ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ นิยาย บท 37

"ชูว่าน อย่าทำแบบนั้นสิ กินแต่เนื้อ หัดกินผักเสียบ้าง!"

"ฮ่า ๆ..." เหล่าสาว ๆ หัวเราะคิกคักชอบใจ

เซียวอี้มองกลุ่มหญิงสาวที่ยิ้มแย้มปานดอกไม้บานสะพรั่ง เขาเพียงยิ้มไม่เอ่ยคำใด และยินยอมให้ชูว่านซบแขนเขาตามใจชอบ แขนที่สัมผัสกับชูว่านนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน ทำให้เขารู้สึกดียิ่ง

อารมณ์ของบุรุษทุกคนในห้องโถงรุนแรงยิ่งกว่า "ความหึงหวงและชิงชัง" เสียอีก

"บ้าเอ๊ย ทำไมจู่ ๆ ไอ้หน้าจืดถึงขโมยซีนกลายเป็นดาวเด่นไปได้? มันแย่งสปอร์ตไลท์ไปจากฉัน"

"จะมากเกินไปแล้ว มีแต่สาว ๆ รุมชอบมันอยู่คนเดียว!"

"ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ? ต่อจากนี้ถ้าเขาโผล่ไปที่ไหน ฉันจะไม่ไปที่นั่น น่าเบื่อชิบ!"

หนุ่ม ๆ บ่นออกมาอย่างไม่พอใจ

เซียวเผิงโปและเจี๋ยรู่หลงยิ่งทวีความหงุดหงิดขึ้นอีก พวกเขายืนซ่อนตัวอยู่ตรงระเบียง

ทันใดนั้นพลันมีหญิงสาวสวมใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยผู้หนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบผ่านทางประตูข้างเข้ามาข้างในอย่างตื่นตระหนกท่ามกลางสายตาของทุกคน ชุดราตรีของเธอยับยู่ยี่ไม่น่ามอง เรือนร่างท่อนบนแทบเปล่าเปลือย ทรงผมยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง เธอกรีดร้องด้วยความเสียขวัญว่า "แย่แล้ว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ช่วยเรียกรถพยาบาลที!"

"โอ้! แม่เจ้า! นั่นใครน่ะ?"

"นั่นมัน เซียวน่า! หล่อนคือเซียวนา!"

"ดูนั่นสิ!" ทั้งโถงจัดเลี้ยงตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหลทันทีประดุจหม้อไฟอันเดือดพล่าน บางคนตกตะลึง บางคนยกมือป้องปากหัวเราะคิก และบางคนหน้าแดงก่ำ ทุกคนต่างชี้ไม้ชี้มือไปทางเซียวน่า

"เกิดเรื่องอะไรขึ้น?" ชูว่านขมวดคิ้ว ขณะถามด้วยเสียงเย็นเยียบ

ทั้งโถงเงียบกริบทันที สายตาหลายสิบคู่จับจ้องเซียวน่า

"คือว่า บริกรหนุ่มข้างใน... หมดสติ..." ใบหน้าเซียวน่าแดงซ่าน ศีรษะสั่นโงนเงน เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งเสพยามา วาจาที่เอ่ยก็ตะกุกตะกัก

"กรี๊ด!" เหล่าผู้คนตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง

“พระเจ้า ทำไมหล่อนถึงไร้ยางอายขนาดนี้! กล้าให้ท่าบริกรในงานด้วย!”

“เซียวน่าจะใจร้อนเกินไปแล้ว!”

ชูว่านเหลือบมองเซียวน่าด้วยแววตาดูถูก และไม่เอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น เธอดึงแขนเซียวอี้ไปตรวจดูสถานการณ์ที่ประตูข้าง

ทันทีที่พวกเขามาถึงประตู เซียวอี้เห็นบริกรหล่อเหลาในวัยยี่สิบกว่าปีนอนตัวแข็งอยู่บนพื้น ทั้งตัวสวมเพียงเสื้อเชิ้ตหลุดรุ่ย ใบหน้าเขาแดงเถือกราวกับผ้าย้อมสีชาด ดวงตาปูดโปนถลนดูน่าสะพรึงยิ่ง

"ตาเถร เขาเป็นอะไรไป? ทำไมหน้าเขาถึงแดงขนาดนี้? ฉันว่าเขาต้องใกล้ตายแล้วแน่ ๆ?" ฝูงชนมากมายยืนออเบียดเสียดกันเต็มประตู ต่างซุบซิบเรื่องบริกร

"เรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้!" ชูว่านย่นคิ้วเล็กน้อย ก่อนเอ่ยสั่งการคนที่อยู่ข้างหลังเสียงกร้าว หากมีคนตายในคฤหาสน์ของเธอ คงเป็นความโชคร้ายยิ่ง

