“พวกแกรู้แก่ใจว่าสุนัขเฝ้าบ้านไม่ควรแว้งกัดเจ้าของ ถึงฉันจะไม่ได้อาศัยที่ตระกูลเซียวนานนัก แต่ก็สมควรมอบบทเรียนให้ขี้ข้าอย่างพวกแกเสียบ้าง!” เซียวอี้กอดอก ขณะเปรยอย่างเย็นชา
แม้ผู้คุ้มกันทั้งสองจะโอหังเพียงใด แต่ก็ไม่ได้ไร้สมอง เมื่อตระหนักแล้วว่าเซียวอี้มีพละกำลังอัศจรรย์เหนือมนุษย์ คืนนี้พวกเขาไม่น่ารอดแล้ว ถึงจะกล้ำกลืนฝืนทนอย่างยิ่ง แต่ทั้งคู่ก็รู้ถึงความยากของภารกิจ และตั้งใจจะล่าถอย ทั้งคู่มองหน้ากัน สองมือยกมือปิดแก้ม กำลังจะวิ่งหนีสุดฝีเท้า
"คิดจะหนีแล้วเรอะ? ฉันว่าแค่นี้ยังไม่พอนะ" เซียวอี้ตะคอก และพุ่งตรงเข้าไปหาผู้คุ้มกัน เขาวาดมือกดจุดบริเวณหน้าอกและปากของคนทั้งคู่ในบัดดล
"อึก!" จู่ ๆ ทั้งคู่ก็หยุดเคลื่อนไหว ลมหายใจคั่งค้างอยู่ในอก ดวงตาของทั้งสองเบิกกว้างราวกับกำลังสำลักบางสิ่ง พวกเขาหายใจไม่ออก ได้แต่ยืนทึ่มทื่ออยู่ตรงนั้น และขยับไม่ได้เลยสักนิด เมื่อครู่ทั้งสองเพิ่งถูกเซียวอี้โจมตีจุดตายของร่างกาย
“ผัวะ ๆ ๆ!” ร่างเซียวอี้ขยับร่างอีกครา เขายกมือฟาดผู้คุ้มกันทั้งสองอีกรอบ
ผู้คุ้มกันรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย ใบหน้าแสบร้อนบวมเป่งขึ้นเรื่อย ๆ ฟันทุกซี่หักกระเด็นร่วงลงพื้น เลือดไหลทะลักจากมุมปาก ทว่าพวกเขาขยับตัวไม่ได้เลย
ยามนี้ชายทั้งสองต่างมองเซียวอี้ด้วยแววหวาดหวั่นในดวงตา ย้อนกลับไปในอดีต แม้แต่ในสนามรบ พวกเขาก็ไม่เคยเกรงกลัวขนาดนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่าทักษะที่คาดเดาไม่ได้ของเซียวอี้อยู่เหนือขอบเขตที่พวกเขาสามารถเข้าใจได้
"สุนัขเขี้ยวกุดสองตัวน่าจะทำให้เซียวเผิงโปตาสว่างแล้วมั้ง?" เซียวอี้ปล่อยให้ทั้งคู่ยืนนิ่งค้างในสภาพยับเยินสะบักสะบอม เขาหมุนตัวหันหลัง ก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหาเจี๋ยรู่หลง
เจี๋ยรู่หลงเบิกตาโพลงด้วยความสยดสยอง เสมือนว่าเขาเห็นปีศาจร้าย เขาไม่คิดมาก่อนว่าสุดยอดผู้คุ้มกันที่น่าเกรงขามที่สุดแห่งตระกูลเซียวทั้งคู่คนจะถูกตบจนฟันร่วงหมดปาก! แล้วจะให้เจี๋ยรู่หลงไม่หวาดผวาได้อย่างไร?
"คุณชายเจี๋ย พวกเราจะสะสางหนี้กันอย่างไรดี?" เซียวอี้ยืนเบื้องหน้าเจี๋ยรู่หลง พลางถามด้วยรอยยิ้มเย็นดั่งมัจจุราช
"นี่ คือว่า..." ยามมองจมูกและปากของผู้คุ้มกันที่มีเลือดไหลท่วม เจี๋ยรู่หลงก็อวดดีไม่ออกอีก เขากลอกดวงตาหลุกหลิกชั่วร้ายอย่างร้อนรน ใบหน้าขาววอกไร้พิษสงมีเหงื่อเย็นหลั่งริน
เซียวอี้ชายตามองคนขี้ขลาดตาขาว เขาเหยียดยิ้มเย็นชา แล้วเอ่ยว่า "ไม่ต้องรีบร้อน วันนี้ฉันไม่ได้ขับรถมา ขอยืนรถของแกหน่อยแล้วกัน วันหนึ่งที่แกเข้าใจทุกอย่างแล้ว ค่อยไปหาฉันที่หอจี้ซื่อ!"
