พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 80

ตอนที่ 80 เกือบถูกบีบคอตายทั้งเป็น

ดี ตอนนี้เขาบีบคั้นนางเช่นนี้ ถ้างั้นนางก็ไม่เกรงใจแล้ว

จางยวี่โหร่วสูดหายใจเข้าลึก ๆ คำหนึ่ง หลังจากนั้นมองดูเขาอย่างเย็นชา “ข้าก็เคยคิดว่าเราเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่สวยงามปานนั้นมาตลอดจริง ๆ แต่เจ้าไม่รู้สึกว่าเกิดเรื่องมากมายเช่นนั้น ความรักระหว่างเราก็ได้เริ่มเสื่อมเปลี่ยนไปแล้วหรือ?”

เกมนี้ เดิมนางยังสามารถเล่นได้ต่อไปนานอีกนิด แต่ตอนนี้เขาเองได้ทำลายความสมดุลของเกมนี้แล้ว ดังนั้นจางยวี่โหร่วไม่ต้องสุภาพกับเขาอีก

เป่ยจื่อห้าวแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจถามว่า “โหร่วเอ๋อร์ นี่เจ้าหมายความว่าอะไร เจ้าคิดกล่าว...เจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ?”

เห็นได้ชัดว่าเขาจึงเป็นชายโลภมากผู้นั้น ตอนนี้ยังคิดจะเอาหายนะมาใส่ตัวจางยวี่โหร่ว นางต้องไม่เป็นแพะรับบาปแทนเขาอย่างเด็ดขาด

“หมายความอะไร องค์ชายสามควรรู้กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้องจึงถูก จิตใจของผู้หญิงล้วนอ่อนไหวเปราะบางมาก ในเวลาที่ข้าหมดหวังไร้การช่วยเหลือที่สุด แน่นอนข้าหวังว่าผู้ชายที่ข้ารักจะปรากฏขึ้นช่วยหนุนฟ้าทั้งผืนขึ้นมาเพื่อข้า สามารถไม่สนทุกสิ่งเพื่อข้าแม้ว่าต้องเป็นศัตรูกับทั้งโลก เพียงน่าเสียดาย...”

นางจงใจหยุดลงพักหนึ่ง วาจาที่เหลือไม่ต้องพูดอะไรออกจากปากอย่างตั้งใจอีกแล้ว

เป่ยจื่อห้าวก็เข้าใจว่าที่นางพูดถึงคืออะไรทันที ดังนั้นรีบออกปากอธิบายว่า “เจ้ามิใช่โกรธข้าเพราะวันนั้นที่ท้องพระโรงข้าไม่ได้ช่วยเจ้าลงทัณฑ์อย่างรุนแรงต่อเฉินกั๋วกงพ่อลูกด้วยกันหรือ? ข้าก็จำใจด้วย เสด็จพ่อก็ทรงประชวรกลายเป็นแบบนั้น ข้ามิอาจทำใจให้เขาต้องทำงานหนักเพื่อการนี้ แต่เจ้าคิดว่าถ้าหากก่อเรื่องวุ่นวายหนักต้องปิดฉากจบไม่ดีแน่นอน เฉินกั๋วกงก็มีหลายพรรคพวกในราชสำนัก พวกเจ้าก็มิอาจสามารถเอาเปรียบอะไรได้”

วาจานี้ของเขา อย่างมากก็เพียงหลอกตัวเขาเองเท่านั้น จางยวี่โหร่วจะสามารถเชื่อได้อย่างไรอีก

หรือว่านางเป็นคนงี่เง่าหรือ จะไม่รู้ว่าวันนั้นการกระทำของเขาเป็นการช่วยแก้ต่างให้เฉินกั๋วกงพ่อลูกชัด ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเขามาสร้างปัญหาแล้วถ้างั้นภัยของเฉินซูเสียนอย่างน้อยที่สุดก็เป็นจองจำในคุก

เขาต้องได้เห็นองค์ชายสองเพราะหลังจากที่ช่วยนางเจรจาจนขัดใจกับตระกูลเฉินอย่างสมบูรณ์ เขาก็คิดจะรวบเอาเรื่องนี้มาเป็นของตนเองใช้สอยทันที

นางได้รู้จักกับเป่ยจื่อห้าวมาสองชั่วชีวิตแล้ว หรือยังไม่ชัดเจนว่าที่แท้เขาเป็นคนอย่างไรหรือ?

“ใช่อ่า เจ้าพูดถูก นี่เป็นคุณธรรมที่เจ้ายืนหยัด เห็นแก่สถานการณ์โดยรวมเป็นสำคัญ” นางแสดงรอยยิ้มที่เยาะเย้ยเล็กน้อยออกมา

เป่ยจื่อห้าว รีบแสดงออกลักษณะที่พูดผิดคำไปแล้วออกมา จับมือนางไว้

“โหร่วเอ๋อร์ไม่ใช่เช่นนี้ เจ้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในใจของเปิ่นหวัง ทุกสิ่งที่เปิ่นหวังทำล้วนคิดเพื่อประโยชน์ของเจ้า”

จางยวี่โหร่วยิ้มอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง หลังจากนั้นผลักเขาออกไปโดยตรง วิเคราะห์อะไรเรียกว่าการเสแสร้ง เป่ยจื่อห้าวเป็นคนที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์ และในอนาคตก็ไม่มีด้วย!

