พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 54

สรุปบท ตอนที่ 54 เฝ้าติดตามจางยวี่โหร่ว: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 54 เฝ้าติดตามจางยวี่โหร่ว – พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ โดย ฝูซูกงจื่อ

บท ตอนที่ 54 เฝ้าติดตามจางยวี่โหร่ว ของ พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูซูกงจื่อ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 54 เฝ้าติดตามจางยวี่โหร่ว

เป็นเพราะวันแต่งงานจริงๆ!

ในเหตุการณ์สลับเกี้ยวแต่งงานผิดนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงไปกี่อย่างกันแน่ ถึงยากที่จะจินตนาการเช่นนี้

เธอกับลูกชายเคยยืนยันกันครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ก่อนวันอภิเษกสมรสพวกเขาไม่พบปัญหาใดๆ แม้แต่ก่อนหน้าวันแต่งงานวันหนึ่ง จางยวี่โหร่วยังแอบออกจากเรือนมาพบกับเขา

สามวันก่อนแต่งงานนั้นทั้งคู่ไม่อนุญาตให้พบกัน แต่ในระยะเวลาสั้นๆสามวัน จางยวี่โหร่วกลับไม่สามารถห้ามความคิดถึงเขาได้ นี่เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่าจางยวี่โหร่วหลงรักลูกชายของเธอจริงๆ

แต่ตอนนี้บุคลิกของจางยวี่โหร่วเปลี่ยนแปลงไปอีกได้อย่างไรกัน

“ ซินเอ๋อร์ เจ้าลองคิดทบทวนดูอีกที วันที่นางแต่งงานวันนั้นเจ้าก็อยู่ที่ตระกูลจางด้วยไม่ใช่หรือ? ก่อนขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว จางยวี่โหร่วแปลกไปหรือไม่? ”

แปลกไป?

ดูเหมือนว่าจะเริ่มตั้งแต่วันนั้น ท่าทีของจางยวี่โหร่วก็ไม่ได้สนิทสนมกับเธอเหมือนแต่ก่อนอีกเลย ถึงขนาดห่างเหินออกไป

แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอย่างนี้จริงๆ เป็นเพราะว่าหลังจากที่เกิดเรื่องเธอกลัวว่าตัวเองจะมีส่วนร่วมไปด้วย จึงรอให้เหตุการณ์ผ่านไปก่อนแล้วถึงจะไปหาเธอ และเพราะเหตุนี้จึงทำให้จางยวี่โหร่วรู้สึกผิดหวังและห่างเหินจากเธอไปไม่ใช่หรือ?

ไม่ ไม่ใช่สิ เธอคิดทบทวนอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าจางยวี่โหร่วสวมผ้าคลุมมงกุฎฟีนิกซ์ในวันนั้น ตอนที่เธอไปดูจางยวี่โหร่ว สายตาของจางยวี่โหร่วที่มองเธอทำให้รู้สึกเยือกเย็นไปถึงกระดูกในตอนนั้น

แต่ไม่นานเธอก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนนั้นออกมา ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น

เธอกับจางยวี่โหร่วไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน เป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันมาโดยตลอด เหตุใดจางยวี่โหร่วถึงมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ

“ เจ้านึกอะไรออกแล้วใช่หรือไม่? ” เมื่อให้สีหน้าของจ้าวซินซินที่เปลี่ยนแปลงไป ลี่เฟยรีบซักถามอย่างรวดเร็ว

“ เอ๋? ไม่...ไม่มีอะไร เมื่อครู่นี้ข้ากำลังนึกถึง แต่ก็คิดหาเหตุผลไม่ได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะพี่ยวี่โหร่วสะเทือนใจเรื่องการแต่งงาน

อ๋องชิงผินเคยแต่งพระชายามาแล้วเจ็ดคน ทุกคนล้วนตายอย่างฉับพลันหลังจากแต่งงานไม่กี่วัน

จางยวี่โหร่วเป็นพระชายาคนที่แปดของเขา ถึงแม้จะแต่งงานผิดแต่ก็ยากที่จะหนีจากคำสาปชั่วร้าย และแม้จะไม่ถึงกับตายอย่างน่าเวทนาแต่ก็นิสัยเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะเหตุนี้

มีเพียงสาเหตุนี้เท่านั้นที่พอจะคิดได้

เดิมทีแล้วพวกเขาคิดจะฝากความหวังไว้ที่จ้าวซินซิน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่เข้าใจจางยวี่โหร่วมากที่สุด แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถถามหาเบาะแสที่สำคัญจากเธอได้ เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ

เมื่อคิดเช่นนั้น สายตาที่ลี่เฟยมองเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป สำหรับคนที่ไม่มีคุณค่าใช้ประโยชน์ แน่นอนว่าเธอก็ไม่อยากจะไว้หน้าอะไรอีก

