“ตึกๆๆ!”
ชั่วขณะนั้น ทหารรักษาการณ์ที่ถือปืนสี่นายพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เล็งปากกระบอกปืนไปยังเซียวจ้าน
เหตุการณ์ฉากนี้ ทำเอาผู้คนตกใจกันไม่น้อย ล้วนถอยออกกันไปไกลๆ กลัวว่าจะติดร่างแหประสบเคราะห์ร้ายไปด้วย
หัวหน้าที่นำทีมมาคนหนึ่ง คือยศระดับสอง สวมชุดทหารสีเขียวเข้ม และใส่รองเท้าคอมแบตเดินมา จ้องเซียวจ้านด้วยสีหน้าเย็นชา รับบัตรเชิญสองใบจากในมืออู๋ควนเย่เข้ามาเปรียบเทียบดูอย่างละเอียดสักหน่อย
“กล้าปลอมแปลงบัตรเชิญของงานเลี้ยง คือโทษประหารชีวิต!” หัวหน้าจางคนนั้นตะโกนแบบโมโหออกมา
พอคนอื่นๆ ของตระกูลเจียงได้ยิน ต่างตกใจจนขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ ในใจยิ่งเกลียดเซียวจ้านแทบแย่
“แย่แล้วๆ โทษประหารชีวิตเลย โอ้มายก็อด!”
“ต้องโทษเซียวจ้าน! ทำไมเขาถึงทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้! พวกเราคงไม่ต้องตายกันจริงๆ หรอกมั้ง?”
“ใครก็ได้เข้ามาที! ก็พวกเขาสามคนนี้ ยังมีคนตรงนี้ที่ถือบัตรเชิญแบบนี้ไว้ ควบคุมตัวเอาไว้ทั้งหมด!” หัวหน้าจางคนนั้นตะโกนสั่งแบบเข้มงวด
“ตึกๆๆ!”
ชั่วขณะนั้น ทหารรักษาการณ์ที่ถือปืนสิบกว่านายวิ่งมาจากที่ไกลๆ ไม่นานก็ควบคุมคนของตระกูลเจียงที่ถือบัตรเชิญแบบนี้อยู่ในมือเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
ทันใดนั้น เสียงอันคับแค้นใจดังลั่นไปทั่ว
“อ่า อย่ามาจับพวกเราสิ! พวกเราไม่อยากตายนะ!”
“นี่ไม่เกี่ยวกับพวกฉันเลย เป็นเขา เป็นเซียวจ้านคนนั้นปลอมแปลง! เป็นเขาเอามาให้พวกฉัน! พวกฉันไม่เข้าไปแล้วยังไม่พออีกเหรอ?”
“ใช่! พวกนายอย่าจับผิดคนเด็ดขาด! เซียวจ้าน ล้วนเป็นเพราะแก! แกไอ้คนวอนโดนฆ่า!”
เวลานี้ คนของตระกูลเจียงสิบกว่าคนจ้องเซียวจ้านด้วยสายตาเกลียดชังแล้วตะโกนด่าทอ ตอนนี้อยากฆ่าเขาจนใจแทบขาด
สวีเฟินก็โมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัวเช่นกัน แต่ว่าถูกทหารรักษาการณ์ที่ถือปืนควบคุมตัวเอาไว้ สีหน้าเธอดูหวาดกลัวมาก ชี้หน้าเซียวจ้านแล้วตำหนิเสียงดังว่า “ล้วนเป็นเพราะแก! ไอ้คนดวงซวยอย่างแกนี้! ทำไมแกไม่ไปตายซะ!”
เจียงเฉินก็กลัวสุดขีดเหมือนกัน พูดอ้อนวอนว่า “หัวหน้าครับ นี่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราจริงๆ! เป็นเขาที่ทำ! อยากจับก็ไปจับเขา! ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไม่เข้าไปแล้ว......ขอร้องพวกคุณนะ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”
พูดอยู่ เจียงเฉินยังขาอ่อนทรุดตัวลงไปโดยตรง ร่ำไห้แบบน้ำตาน้ำมูกนองหน้าพลางร้องทุกข์
เหตุการณ์ที่เหมือนละครแบบนี้ ทำเอาคนมีชื่อเสียงชั้นนำของซูหางที่อยู่โดยรอบ ต่างหัวเราะเยาะกันขึ้นมา มองดูเรื่องน่าอับอายของคนตระกูลเจียงกันอยู่
บนหน้าท่านปู่เจียงไท่ชาง เต็มไปด้วยแววความอับอาย อยากหารูมุดเข้าไปซ่อนจนใจแทบขาด
ช่างขายขี้หน้าเหลือเกิน!
เป็นความอัปยศอดสูอันใหญ่หลวง!
เขามีชีวิตอยู่มาเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว วันนี้เป็นครั้งหนึ่งที่ขายขี้หน้าที่สุดในประวัติศาสตร์ของเขาโดยแท้จริง
แต่ทว่า เซียวจ้านกลับพูดกับหัวหน้าจางคนนั้นแบบไม่รีบร้อน และไม่แสดงตัวต่ำต้อยหรือโอหังด้วย “เป็นของปลอมหรือเปล่า ผมแนะนำว่าดีที่สุดคุณถามผู้บังคับบัญชาของคุณดูสักหน่อย!”
เซียวจ้านโกรธเคืองแล้ว
เขายอมมาเข้าร่วมงานเลี้ยงงานนี้ ล้วนเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของหานลี่หมิน
เขาเป็นถึงจอมพลเป่ยเหลียงผู้ยิ่งใหญ่
ต่อให้เป็นสี่ผู้อาวุโสแห่งหอมังกรเชิญเขา ก็ต้องมาเชิญด้วยตนเอง
หัวหน้าจางคนนั้นขมวดคิ้ว และกลัวเกิดเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็น จึงทำเสียงเชอะแบบเย็นชา “ดีมาก! ในเมื่อนายไม่ยอมรับ งั้นฉันจะทำให้นายตายแบบยินยอมจนได้เอง!”
พูดจบ หัวหน้าจางรีบต่อสายโทรศัพท์ดาวเทียมไปหาผู้บังคับบัญชาในสถานที่จัดงานเลี้ยงแล้ว
“อะไรนะครับ? ครับๆๆ! ผมทราบแล้วครับ!”
ไม่นาน สีหน้าของหัวหน้าจางก็เปลี่ยนไปถึงที่สุด จากนั้น เขาวางสายโทรศัพท์แบบนัยน์ตาตกใจกลัวเต็มที่ จ้องเซียวจ้านมาตลอด
อู๋ควนเย่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ พูดว่า “หัวหน้าครับ ท่านจะปล่อยเจ้าหมอนี่ไปง่ายๆ ไม่ได้นะครับ! คาดไม่ถึงเขากล้าปลอมแปลง จะต้องลงโทษให้หนักเลยครับ! ดีที่สุดจับพวกเขาเอาไว้! ตัดสินประหารชีวิต!!!”
ป้าบ!
หัวหน้าจางคนนั้นหมุนตัวมาแล้วก็ตบไปทีหนึ่ง ตบบนหน้าของอู๋ควนเย่ด้วยความโกรธเคือง ตวาดใส่ “พูดบ้าบอคอแตกอะไร! ของปลอมอะไร? ที่อยู่ในมือคุณเซียวคือบัตรเชิญพิเศษ! ยังจะสูงศักดิ์มากกว่าบัตรเชิญในมือนายอีก!!!”
ซี๊ดๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลมังกรเวทย์ประการ