แต่เมื่อเซียวจ้านให้กำลังใจมา เจียงอวี่โหรวก็ฮึดสู้เดินไปด้านหน้า สีหน้าดูแล้วก็ยังมีความประหม่าอย่างมาก
ทันใดนั้น เธอก็ได้กลายเป็นจุดเด่นในทันที!
เพราะว่า มีเพียงแค่เธอที่ไม่ได้เอาของขวัญมา!
ส่วนพวกคนที่นำเอาของขวัญมา ต่างก็นึกถึงคำพูดที่เซียวจ้านพูดก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ภายในใจจึงยิ่งเกลียดเซียวจ้านและเจียงอวี่โหรวมากกว่าเดิม!
“เธอชื่ออะไร?”
ซุนเว่ยโก๋ได้รับคำสั่งจากหานลี่หมินมาแต่แรกแล้ว และก็มองเห็นเซียวจ้านจากที่ไกลนานแล้ว ตอนนี้จึงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“ฉัน…ฉันชื่อเจียงอวี่โหรว” เจียงอวี่โหรวตอบกลับเสียงเบา ตัวสั่นระริก น้ำเสียงเบามาก
“เจียงอวี่โหรว? เธอมาจากบริษัทไหน?” ซุนเว่ยโก๋ถาม
เจียงอวี่โหรวมึนงงไปหมด เธอไม่มีบริษัท
ดังนั้น เธอจึงหันกลับไปมองเซียวจ้านอย่างขอความช่วยเหลือ
แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้เซียวจ้านตอบ ทางด้านเจียงเฉินและสวีเฟินก็ยกมือขึ้น แล้วพูดยิ้มๆ
สวีเฟินพูดเสียงดังว่า “เจียงซื่อกรุ๊ป เธอเป็นคนจากตระกูลเจียง เป็นลูกสาวของฉันเองค่ะ!”
“ใช่ๆๆ เป็นพี่สาวผมด้วยครับ ผมชื่อเจียงเฉิน นี่คือนามบัตรของผมครับ” เจียงเฉินสีหน้าประจบ รีบร้อนหยิบเอานามบัตรยื่นออกไป
ความไร้ยางอาย วินาทีนี้ได้ถูกสวีเฟินและเจียงเฉินแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน!
แต่สองแม่ลูกกลับไม่รู้สึกสักนิด แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
ใครจะคาดคิดว่าหานลี่หมินคนนี้จะไม่รับของขวัญ!ไม่เพียงแต่ไม่รับของขวัญ แล้วยังปฏิเสธความจำนงที่จะร่วมธุรกิจกับตระกูลและธุรกิจที่นำของขวัญมามอบให้ด้วย แต่กลับเลือกเจียงอวี่โหรวผู้เป็นคนเพียงคนเดียวที่ไม่ได้นำเอาของขวัญมา!
นี่คือโอกาส เป็นโอกาสของเจียงเฉิน!เป็นโอกาสของบ้านรองตระกูลเจียง!
เซียวจ้านขมวดคิ้ว ยิ้มเยาะออกมา แล้วพูดว่า “เธอเป็นลูกสาวของคุณ? เป็นพี่สาวของนาย? ฉันจำได้ว่าเมื่อวานพวกคุณไม่ได้พูดแบบนี้นะ!”
“เซียวจ้าน เกี่ยวอะไรกับนาย?!หุบปากไปซะ!” สวีเฟินไม่เกรงใจ ด่าทอใส่
“นั่นสิ!เซียวจ้าน นายยังไม่ใช่ลูกเขยตระกูลเจียงของเรา นายยังไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนอะไรฉันที่นี่!” เจียงเฉินพูดอย่าโมโห กลัวว่าจะเสียโอกาสที่จะได้ร่วมธุรกิจกับลี่หมินกรุ๊ปในครั้งนี้เพราะเซียวจ้าน!
ซุนเว่ยโก๋คิ้วขมวด ถามว่า “คุณเจียง คุณมั่นใจว่าคุณคือคนของเจียงซื่อกรุ๊ป? ท่านนี้คือแม่ของคุณ ท่านนี้คือน้องชายของคุณ?”
ซุนเว่ยโก๋มีความลังเล แล้วหันมองเซียวจ้านที่อยู่ไกลออกไปด้วยสายตาสงสัย
เขาจำได้ว่าที่ผู้พันหานสั่งมาเมื่อวานคือ ให้เพียงแค่เจียงอวี่โหรวคนเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้มีสองคนนี้โผล่ออกมา ทำให้เขารู้สึกจัดการได้ลำบาก
เจียงอวี่โหรวยังนิ่งอึ้งอยู่ แต่ในเวลานี้ก็ได้สติขึ้นมา แล้วพูดอย่างลังเลว่า “ฉัน….ฉัน….”
“เธออะไรกัน!เจียงอวี่โหรว ฉันเป็นแม่เธอนะ! และเขาก็เป็นน้องชายของเธอ! เธอเป็นคนตระกูลเจียงของฉัน!” สวีเฟินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา กลัวว่าเจียงอวี่โหรวจะพูดอะไรผิดไป!
ถึงแม้เธอจะเป็นแค่แม่เลี้ยงของเจียงอวี่โหรว แต่ตามกฎหมายแล้วเธอก็ยังเป็นแม่!
เจียงเฉินเองก็ถลึงตาใส่เจียงอวี่โหรวอย่างขุ่นเคือง แล้วพูดว่า “พี่! อย่าพูดอะไรผิดไปละ! ไม่อย่างนั้น พี่อย่าคิดแม้แต่จะได้กลับเข้าบ้าน!”
ข่มขู่!