มีคนกดเบอร์ทันที และกำลังจะโทรเรียกรถพยาบาล

“ผมเกรงว่ากว่ารถพยาบาลจะมาถึง ก็คงสายเกินไป!” เซียวอี้ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด ขณะเอ่ยเสียงต่ำ เขาหยิบเข็มเงินออกมา แล้วก้าวเดินเข้าไปทางบริการอย่างรวดเร็ว

เซียวอี้ย่อตัวลง และประคองศีรษะของบริกรวางบนขาของตน จากนั้นเขาจึงเงื้อมือขวาแทงเข็มเงินลงบนจุดฝังเข็มไป่ฮุ่ยที่บริเวณศีรษะ

“ฉึก!” เสียงเข็มปักผิวเนื้อ เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูดไกลถึง 3 เมตร

“กรี๊ด! เลือด!” ผู้ชมต่างหวีดร้องเมื่อเห็นเลือดพุ่งกระเซ็น

แม้แต่ใบหน้าชูว่านยังถอดสี

เซียวอี้ไม่สนใจเสียงกรีดร้องของผู้คน เขาปล่อยให้เลือดไหลออกมาเรื่อย ๆ จากนั้นจึงพลิกตัวผู้ป่วยให้นอนคว่ำหน้า เซียวอี้รีบถอดเสื้อบริกรออก และบิดพลิกเข็มสีเงินเบา ๆ ตามด้วยฝังเข็มตามแนวกระเพาะปัสสาวะ เข็มเล่มสุดท้ายปักลงบนจุดเหว่ยจงที่บริเวณข้อพับขา

ด้วยการหมุนพลิกนิ้วเบา ๆ เคล็ดวิชาเข็มจตุรงค์พลันถูกสำแดงเดชโดยเซียวอี้อีกครา ริ้วสีแดง 2 เส้นปรากฏขึ้นตามแนวกระเพาะปัสสาวะไล่จากข้างบนลงล่าง

"คุณเซียวฝังเข็มเก่งเหรอ?"

“ว่าแต่ทำไมถึงมีเส้นสีแดงๆ โผล่ขึ้นมา เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”

“จะรอดมั้ย? เสียเวลาไม่ได้แล้ว ถ้าเกิดมีคนตายจะทำอย่างไร?”

ทุกคนต่างถกเถียงกันวุ่นวาย

“เซียวอี้จะไม่พลาดเด็ดขาด!” ชูว่านจับจ้องเซียวอี้ และประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่หันมองผู้อื่น น้ำเสียงของเธอหนักแน่นมาก ทำให้ทุกคนหุบปากฉับทันที

เซียวอี้ไม่สนใจท่าทีของทุกคน เนิ่นนานกว่าสิบนาที เขาจึงค่อย ๆ ดึงเข็มเงินออกมาไล่จากข้างบนลงล่างตามลำดับ

ขณะที่เข็มเงิน ณ จุดฝังเข็มเจิ้นจงถูกดึงออกมา เลือดสีดำและแดงสองสายไหลพลันออกมาจากรูเข็ม

เซียวอี้พลิกตัวบริกรหงายขึ้นอีกครั้ง มือถือเข็มสีเงินเอียงระดับ 45 องศา ก่อนจะแทงลงบนจุดเหรินจงของชายผู้นั้นโดยพลัน

ด้วยการบิดพลิกเข็มอย่างเบามือ บริกรค่อย ๆ ไอสำลักและลืมตาช้า ๆ

“เฮ้ย เขาฟื้นแล้วจริง ๆ ด้วย!”

"การฝังเข็มสามารถปฐมพยาบาลได้ด้วยเหรอ?"

"ทักษะการแพทย์ของคุณเซียวสุดยอดมาก!"

ผู้คนพูดคุยเรื่องนี้อย่างตื่นเต้นไม่หยุด

เซียวอี้โยนเสื้อตัวหนึ่งปิดคลุมบริเวณหว่างขาของบริกรไว้ เและค่อย ๆ เก็บเข็มเงินกลับดังเดิม

เวลานี้บริกรหนุ่มฟื้นคืนสติแล้ว เมื่อพบว่าตนเปลือยกายล่อนจ้อน และมีผู้คนยืนมุงมากมาย เขาก็อับอายมาก ใบหน้าหล่อเหลาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เมื่อเห็นสีหน้าดุดันของชูว่าน เขาก็ละล่ำละลัก "คุณหนูชูว่าน ผม... ผมขออภัยครับ คุณผู้หญิงท่านนั้น เธอ เธอบอกว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดี..."

