พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 46

ตอนที่46 การล่อลวงของสามี

แม้ว่าจางยวี่โหร่วจะไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้นเพียงไร ก็ต้องทำตามคำสั่งการของผู้ชายเผด็จการแต่โดยดี มายังพระตำหนักของพระองค์เพื่อช่วยใส่ยาพันแผลให้พระองค์

ในพระตำหนักของพระองค์มิใช่ไม่มีแพทย์ ขอเพียงให้พระองค์ตรัสคำ แม้แต่แพทย์หลวงในพระราชวังก็สามารถเชิญมาได้อย่างรวดเร็ว ทำไมต้องให้นางมาวิ่งเป็นธุระให้ทุกวันล่ะ

แม้ว่าในใจจะต่อว่าต่อขาน แต่นางก็ยังคลายผ้าพันแผลอย่างหนาที่พันบนพระหัตถ์ของพระองค์อย่างคล่องแคล่ว เปลี่ยนใส่ยาสมานแผลให้พระองค์ใหม่ เห็นปากแผลลึกสองแห่งนั้นแล้ว คิดถึงสาเหตุที่พระองค์ได้รับบาดเจ็บ จางยวี่โหร่วรู้สึกผิดตามสัญชาตญาณ รีบใช้ผ้าพันแผลพันแผลให้พระองค์ใหม่อย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ นางใจเหม่อลอย ไม่สามารถควบคุมแรงในการมัดผ้าพันแผลให้ดี ผู้ชายเจ็บปวดจนอดที่จะขมวดคิ้วไว้มิได้

“อ่า ขออภัย ขออภัย...” หลังจากที่นางพบว่าตัวเองได้ทำอะไรไปแล้ว รีบขอโทษขอโพย ต้องเจ็บมากแน่ ๆ อ่า

“พระชายาที่รัก เจ้ากำลังพยายามจะฆ่าสามีหรือ?” เขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างเกียจคร้าน มองนางนิ่ง ๆ ในน้ำเสียงไร้การต่อว่า กลับมีกระแสหยอกล้อเพิ่มมาเล็กน้อย

จางยวี่โหร่วทางหนึ่งเก็บยาเหล่านั้นไว้ให้ดี ทางหนึ่งอดไม่ได้ค้อนไปคราหนึ่ง

“หม่อมฉันไหนเลยกล้า? พระองค์ทรงเป็นท่านอ๋องเทพสัปยุทธ์ซึ่งชนะการศึกทุกครั้ง ชีวิตมีค่ายิ่งกว่าทองคำ ถ้ามิใช่พระองค์ทรงสถิติอยู่แล้ว เช่นนั้นล้วนจะทำให้บัลลังก์ราชอาณาจักรเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้ ถึงเวลานั้นไม่ทราบว่าฮ่องเต้จะทรงปวดพระทัยมากเท่าใด ต่อให้ฮ่องเต้ไม่ทรงตรัสอะไร สาวงามคนนั้นในพระตำหนักพระองค์ก็ไม่ปล่อยหม่อมฉันไปอย่างง่ายดายเพค่ะ”

นางเพียงแค่พูดไปเช่นนั้นเฉย ๆ เท่านั้น แต่ผู้ชายกลับถือเป็นเรื่องจริงจังแล้ว

เวลานี้ จางยวี่โหร่วเพิ่งเก็บกล่องยาเสร็จเรียบร้อย ระหว่างเอวกลับมีมือใหญ่ของผู้ชายมือหนึ่งเพิ่มมา ใช้พลังเล็กน้อยไปครา นางก็ล้มเข้าไปในอ้อมอกของพระองค์โดยตรง

“เฮ้ย เจ้าทำอะไรน่ะ?” จางยวี่โหร่วรีบดิ้นรนลุกขึ้นมา พูดจาก็พูดกันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือ เกรงว่าแม้นางได้ตกลงเป็นภรรยาของเขาในภายหลัง แต่ว่ายังไม่เหมาะสมกับการอภิเษกสมรสแบบนี้มากนักน่ะ

“ทำไมเปิ่นหวางรู้สึกว่าในอากาศมีกลิ่นเปรี้ยวอันรุนแรงกระแสหนึ่ง ราวกับได้ทำไหน้ำส้มหมักเก่าพลิกคว่ำไปแล้ว พระชายาที่รัก นี่กำลังหึงหรือ?”

