"อ้อ? คนไข้คนไหนเหรอครับ?" เซียวอี้ถามขณะยกมือกอดอก
"ไม่สำคัญหรอก ฉันสนใจแค่ว่าคุณหมอเซียวจะกล้ารับคำท้านี้มั้ย?" หยูซือม่านเอียงศีรษะ ดวงตาของเธอส่องประกาย
“รับสิครับ ผมแค่กลัวว่าคุณจะทนเสียหน้าถึงสองครั้งไม่ไหวเท่านั้นเอง” เซียวอี้พูดยิ้ม ๆ
“หึ ไม่ใช่เรื่องของคุณ แค่ตามฉันมาก็พอ!” หยูซือม่านจ้องเขาอย่างดูแคลน และสะบัดตัวเดินออกจากคลินิกด้วยบุคลิกสง่างาม
เซียวอี้เพียงยิ้มไม่ตอบคำ เขาเดินออกจากประตูคลินิกอย่างไม่รีบร้อน หลังจากตรวจคนไข้ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย
หยูซือม่านนั่งรออยู่ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 สีแดง เมื่อเธอเห็นเซียวอี้ เธอจึงเปิดประตูและพูดว่า "ฉันนึกว่าคุณจะกลัวซะอีก"
เซียวอี้ก้าวเข้าไปนั่งในรถ เขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า "ผมจะปฏิเสธคำเชิญจากสาวงามได้อย่างไรกัน?"
“หึ ฉันจะรอดูนะคะว่าหลังจากนี้คุณจะยิ้มออกอยู่รึเปล่า?” ริมฝีปากของหยูซือม่านยกโค้งเล็กน้อย จากนั้นเธอจึงเหยียบคันเร่ง รถบีเอ็มดับเบิลยูพุ่งทะยานไปข้างหน้าในทันใด
รถยนต์ขับมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก ตรงสู่บริเวณคฤหาสน์ริมชายฝั่งแถบตะวันออก
ไกลออกไป มีตัวอักษรสีทองอร่ามสลักคำว่า "คฤหาสน์ไคซวน" ปรากฏสู่สายตาของเซียวอี้
“คฤหาสน์ไคซวน?” มุมมองที่เขามีต่อสถานที่แห่งนี้นั้นสูงส่งไม่อาจเทียบเทียมได้ ในฐานะศูนย์กลางของเหล่าเศรษฐีหน้าใหม่ และกลุ่มผู้เรืองอำนาจยิ่งใหญ่ในเมืองไห่ คฤหาสน์ไคซวนกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยและสถานะอันสูงส่ง
คฤหาสน์แต่ละหลังมีมูลค่าเหยียบหลายสิบล้านดอลลาร์ หากปราศจากเงินทองและอำนาจแล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อบ้านในทำเลแถบนี้
เซียวอี้ทอดมองย่านที่อยู่อาศัยซึ่งมีทิวทัศน์งดงามจับตา เขาเองก็รู้สึกประทับใจมากเช่นกัน
"วิธีการ เงินทอง มิตรสหาย และสถานที่ล้วนมีความสำคัญต่อผู้ฝึกตนทุกคน" และดูเหมือนเมื่อเวลาหมุนผ่านไป เหล่าผู้ฝึกฝนรุ่นหลังคงจะสนใจเรื่องเงินทองและสถานที่มากกว่าเดิม
รถยนต์แล่นผ่านประตูหลักของคฤหาสน์ที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา ในที่สุดรถยนต์ก็หยุดจอดหน้าคฤหาสน์สามชั้นซึ่งมีสวนต้นไม้งามวิจิตร
ประตูทรงโค้งของคฤหาสน์ และโดมสไตล์ยุโรปทอดตัวสูงตระหง่าน เพียงมองก็ทราบทันทีว่าเจ้าของต้องร่ำรวยมาก