ทว่าชูว่านกลับเผยยิ้มบาง แล้วกล่าวว่า "แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วไปเสีย ตอนไปรับเงินเดือนที่สำนักงานผู้จัดการ แจ้งเขาว่าฉันขึ้นเงินเดือนให้นายเพิ่มอีกเท่าตัวนับแต่วันนี้เป็นต้นไป"

"หา?" บริกรหนุ่มแทบไม่เชื่อหูตัวเอง หลังเกิดเรื่องน่าอัปยศอดสูเช่นนี้ เขายังจะคาดหวังให้ตัวเองได้รับเงินเดือนได้อย่างไรกัน? แต่ชูว่านกลับต้องการเพิ่มเงินเดือนให้เขาเป็นสองเท่า

"ขอบคุณครับ คุณหนูชูว่าน! ขอบคุณครับ คุณหนู!" บริกรหนุ่มเอ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้งบุญคุณ

"เปล่าหรอก ฉันแค่ต้องการตกรางวัลที่นายทำให้ทุกคนได้เห็นด้านร้อนแรงของคุณหนูตระกูลเซียว"

บริกรหนุ่มหน้าร้อนฉ่า ไม่รู้จะพูดอะไรดี

ฝูงชนที่ยืนมุงเต็มประตูหัวเราะครื้นเครง

“จำไว้ว่าคุณเซียวเป็นคนที่ช่วยชีวิตนายไว้ ไม่เช่นนั้นวันนี้นายคงลงโลงไปแล้ว!” ชูว่านหรี่ตาเอ่ยอย่างมีเลศนัย

"ขอบคุณคุณหมอเซียวที่ช่วยชีวิตผมครับ!" บริกรหนุ่มใช้เสื้อคลุมส่วนล่างของตัวเองไว้ และกำลังจะย่อตัวคำนับเซียวอี้

เซียวอี้เพียงมองบริกร และโบกมือให้อย่างไม่ถือสา จากนั้นเขาจึงเดินออกมาพร้อมชูว่าน

ยามนี้เซียวน่านอนพักผ่อนอยู่บนโซฟา ถุงน่องสีดำข้างหนึ่งคาอยู่ที่เรียวขา อีกข้างหนึ่งหลุดหายไปแล้ว ฝ่าเท้าเธอเปลือยเปล่า เรือนผมยุ่งเหยิง เครื่องสำอางเลอะเป็นคราบดุจเขม่าก้นหม้อ เรือนร่างที่มีผ้าห่มคลุมไว้สั่นระริกไม่หยุด สารรูปของเธอดูโทรมน่าเกลียดมาก

“ไร้ยางอายเสียไม่มี เมื่อกี้หล่อนยังตำหนิไม่ให้เจี๋ยรู่หลงมักมากอยู่เลย แต่หล่อนกลับแอบได้เสียกับบริกรในงานเลี้ยงที่มีคนตั้งเยอะแยะ”

"เสื่อมเสียจริง ๆ ที่ตระกูลเซียวมีผู้หญิงสำส่อนแบบนี้!"

"ใช่แล้ว ถ้าไม่ได้คุณเซียวช่วย ตระกูลเซียวต้องเจอปัญหาใหญ่แน่วันนี้"

เซียวอี้พิจารณาร่างเซียวน่า แล้วพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย

ผิวเปล่าเปลือยท่อนบนของเซียวน่ามีจุดสีม่วงเล็ก ๆ ประมาณ 2-3 จุด เซียวอี้คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างมาก เพราะมันคล้ายเนื้อเยื่อบ็อกซิกาของผู้ป่วยรักร่วมเพศเมื่อวันก่อน ทว่าจุดบนร่างเซียวน่ายังอ่อนจางกว่าเล็กน้อย คาดว่ายังไม่ปะทุร้ายแรง สันนิษฐานว่าเซียวน่าคงมีพฤติกรรมชอบมั่วสุมและเสพยาเป็นประจำ ไม่แปลกใจที่เธอจะติดเชื้อมะเร็งเนื้อเยื่อบ็อกซิกาอันร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้หรอกที่เซียวอี้จะอาสารักษาผู้หญิงตรงหน้า เขาจึงวางทีสงบไม่เอ่ยวาจาใด

เซียวเผิงโปได้ยินข่าวจึงรีบรุดเข้ามา เมื่อเขาเห็นสภาพยับเยินดูไม่ได้ของน้องสาว รวมถึงได้ยินคำนินทาหนาหูของผู้คนแล้ว ยามเหลือบมองเซียวอี้ที่กำลังเหยียดยิ้มเยาะ เซียวเผิงโปก็อับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี

