก็นึกอยากลงจากรถโดยเร็ว
แต่ในตอนที่นางเพิ่งจะลุกขึ้นนั้น ผ้าพันเอวกลับโดนมือใหญ่มือหนึ่งเหนี่ยวไว้ ทำให้นางล้มลงทั้งตัวไปอยู่บนร่างของเขา
เท้าที่พลิกไปก่อนหน้านี้พอมาล้มอีกครั้งจึงรู้สึกปวดขึ้นมาทันที จางยวี่โหร่วปวดจนต้องร้องขึ้นมาเบาๆ ถึงกับเหงื่อไหลออกมา
“เฮ้ จะทำอะไรน่ะ?”
ถ้าไม่เพราะเขาดึงนางเมื่อกี้แล้วล่ะก็ นางคงไม่ต้องล้มเจ็บตัวแบบนี้ ตั้งใจแกล้งกันชัดๆ
ท่ามกลางความมืด ดวงตาที่ดูลึกลับของเขา ยังดูดำมืดเสียยิ่งกว่าความมืดในยามนี้ ริมฝีปากบางนั้นขยับเบาๆ น้ำเสียงที่ออกมานั้นทำให้รู้สึกหนาวสั่น แต่ละคำที่ออกจากปากราวกับก้อนน้ำแข็งที่ถูกพ่นออกมา
“หึ….ทีตอนให้ท่าผู้ชายอื่นไปเมื่อกี้เจ้ายังรู้สึกดีอยู่เลยไม่ใช่หรือ ทำไมพอเป็นสามีตัวเองเข้ากลับทำท่ายังกับว่าถูกบังคับขืนใจอย่างนั้นแหล่ะ เจ้านี่ช่างตลกจริงๆ”
จางยวี่โหร่วรู้สึกได้อยู่แล้วว่า ตลอดทางเขาข่มอารมณ์เอาไว้ตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ยอมระบายมันออกมา
ตอนนี้ในที่สุดก็เห็นเขาระบายอารมณ์ออก ตัวเองก็รู้สึกโล่งใจอย่างไม่รู้สาเหตุ
“ข้าไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อท่านนี่ ท่านก็อย่าได้เข้าใจผิดไปเองสิ” ยิ่งกว่านั้น ดันใช้น้ำเสียงแปลกๆมาพูดกับนาง ทำให้นางฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ
“เข้าใจผิด?“ เขาเงยคางของนางขึ้นอย่างแรงด้วยความโกรธ โดยไม่สนใจว่าจะทำให้ผิวบอบบางของนางต้องเจ็บปวด “สายตาทุกคู่เห็นหมดว่าไปเที่ยวกอดคลำกับชายอื่น เจ้าคิดว่าข้าตายไปแล้วหรือไง?”
ในเมื่อเขาถามขึ้นมาแล้ว หากนางไม่อธิบายให้เขาเข้าใจล่ะก็น่ากลัวว่าเรื่องจะจบไม่สวย
จางยวี่โหร่วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “ข้านึกว่าท่านอ๋องฉลาดเหนือคนอื่น คาดการณ์เรื่องราวได้ดั่งเทพ สงสัยคงต้องขอคืนคำพูดนั้นเสียแล้ว”
ไม่ต้องเห็นสีหน้าของเขาก็รู้ว่า จะแสดงอารมณ์โกรธออกมาสักขนาดไหน คงจะนึกไม่ถึงว่าจะมีผู้หญิงแบบนี้อยู่ เห็นชัดๆอยู่ว่าทำเรื่องที่ไร้ยางอายแท้ๆ แต่กลับมาทำเสียงแข็งอ้างเหตุผลอยู่ตรงนี้ ช่างไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ
“ก็ได้ ถ้างั้นเจ้าลองหาเหตุผลดีๆมาอธิบายให้ข้าฟัง ไม่อย่างนั้นข้าจะลงโทษเจ้าตามกฎของบ้านแน่นอน”
กฎของบ้าน? กฎบ้านบ้าบออะไร? จางยวี่โหร่วได้ยินแล้วรู้สึกพูดไม่ออก ท่าทางเขาจะเล่นบทบาทสามีสมจริงสมจังเกินไปหน่อยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...