ทันใดนั้นจ้าวซินซินก็ร้องอุทานออกมา “ ใช่สิ ข้าคิดออกแล้ว มีบางสิ่งที่ข้ารู้สึกแปลกๆเล็กน้อย”

“ อะไรงั้นรึ? ” ซูเฟยกับเป่ยจื่อห้าวถามขึ้นมาทันที ตอนนี้พวกเขาอยากจะรู้ความจริงให้ชัดเจนจริงๆ

“ก็คือตอนที่ก่อนจะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว ข้ากับเสี่ยวเฟิงประคองเธอไปที่ห้องโถงด้านหน้า ในตอนนั้นเธอได้ยินเสียงบรรเลงดังมาจากข้างนอก และคิดว่าเป็นขบวนต้อนรับเจ้าสาวขององค์ชายสาม ต่อมาพอรู้ว่าเป็นขบวนของท่านอ๋องชิงผิน ดูเหมือนว่าตอนนั้นเธอจะสนใจท่านอ๋องชิงผินมากและถามเราสองสามคำถาม เมื่อได้ยินข่าวลือว่าท่านอ๋องชิงผินมีดวงชาตะกลืนกินภรรยา เธอไม่เพียงแต่ไม่แสดงสีหน้าหวาดกลัว แต่ยังช่วยพูดแทนท่านอ๋องชิงผิน นี่นับว่าเป็นสิ่งที่แปลกหรือไม่? ”

แปลก แปลกแน่นอน!

นี่หมายความว่าเธอวางแผนการไว้ล่วงหน้าใช่หรือไม่ ไม่อย่างนั้นจะไปขึ้นเกี้ยวของตำหนักอ๋องชิงผินอย่างบังเอิญเช่นนั้นได้อย่างไรกัน

“ เจ้าลองคิดทบทวนดูอีกที ก่อนหน้านั้นจางยวี่โหร่วกับอ๋องชิงผินมีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือไม่? หรือว่าพวกเขาเคยเจอกันมาก่อน? ”

“ เรื่องนี้... ” จ้าวซินซินคิดทบทวนอย่างละเอียดจากนั้นพูดว่า “ นางกับท่านอ๋องชิงผินไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันมาก่อน อย่างน้อยที่สุดข้าก็ไม่เคยรู้เลยว่าพวกเขาจะสามารถผูกความสัมพันธ์อะไรกัน อีกอย่างท่านพี่ยวี่โหร่วรักองค์ชายสามมาตลอดไม่ใช่หรือ จะไปมีใจให้ท่านอ๋องชิงผินได้อย่างไรกัน ”

แม้แต่จ้าวซินซินน้องสาวที่อยู่กับเธอทุกวันยังไม่รู้ เช่นนั้นถึงแม้จะตรวจสอบต่อไปก็คงไม่สามารถพอเจออะไรแล้ว

“ แล้วนางกับหลินจือล่ะ? ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนสนิทสนมกันเช่นนี้ ราวกับว่าเป็นพี่น้องที่รู้จักสนิทสนมกันกันมาหลายปี เรื่องของทั้งสองคนก่อนหน้านั้น เจ้าคงจะรู้สินะ ”

คิดไม่ถึงว่าจ้าวซินซินจะยังคงส่ายหัว “ ก่อนหน้านั้นนางไม่เคยรู้จักหลินจือเลย ดังนั้นข้าจึงแปลกใจในเรื่องนี้มาก หากไม่ใช่เพราะหลินจือ นางก็แต่งงานเข้าตำหนักสามได้อย่างราบรื่นแล้ว แทนที่จะประสบกับเรื่องต่างๆมากมายและเป็นที่ซุบซิบนินทาของผู้คน หากเป็นข้า จะต้องเกลียดชังหลินจืออย่างมากแน่นอน จะไปใจกว้างเหมือนนางเช่นนั้นได้อย่างไร ไม่เพียงแต่ออกรับหน้าแทนนาง แต่ยังเลือกสามีที่ดีและดึงดูดความสนใจขององค์ชายสองให้นางอีก ”

สิ่งที่จ้าวซินซินพูดนั้นพูดถึงความในใจของคนส่วนใหญ่เท่านั้น หากเป็นพวกเขา เกรงว่าก็คงจะคิดเหมือนกันกับเธอ

ในความเป็นจริงแล้ว จ้าวซินซินไปที่ตำหนักสามเมื่อใดและไปกี่ครั้ง เธอสั่งให้คนคอยจับตามองไว้นานแล้ว คิดว่าเธอจะสามารถหนีจากเงื้อมมือของเธอไปได้เหรอ?