ในเวลานี้ สวีเฟินและเจียงเฉินยังข่มขู่เจียงอวี่โหรวอยู่อีก!
“เจียงเสวโป๋! คุรมานี่ พูดอะไรหน่อยสิ! หล่อนเป็นลูกสาวของคุณใช่มั้ย?” สวีเฟินเห็นเจียงอวี่โหรวลังเล จึงรีบดึงเจียงเสวโป๋ที่อยู่ด้านข้างออกมา
เจียงเสวโป๋เองก็ไม่โง่ จึงทำได้แค่หน้าด้านพูดว่า “อวี่โหรว เธอไม่ยอมรับพ่อคนนี้แล้วงั้นหรอ?”
เจียงอวี่โหรวรู้สึกตื่นเต้น เธอไม่คิดเลยว่าจู่ๆเจียงเสวโป๋ก็จะมายอมรับตัวเอง แม้แต่แม้เลี้ยงสวีเฟินและน้องชายเจียงเฉินที่ไม่ชอบตัวเองมาโดยตลอด ก็ออกมานับญาติกับตัวเองอย่างร้อนรนเช่นนี้
สวีเฟินรูสึกหวาดกลัวในทันที ร่างกายสั่นไหวอย่างหวาดกลัว!
สายตาของเซียวจ้านคนนี้น่ากลัวมากจริงๆ เหมือนดั่งเทพมรณะในนรก ทำเอาสวีเฟินรู้สึกหายใจไม่ออก!
“นายๆๆ….นายคิดจะทำอะไร?” สวีเฟินร้อนรน
เซียวจ้านสะบัดมือของเธอทิ้ง ถลึงตาใส่ทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “คิดอยากจะได้สัญญาร่วมธุรกิจกับลี่หมินกรุ๊ปในมือของเจียงอวี่โหรว มีเงื่อนไขเล็กๆเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น! ตระกูลเจียง ต้องต้อนรับเจียงอวี่โหรวกลับตระกูลเจียงอย่างเป็นทางการ! ส่วนพวกเธอทั้งสามคน ก็ต้องขอโทษเจียงอวี่โหรว! อีกอย่าง ต้องให้คุณท่านเจียงเป็นคนมาเชิญกลับด้วยตัวเอง! และ…”
พูดอยู่แล้วสายตาของเจียงอวี่โหรวก็หันไปมองเจียงเหม่ยเหยียนด้วยสายตาเยือกเย็น ทำเอาเจียงเหม่ยเหยียนตกใจตัวสั่น!
“หล่อน ต้องคุกเข่าขอโทษเจียงอวี่โหรวและเข่อเข่อ ไม่อย่างนั้น การร่วมธุรกิจในครั้งนี้ จะไม่เกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลเจียงทั้งสิ้น!”
“ฝันไปเถอะ! ฉันไม่มีทางคุกเข่าขอโทษนังสารเลวอย่างหล่อนแน่นอน! ไม่มีทาง!!!” เจียงเหม่ยเหยียนโมโหอย่างหนัก กระทืบเท้าโวยวาย
แต่ว่า เซียวจ้านไม่สนใจเธอ แล้วหันหลังดึงเจียงอวี่โหรวออกไปจากที่แห่งนี้
เจียงเหม่ยเหยียนหันไปมองซุนเว่ยโก๋ด้วยความโมโห แล้วตะคอกว่า “ผู้จัดการซุน! เจียงอวี่โหรวหล่อนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น และไม่มีพื้นฐานกับความสามารถใดๆเลย แม้แต่บริษัทก็ไม่มี!พวกคุณคิดจะร่วมธุรกิจกับหล่อนจริงๆงั้นหรอคะ?”
ซุนเว่ยโก๋เหลือบมองเจียงเหม่ยเหยียนอย่างเย็นชา ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “นี่คือตัวเลือกของลี่หมินกรุ๊ป และเป็นตัวเลือกของผู้พันหาน เธอยังไม่มีสิทธิ์ที่จะมาข้องใจ!”
พูดแล้วซุนเว่ยโก๋ก็หันไปมองทุกคน แล้วพูดว่า “การเลือกผู้ร่วมธุรกิจในครั้งนี้ได้ตัดสินใจแล้ว! นั่นก็คือเจียงอวี่โหรว!”
พูดจบ ซุนเว่ยโก๋ก็หันหลังเดินจากไป!
ทุกคนที่หน้าประตูทำได้เพียงแค่ยืนมองประตูค่อยๆถูกปิด จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทางแล้วจากไป และในขณะเดียวกันก็เอาแต่สาปแช่งด่าทอเจียงอวี่โหรวและเซียวจ้าน!
เจียงเหม่ยเหยียนเองก็โมโหขุ่นเคืองอย่างมาก ถลึงตาใส่แผ่นหลังของเซียวจ้านและเจียงอวี่โหรวที่เดินจากไป!
“พ่อครับ พวกเราจะทำยังไงดี? นี่มันเนื้อที่ส่งมาถึงปากแล้วนะครับ หากว่าสามารถนำเอาสัญญาร่วมธุรกิจมาจากในมือเจียงอวี่โหรวได้ ตำแหน่งของพวกเราในตระกูลเจียงก็จะเปลี่ยนไปทันทีนะครับ!” เจียงเฉินรู้สึกร้อนรนอย่างมาก เขาโลภอยากได้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทใหญ่ หรือแม้กระทั่งตำแหน่งผู้จัดการบริษัทมานานแล้ว
เจียงเสวโป๋สีหน้าขรึม พูดว่า “พวกเรารีบกลับไปบอกคุณท่านกันเถอะ แล้วให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลมังกรเวทย์ประการ