“พอแล้ว องค์ชายสาม หรือว่าฟ้าลิขิตไว้เจ้าข้าไร้วาสนาต่อกัน เป็นโหร่วเอ๋อร์มิคู่ควรแก่เจ้า วันข้างหน้าก็เป็นเช่นนี้ ลาก่อนในที่นี้แล้วเพคะ”

หรือว่านางยังสามารถแสดงออกทั้งสีหน้าฝีปากรักอย่างลึกซึ้งออกมาให้เขาต่อไปได้หรือ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป่ยจื่อห้าวดึงเฉินกั๋วกงเข้าเป็นพรรคพวกอย่างชัดเจน

เป็นเขาที่ฉีกหน้าขาดก่อน ถ้างั้นตอนนี้จางยวี่โหร่วยังมีอะไรที่ต้องน่าเกรงกลัวอีก

ในเมื่อเขาคิดดึงเอาเฉินกั๋วกง ก็เท่ากับยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพวกเขาตระกูลจาง ถ้าเขากล้าทำไม่ดีแล้ว พวกเขาก็จะไม่สุภาพเหมือนกัน

ในที่สุดก็เป่ยจื่อห้าวดูออก จางยวี่โหร่วเอาจริงเอาจังอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ไม่มีที่เหลือให้หันหลังกลับมาได้แล้ว

สีหน้าเขาหม่นหมองลงมาทันที การเสแสร้งทั้งหมดฉีกเปิดออกทันใด

“เจ้าไม่คิดอภิเษกสมรสกับเปิ่นหวัง เพราะเจ้ารักอ๋องชิงผินเข้าแล้วใช่ไหม?” เขาจับข้อมือของนางไว้แน่น ซักถามด้วยความโกรธสุดขีด เพิ่มแรงอย่างมากโดยไม่คำนึงถึงว่าได้ทำให้นางปวดแล้ว

“นี่เป็นเรื่องระหว่างเรา ทำไมต้องลากคนอื่นเข้ามาให้ได้?” ทำผิดพลาดแล้วไม่รู้จักค้นหาเหตุผลจากตัวตนของตนเอง กลับผลักภาระความรับผิดชอบทั้งหมดไปยังคนอื่น ๆ ช่างเป็นการกระทำของคนขี้ขลาดจริง ๆ จางยวี่โหร่วแค่เกลียดตัวเองที่ตาบอดไปแล้ว ก่อนหน้านี้กลับยังตกหลุมรักกับผู้ชายแบบนี้ได้

“ความรักของเราก่อนหน้านั้นล้วนดีขนาดนั้นมาตลอด ก็เพราะการปรากฏตัวของอ๋องชิงผินคนนั้น เจ้าก็เริ่มห่างเหินจากเปิ่นหวัง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาขัดขวางระหว่างกลางหลายครั้ง เราก็ได้เป็นสามีภรรยากันตั้งนานแล้ว ข้อตกลงตามนัดสามเดือนนั่นก็ได้ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือน ขณะนี้เจ้าได้กล่าววาจาเช่นนี้ หรือว่าตั้งใจให้เปิ่นหวังอึดอัดใจ ที่แท้เจ้าเห็นเปิ่นหวังเป็นอะไรแล้ว?”

“เจ้าปล่อยข้า ปล่อยนะ!” จางยวี่โหร่วดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นวัตถุสีแดงเล็ก ๆ สิ่งหนึ่งลื่นไหลลงมาจากร่างของนางแล้วหล่นไปบนพื้น

นั่นคือ...

จางยวี่โหร่วเพิ่งคิดหยิบขึ้นมา แต่เวลานี้กลับมีคนหยิบสิ่งนั้นไปเร็วกว่านางก้าวเดียว

นั่นเป็นกระเป๋าเงินที่เย็บปักนกเป็ดน้ำอย่างวิจิตรงดงามละเอียดอ่อนมากใบหนึ่ง ทุกเข็มทุกฝีด้ายล้วนพิถีพิถันละเอียดมากอย่างเห็นได้ชัด

นกเป็นน้ำเป็นสัญลักษณ์ของความรักอย่างลึกซึ้งระหว่างสามีและภรรยา ความสัมพันธ์อันดีนับร้อยปี

บนร่างนางมีสิ่งนี้ได้อย่างไร หรือว่า...นี่เป็นนางทำเองเหรอ? นั่นทำเพื่อใครน่ะ?

พลิกหันกระเป๋ากลับมา ก็ได้เห็นด้านหลัง มีคำว่า “หัน” ปักด้วยดิ้นทองตัวหนึ่ง

ประกายตาของ เป่ยจื่อห้าวพลันหม่นหมองขึ้นมา เรื่องมาถึงวันนี้ เขาไหนเลยยังมิอาจเข้าใจ

จางยวี่โหร่วเห็นเขาเก็บกระเป๋าเงินใบเล็กขึ้นมา ก็ขึ้นหน้ามาคิดจะชิงคว้ากลับไปทันที แต่เป่ยจื่อห้าวกลับผลักนางล้มลงไปบนพื้น

“จางยวี่โหร่ว ทั้งหมดมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังกล้าโต้เถียง เรื่องมาถึงตอนนี้ เจ้ายังมีวาจาใดจะกล่าว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