จ้าวซินซินรีบแสดงท่าทางน่าสงสารแบบใสๆออกมาทันที หยดน้ำตาน้ำใสๆไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างราวกับสายฝน

จางยวี่โหร่วคิดในใจ เธอควรเก็บการแสดงท่าทางแบบนี้ไว้ไปให้เป่ยจื่อห้าวดูเสียดีกว่า เธอมองอย่างไรก็ไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจเลยสักนิด

“ ท่านพี่ ท่านพูดเช่นนี้เพราะกำลังโกรธข้าอยู่ใช่หรือไม่? องค์ชายสามเป็นสามีในอนาคตของท่านพี่ ข้าก็แค่พึ่งพาวาสนาของท่านพี่ถึงสามารถโชคดีพอที่จะเข้าวังได้ คนที่สำคัญที่สุดในใจของข้าไม่ใช่องค์ชายสาม แต่เป็นท่านพี่ ”

ท่าทางเสแสร้งจอมปลอมของเธอนี้ สามารถที่จะทำให้คนอ้วกอาหารที่กินออกมาได้เลย

ดีที่จางยวี่โหร่วเผชิญหน้ากับเธอแบบนี้ทุกวัน จนเธอมีภูมิคุ้มกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เธอรู้จักใบหน้าที่แท้จริงของจ้าวซินซินและรับมือกับท่าทางน่าสงสารของเธอ ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์อารมณ์ของตัวเองได้บ่อยครั้ง

“ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นแน่นอน หากข้าคิดเช่นนั้นจริงๆ เหตุใดจึงต้องการให้เจ้าแต่งงานเข้าตำหนักสามอย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนั้นล่ะ? นอกเสียจากเพราะว่าข้าให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของเรา ในอนาคตพวกเราพี่น้องก็สามารถคอยดูแลสามีด้วยกัน หากเป็นคนอื่น ข้าจะแบ่งปันสามีของตัวเองกับคนอื่นอย่างใจกว้างขนาดนั้นได้อย่างไรกัน? ”

คำพูดคนนี้ของเธอ จ้าวซินซินฟังแล้วรู้สึกหวั่นวานเล็กน้อย

ดังนั้นในใจของจางยวี่โหร่วยังเห็นว่าเธอสำคัญมากกว่าหลินจือ?

จางยวี่โหร่วพูดถูก ถึงแม้ว่าเธอจะจับคู่หลินจือกับองค์ชายสอง แต่กลับให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ นี่ไม่ใช่ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงงั้นหรือ?

เธอกับจางยวี่โหร่วรู้จักกันมาตั้งหลายปี หลินจือนั้นรู้จักกันเพียงแค่ไม่กี่วัน จะมีคุณสมบัติมาเทียบกับเธอได้อย่างไร?

พอคิดถึงตรงนี้ ข้อสงสัยในใจของจ้าวซินซินก็ลดลงไม่น้อยในทันที ดูเหมือนว่าบางครั้งเธอก็ไม่สามารถคิดมากเกินไปจริงๆ

“ ท่านพี่ ท่านช่างดีกับข้ายิ่งนัก ซินเอ๋อร์ไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนท่านอย่างไรดี ก่อนหน้านั้นเห็นท่านกับท่านพี่หลินอยู่ด้วยกัน ท่านพี่หลินทั้งมีความรู้และมีมารยาท เชี่ยวชาญทักษะต่างๆมากมาย แต่ข้ากลับทำอะไรไม่เป็นเลย และคิดว่าท่านพี่ไม่ชอบข้าแล้ว ” เธอหลุบสายตาลงต่ำ น้ำเสียงตกลงอย่างเห็นได้ชัด และหยดน้ำตาใสๆนั้นก็ไหลลงมาจากบนใบหน้าของเธอไม่หยุด

“ เจ้าพูดอะไรกัน ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะสนิทกับน้องหลินจือ แต่เธอจะมาแทนที่ความสัมพันธ์พี่น้องของเราตั้งหลายปีได้อย่างไรกัน? เจ้าเป็นถึงน้องสาวที่น่ารักของข้า ข้าจะไม่ชอบเจ้าได้อย่างไร” จางยวี่โหร่วยื่นมือชี้นิ้วไปแตะที่หน้าผากอย่างเอ็นดูเหมือนแต่ก่อน “ เจ้านะเจ้า คราวหลังอย่าคิดมากอีก หากยังพูดเช่นนี้อีก ข้าจะโกรธแล้วนะ ”

ฉากฉากนี้ ราวกับย้อนกลับไปยังอดีตตอนที่พวกเธอเข้ากันได้อย่างดี จ้าวซินซินเกือบจะเชื่อทั้งหมดแล้วว่าเธอยังคงเป็นจางยวี่โหร่วคนเดิม และก็ถึงเวลาที่จะกลับไปรายงานกับองค์ชายสามแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