อะ...อะไรนะ?

หึงหวงเหรอ? เป็นไปได้อย่างไรที่นางสามารถหึงหวง รักตนเองน้อยไปแล้ว!

แต่หลังจากที่ได้รับการสอนก่อนหน้านี้ จางยวี่โหร่วทราบถึงสิ่งที่เป็นอันตรายน่ากลัวของชายคนนี้เป็นธรรมดา จึงมิกล้าพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้อย่างเด็ดขาด ได้กล่าวอ้อมค้อมวกไปมาขึ้นมาให้รู้แล้วรู้รอด

“ท่านอ๋องทรงตรัสวาจาเช่นนั้นได้ไหนกัน หม่อมฉันอ่าน “คัมภีร์สตรี”ตั้งแต่เด็กจนคล่อง ทราบหลักสามคล้อยสี่คุณธรรมอย่างลึกซึ้ง ออกเรือนคล้อยตามสามี ควรมีท่าทีใจกว้างให้อภัย หาพระสนมรองที่เยาว์วัยงดงามแก่ท่านอ๋องสักสองสามคน เพื่อให้พระตำหนักสืบทอดลูกหลาน แผ่กิ่งก้านสาขาน่ะ ท่านอ๋องท่านว่าใช่หรือไม่ ฮ่า ๆ ...”

หัวเราะไปครึ่งหนึ่งนางก็ไม่หัวเราะอีกต่อไป เพราะนางรู้สึกมีลมเย็นพัดซู่แผ่มาเหนือศีรษะของนางอย่างชัดเจน เสียงหัวเราะของนางจึงกลายเป็นหัวเราะแห้ง ๆ โดยพลัน ในที่สุดก็หยุดกะทันหัน

จางยวี่โหร่วเงยศีรษะขึ้นสบตาของพระองค์ ก็ได้เห็นหลังหน้ากาก ดวงตาคู่นั้นลึกมาก เห็นได้ชัดว่าแฝงร่องรอยของความไม่พอใจถึงกับกล่าวได้ว่าอารมณ์เสียโกรธ

ทำไม..หรือว่านางพูดอะไรผิดไปแล้วเหรอ?

ไม่น่าน่ะ ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนล้วนเป็นอย่างนี้ กินในถ้วยแต่มองในกระทะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระชายาทั้งเจ็ดที่ต่างได้อภิเษกสมรสเข้าประตูมาเมื่อก่อนนั้น ไม่นานก็มอดม้วยไปสิ้น ดังนั้นเขาต้องไม่ได้สัมผัสผู้หญิงมาเป็นเวลานานแล้ว ทุกวันได้แต่มองใบหน้านี้ของนางก็ต้องเบื่อหน่าย ให้เขาตกแต่งพระสนมรองอีกสองสามคน นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีมากหรอกหรือ?

“ดูแล้วเปิ่นหวางได้อภิเษกสมรสพระชายาที่ดี มีใจกว้าง เฉลียวฉลาดปราดเปรื่องเปี่ยมคุณธรรมองค์หนึ่ง กลับรู้จักคิดแทนเปิ่นหวางได้เช่นนี้ เพียงแต่พระชายาที่รักก็ควรรู้ว่าเปิ่นหวางอยู่ข้างนอกมีชื่อเสียงที่น่ากลัวเพียงไร นอกจากเจ้าแล้วคาดว่าไม่มีใครยินยอมอภิเษกสมรสเข้ามาในพระตำหนักชิงผินอ๋องนี้แล้ว ดังนั้นผู้หญิงของเปิ่นหวางในชั่วชีวิตนี้ก็มีเพียงเจ้าคนเดียว มิอาจมีคนอื่นได้อีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