"เซียวเผิงโป ตระกูลแกช่างมีเอกลักษณ์เสียจริง!" เซียวอี้เย้ยหยัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าขาว ๆ ของเซียวเผิงโปพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาเหลือบมองน้องสาวของตน ก่อนจะกัดฟันกรอด ถ้าไม่มีคนอื่น เขาคงตบหน้าน้องสาวไปแล้ว เซียวเผิงโปเคยประกาศว่า "เซียวอี้คือความอัปยศของตระกูลเซียว" ทว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? น้องสาวของเขากลับทำเรื่องงามหน้าต่อหน้าทุกคน ณ ที่นี้

เซียวเผิงโปอยากร่ำไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขากระชากร่างเซียวน่าขึ้นมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วลากตัวเธอเดินออกไปทันที ในใจเจ็บแค้นราวกับตกนรกหมกไม้ทั้งเป็น

เจี๋ยรู่หลงโกรธจนแทบบ้า แต่เพราะเขายังมีพันธะกับตระกูลเซียว จึงจำต้องติดตามเซียวเผิงโปกลับไป ชุดสูทสีเขียวของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวกเขียวบนศีรษะดูโดดเด่นสะดุดตาอย่างยิ่งในขณะนี้

งานเลี้ยงจบลงอย่างกะทันหัน สาว ๆ สังคมชั้นสูงยืนจับกลุ่มละ 3-5 คนพากันซุบซิบเรื่องอื้อฉาวของเซียวน่าอย่างออกรส เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และแน่นอนว่าจะกลายเป็นประเด็นที่ทุกคนซุบซิบกันตลอดค่ำคืนนี้

ชูว่านเดินออกจากห้องโถงไปเงียบ ๆ

ผ่านไปครู่หนึ่ง บริกรผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเซียวอี้อย่างเงียบเชียบ เขากระซิบเสียงเบาว่า "คุณเซียวครับ คุณหนูชูว่านเชิญคุณไปที่ห้องนอนของคุณหนูครับ!"

เซียวอี้ยิ้ม และพยักหน้ารับโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เขาเดินขึ้นไปชั้นสอง มุ่งตรงสู่ห้องนอนของชูว่าน

ไม่มีใครอยู่ในห้องนอน มีเพียงโคมแดงสีเข้ม 2 ดวง ผ้าโปร่งบางสีม่วงอ่อนลอยพลิ้วไหวในอากาศ ทั้งห้องหอมละมุนอบอวลด้วยกลิ่นหอมอ่อนจาง ทำให้ทั้งห้องดูเงียบงันและคลุมเครือ

เมื่อได้ยินเสียงสายน้ำดังซ่าจากในห้องน้ำ เซียวอี้จึงนั่งลงด้วยรอยยิ้มระบายบนใบหน้า มีไวน์แดงชั้นเลิศ 1 ขวดและแก้วทรงสูง 2 ใบจัดเตรียมไว้บนโต๊ะ เซียวอี้จึงเปิดจุกก๊อกไวน์ และรินเครื่องดื่มให้ตัวเองหนึ่งแล้ว เขายกพรวดดื่มในคราเดียว

ผู้ฝึกตนสามารถดื่มสุรา และเสพสุขทางกายได้ ในอดีตกาลเผิงซูเคยดื่มสุราวันละ 3 ไห และเสพสุขกับนารีเป็น 10 คนในยามค่ำคืน แต่เขายังมีอายุยืนยาวถึง 800 ปีจากนั้นจึงสำเร็จเป็นเซียนขึ้นสู่สวรรค์ ดั่งคำกล่าวว่า "ดื่มด่ำสุราอย่างไม่มึนเมานับเป็นความรื่นรมย์สูงสุด ผู้กล้าคือผู้ชื่นชมความงาม โดยไม่ถูกความงามมอมเมา"

หลังดื่มไวน์ไป 3 แก้ว เซียวอี้กำลังดื่มด่ำกับกลิ่นหอมหวานของไวน์ ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดกว้าง ชูว่านที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินนวยนาดออกมา

เซียวอี้ถือแก้วไวน์ไว้ ขณะหันศีรษะมามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มลุ่มลึก ยามนี้เขาพบว่าชูว่านไม่ได้สวมชุดราตรีสีม่วงอีกต่อไป เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ เผยเรียวขานวลเนียนน่าทะนุถนอมทั้งสองประดุจหยกล้ำค่า ฝ่าเท้าอ่อนนุมแตะสัมผัสพรมขนสัตว์สีขาวบริสุทธิ์แผ่วเบา เรือนผมเปียกชื้นสยายทั่วแผ่นหลัง สะท้อนความงามอันเย้ายวนชวนหลงใหล เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายขับเน้นให้ชูว่านดูมีเสน่ห์มากเหลือเกิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