เซียวอี้เอื้อมมือกระชากกุญแจรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจากกระเป๋าเสื้อเจี๋ยรู่หลง
“แกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ นี่มันรถที่ฉันเพิ่งซื้อมา!” เจี๋ยรู่หลงรีบวิ่งตาลีตาเหลือกราวกับเมียรักของตนกำลังจะตาย รถยนต์คันนี้เขาเพิ่งถอยป้ายแดงมาไม่ถึง 2 สัปดาห์ เปรียบเสมือนเมียรักที่เพิ่งแต่งงานกัน ไม่ก็เหมือนอีหนูคนสวยที่เขาโปรดปราน สำหรับเจี๋ยรู่หลงแล้ว รถยนต์มีคุณค่าทางจิตใจสูงลิบลิ่ว การกระทำของเซียวอี้จึงเปรียบดั่งการบดขยี้หัวใจเจียรู่หลงจนย่อยยับ
“ควับ!” เซียวอี้ตวัดสองนิ้วกดจุดบนหน้าอก และจุดถานจงของจี๋ยรู่หลงอย่างแม่นยำ
"อึก!" เจี๋ยรู่หลงกำลังวิ่งเข้ามา แต่ทันใดนั้นเขาก็ขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้
เซียวอี้พ่นลมหายใจเย็นชา ก่อนเอ่ยกับเจี๋ยรู่หลงว่า "โชคดีและโชคร้ายถือเป็นเรื่องธรรมดา ใช้เวลาของแกให้คุ้มค่า! กินลมชมวิวหนาว ๆ ให้พอใจ แล้วค่อยกลับไปบอกเซียวเผิงโปว่าตอนนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว อย่ามาตอแยฉันอีก"
จากนั้นเซียวอี้จึงหมุนตัวกลับ เขาก้าวขึ้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู พีค 750 และขับจากไปทันที
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน มีบุรุษสามคนที่ดูคล้ายรูปปั้นดินเหนียวในอิริยาบถต่าง ๆ ยืนโง่ ๆ อยู่ที่ริมถนน แสนจะดึงดูดผู้ชมมากมายที่เดินสัญจรไปมา รูปปั้นทั้งสามดูน่าทึ่งและสมจริงมาก หลายคนคาดเดาว่านี่คืองานแสดงศิลปะของหนุ่มไฟแรง ทุกคนจึงถ่ายรูปโพสต์ลงเวย์ปั๋วกันยกใหญ่
เจี๋ยรู่หลงอยากจะร่ำไห้อย่างไร้น้ำตา เขาต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เซียวอี้ขับรถกลับหอจี้ซื่อ เพื่อพบว่าคลินิกปิดแล้ว เขาจึงเคาะประตูอยู่นาน ในที่สุดเสี่ยวเยว่ก็เปิดประตูด้วยร่างอันสั่นเทา
ทันทีที่เธอเห็นเซียวอี้ เสี่ยวเยว่ก็เม้มปากกล่าวว่า "พี่เซียว ทำไมพี่กลับช้าจัง?"
เซียวอี้จ้องมองเสี่ยวเยว่ที่ยืนเบื้องหน้าเขา และพบว่าร่างของเธอสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อตระหนักแล้วว่าเธอหวาดกลัวมากเพียงใดตั้งแต่ช่วงเช้า ความรู้สึกรักใคร่ทะนุถนอมก็พลุ่งพล่านในหัวใจเซียวอี้ เขาเอื้อมมือลูบเรือนผมของเธอ และปลอบโยนเธอด้วยเสียงนุ่มทุ้มชวนฟัง "เสี่ยวเยว่ เป็นความผิดของเซียวอี้เอง พี่กลับมาช้า ทำให้เธอกลัว"
ดวงตาเสี่ยวเยว่กลายเป็นสีแดงก่ำทันทีที่ได้ยินคำพูดอ่อนโยนของเซียวอี้
"เอาล่ะ กลับไปนอนกันเถอะ" เขาประคองเสี่ยวเยว่กลับเข้าไปห้องนอนของเธอ และจัดแจงห่มผ้าหนา ๆ ให้เธอ
ทว่าเสี่ยวเยว่กลับจับมือเซียวอี้แน่นไม่ปล่อย เธอจ้องเซียวอี้ด้วยนัยน์ตาน่าสงสาร
“นอนเถอะ เซียวอี้อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น” เซียวอี้สัมผัสเรือนผมของเธอ แล้วปลอบโยนด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...