ตอนที่ 53 ปรึกษาแผนการใหญ่กัน
ใครก็มองออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจางยวี่โหร่วกับองค์ชายสามไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ก่อนหน้าในหนานหชู่ไม่มีใครไม่รู้ว่า จางยวี่โหร่วคุณหนูคนโตของตระกูลจางรักองค์ชายสามจนยอมตายแทนได้ ถึงขนาดไปหาเขาที่ตำหนักสามทุกวัน
แต่ทว่าตอนนี้ องค์ชายสามไปหาเธอที่ตำหนักไท่ซือหลายครั้ง แต่กลับไม่เห็นจางยวี่โหร่วมีท่าทีใดๆ และทุกคนกลับได้ยินว่าเธอไปที่ตำหนักอ๋องชิงผินหลายครั้ง
ช่างเป็นข่าวที่ทำให้คนตกตะลึงเป็นอย่างมากจริงๆ หรือเป็นเพราะว่าจางยวี่โหร่วได้เข้าพิธีแต่งงานกับอ๋องชิงผินและหัวใจก็ยอมรับเขาเรียบร้อย และทิ้งคนรักเก่าของเธอไปไว้ข้างหลัง?
แน่นอนว่ายังมีข่าวลือบางอย่าง บอกว่าจางยวี่โหร่วไม่ได้บริสุทธิ์และได้เป็นภรรยาของท่านอ๋องชิงผินในคืนแต่งงานแล้ว
ไม่ได้มีคำกล่าวหนึ่งพูดไว้หรือว่า ร่างกายของผู้หญิงเมื่อให้ใครไป ใจของเธอก็ตกไปอยู่กับคนคนนั้น ตอนนี้ท่าทีของเธอที่มีต่ออ๋องชิงผินและองค์ชายสามไม่ใช่ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนงั้นหรือ?
เพียงแต่ใจของผู้หญิงคนนี้ช่างใหญ่จริงๆ องค์ชายสามทั้งรูปหล่อสง่างามเช่นนั้นและไม่รังเกียจที่เธอไม่บริสุทธิ์แล้ว เธอยังไม่รู้จักทะนุถนอมไว้ให้ดีอีก กลับยังอยากแต่งงานกับอ๋องชิงผิน เธอไม่กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นผีที่ตายอย่างอนาถคนต่อไปหรือไงกัน?
เธอยังอายุน้อยไม่รู้เรื่องรู้ราวนั้นไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้คนไม่เข้าใจก็คือ เหตุใดคนในตระกูลจางถึงไม่ออกหน้าหยุดยั้งไว้ พวกเขารักและทะนุถนอมคุณหนูผู้ล้ำค่าคนนี้เพียงคนเดียวมากที่สุดไม่ใช่หรือ?
ไม่ใช่แค่พวกเขาไม่เข้าใจ เกรงว่าแม้แต่คนที่เกี่ยวข้องก็คงจะรับไม่ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก?
ลี่เฟยมองเห็นสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงกระสับกระส่ายเล็กน้อยในทันที
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอจะสามารถช่วยให้ลูกชายได้ครอบครองแผ่นดินทั้งหมดนี้ได้เมื่อไหร่กัน?
เมื่อเห็นว่าสุขภาพร่างกายของฮ่องเต้ไม่ค่อยดีขึ้น ถึงเวลานั้นหากองค์รัชทายาทหรือองค์ชายสองได้สืบทอดราชบัลลังก์ เช่นนั้นโอกาสที่พวกเขาสองแม่ลูกจะได้เปลี่ยนฐานะก็คงจะยากขึ้นอีก
การใช้ชีวิตในวังถึงแม้ว่าจะร่ำรวยมีเกียรติและหรูหราสะดวกสบาย แต่ว่าก็ใช้ชีวิตซ้ำซากแบบเดิมในทุกๆวัน ทุกข์ใจจนยากที่จะทนได้ หากว่าในวันหนึ่งเธอสามารถเป็นไทเฮาได้และได้นั่งอยู่บนบัลลังก์กับลูกชาย เช่นนั้นเธอก็คงจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ
ลี่เฟยได้รับป้ายคำสั่งออกจากวังเพื่อไปสวดมนต์ขอพรแก่แผ่นดินในนามของวัดผูโถวเมืองหลวง และตอนที่กลับมาก็ถือโอกาสแวะไปที่ตำหนักของลูกชายของตัวเองอยู่พักหนึ่ง ก็ไม่ได้เป็นเรื่องมากเกินไปอะไร
เป่ยจื่อห้าวได้รับรายงานจากสาวใช้ข้างกายของลี่เฟย จึงเตรียมตัวต้อนรับล่วงหน้าอย่างดีเพื่อต้อนรับการมาเยี่ยมของเสด็จแม่
จ้าวซินซินได้ยินข่าวเรื่องนี้จึงรีบมาที่ตำหนักสาม เพื่อต้องการแสดงออกให้เห็นอย่างดีต่อหน้าของลี่เฟยและทำให้เธอประทับใจ