"ตามฉันมา!" หยูซือม่านเชิดคอระหงอย่างหยิ่งยโส และเดินนำหน้าเซียวอี้เข้าไปในตัวคฤหาสน์ ทั้งสองเดินตรงไปจนถึงช้ันสาม
ที่ประตูห้องด้านในสุด หยูซือม่านหยุดเดินและเคาะประตูด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
"เข้ามา!" เสียงบ่นพึมพำของหญิงสาวดังจากข้างในห้อง
“อืม ไม่สำคัญหรอก แต่ยังไงก็ขอบคุณเธอนะ หมอประจำตัวของฉันบอกว่าจิตแพย์จากโรงพยาบาลจิตเวชก็จะมาวันนี้เหมือนกัน ฉันกำลังรอเขาอยู่” ชูว่านเอ่ยอย่างรำคาญใจ
หยูซือม่านถอยหลังเอนตัวกระซิบข้างหูเซียวอี้ว่า "ชูว่านมีอาการซึมเศร้าอย่างหนัก เธอต้องพบหมอจำนวนนับไม่ถ้วนมานานว่า 2 ปีแล้ว แต่ก็รักษาไม่หายซักที ถ้าคุณรักษาเธอได้ ฉันจะเชื่อคุณโดยไร้ข้อกังขา"
จู่ ๆ ประตูห้องพลันถูกเคาะ แพทย์ในเสื้อคลุมสีขาวเดินนำหน้าบุรุษหน้าตาดีวัยสามสิบสวมใส่ชุดสูทและรองเท้าหนังก้าวเข้ามาในห้อง
ทันทีที่ชายคนนั้นเดินเข้ามาข้างใน เขาเหลือบมองกลุ่มคนที่ยืนก่อนหน้าอย่างจาบจ้วง นอกจากสีหน้าประหลาดใจยามเพ่งพิศชูว่านแล้ว เขาก็ไม่สนใจคนอื่นอีก รัศมีแห่งความเย่อหยิ่งรุนแรงของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัด
"คุณชูครับ คุณหมอหลิวไป่ฮุ่ยจากโรงพยาบาลแพทย์ประจำเมืองมาถึงแล้วครับ" แพทย์ประจำตัวในเสื้อคลุมสีขาวเอ่ยกับชูว่านด้วยความเคารพนอบน้อม "คุณชู ตามที่เรียนแจ้งคุณเมื่อวาน คุณหมอหลิวคือจิตแพทย์ที่ชำนาญการที่สุดในเมืองไห่ของเรา รวมถึงระดับทั่วประเทศด้วย เขาเพิ่งได้รับรางวัลที่ใหญ่ที่สุดจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกันเมื่อปีที่แล้ว เป็นโชคดีของคุณมากเลยครับ ดร.หลิวเพิ่งบินกลับมาที่ประเทศจีนพอดี ผมจึงเชิญเขามาพบคุณ"
“อ๋อ เชิญนั่งเลยค่ะ!” ชูว่านโบกมืออย่างไม่แยแส พลางตอบรับ
“คุณเชิญหมอคนอื่น ๆ มาแล้วเหรอครับ?” หลิวไป่ฮุ่ยเหลือบมองเซียวอี้ ขณะถามอย่างไม่พอใจ
“นี่คือคุณหมอเซียวอี้ แพทย์แผนจีนซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังประจำหอจี้ซื่อค่ะ คุณหมอหลิว ฉันเกรงว่าวันนี้คุณอาจจะต้องยืดหยุ่นหน่อยนะคะ” หยูซือม่านตั้งใจกวนน้ำให้ขุ่น เธอจึงชี้ไปที่เซียวอี้และแนะนำเขาด้วยรอยยิ้มกวนอารมณ์
หลิวไป่ฮุ่ยพ่นลมหายใจเย็นชา มีแววดูถูกเหยียดหยามฉายชัดเจนบนใบหน้าอ่อนโยนของเขา "หืม ตลกไม่เบานะครับ ในทางจิตเวชแล้ว แพทย์แผนจีนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนะครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...