ตอนที่เธอมาตำหนักสามก่อนหน้านั้น ยังต้องหลบๆซ่อนๆเพราะกลัวว่าจะถูกคนเห็น แต่ว่าตั้งแต่ที่จางยวี่โหร่วให้เธอเป็นนางสนมขององค์ชายสาม เธอก็มาที่นี่ได้อย่างเปิดเผยและมีเกียรติ ไม่กลัวว่าจะเป็นที่ซุบซิบนินทาอีกต่อไป
หลังจากที่ลี่เฟยมาถึงตำหนักสาม เป่ยจื่อห้าวก็สั่งให้สาวใช้ออกไปและเหลือเพียงแค่เขากับจ้าวซินซินอยู่
เห็นได้ชัดว่า พวกเขามีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกัน
ลี่เฟยมองจ้าวซินซิน เธอไม่เคยเห็นลูกสาวของผู้พิพากษาเมืองเล็กๆนี้อยู่ในสายตาตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่ตอนนี้อาจถึงคราวที่จะต้องใช้งาน เธอจึงแสดงออกอย่างอ่อนโยนมากขึ้นกว่าเดิม
“ ซินเอ๋อร์ ข้าได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดแล้วว่า เมื่อถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ เจ้าก็จะได้แต่งงานกับลูกชายของข้าตามยวี่โหร่วและมีสามีคนเดียวกัน ตอนที่เจ้าอยู่กับยวี่โหร่วก่อนหน้านั้น ข้ารู้สึกว่าเจ้าอ่อนโยนน่าเอ็นดูและรู้เรื่อง หากเจ้าอยู่เคียงข้างกับลูกชายของข้าในภายภาคหน้า ข้าก็สามารถวางใจได้ ”
เมื่อจ้าวซินซินได้ยินก็รู้สึกปลื้มใจทันทีและรีบพูดถ่อมตัวอย่างรวดเร็วว่า “ ขอบพระทัยลี่เฟยเพคะ สามารถปรนนิบัติรับใช้องค์ชายสามได้นั้นเป็นความโชคดีของซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์จะไม่มีวันทำให้พระชายาผิดหวังและจะปรนนิบัติรับใช้องค์ชายสามอย่างดีเพคะ ”
ลี่เฟยจับมือของเธอขึ้นมา มองเธอด้วยรอยยิ้มที่รักใคร่เอ็นดู “ โธ่ เด็กโง่เอ๋ย เจ้ายังต้องพูดเกรงอกเกรงใจข้าเช่นนี้? คำเรียกนี้...ควรจะเปลี่ยนได้แล้วไม่ใช่หรือ คราวหลังเรียกข้าว่าเสด็จแม่ตามองค์ชายสามเถอะ ”
อะไรนะ เสด็จแม่!!!
ถึงแม้เธอจะแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว ก็เพียงแค่ฐานะภรรยาเท่านั้น พูดตรงๆก็คือ เป็นแค่นางสนมคนหนึ่งเท่านั้น เธอมีสิทธิที่จะเรียกเช่นนั้นออกมาได้อย่างไรกัน?
แต่ในเมื่อเธอเรียกร้องขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าจ้าวซินซินก็มีความสุขมาก ลี่เฟยชื่นชอบตัวเธอนั้นเป็นเรื่องที่ดี วันนี้เธอวิ่งมาคอยเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพื่อสิ่งนี้หรอกเหรอ ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามอย่างที่ใจเธอต้องการ เธอจะไม่มีความสุขได้อย่างไรกัน
“ เพคะ เสด็จแม่! ”
เป่ยจื่อห้าวได้ยินเธอเอ่ยปากเรียกออกมาเช่นนั้นจริงๆ สายตาก็มีประกายเย็นชาออกมาแวบหนึ่ง เธอเป็นใคร มีค่าพอที่ไหน?
แต่พอคิดทบทวนดูเสด็จแม่ทำเช่นนี้จะต้องมีเจตนาของเธอเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงอดทนไว้ในใจชั่วคราว
ในขณะนั้น จู่ๆลี่เฟยก็ถอดกำไลหยกคู่หนึ่งที่ตัวเองใส่อยู่ออกมา จากนั้นก็สวมใส่ไปที่ข้อมือของจ้าวซินซินด้วยตัวเอง
“ ต่อไปนี้เจ้าก็เป็นลูกสะใภ้ของข้าแล้ว เมื่อแม่สามีเจอลูกสะใภ้ก็ควรจะมีของขวัญให้ นี่ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของข้าแล้วกัน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...