ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ นิยาย บท 42

ในภัตตาคาร ชายผู้นั้นหันมองรอบ ๆ จนกระทั่งเขาเห็นเซียวอี้ เขาก็เดินเข้ามาทันที เป็นเฉียนปินที่เซียวอี้พบในห้องคลอดเมื่อเช้านั่นเอง

ชายผู้นี้วางแผนชั่วร้ายเก่งเกินไปแล้ว เขาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และหลบเลี่ยงอันตรายโดยไม่สนใจใยดีชีวิตของผู้อื่น เซียวอี้มีภาพจำต่อเฉียนปินไม่ค่อยดีเท่าไร เขาจึงมองเฉียนปินด้วยสีหน้าเย็นชา

"บังเอิญจังเลยครับหมอเซียว ยินดีที่ได้พบคุณครับ!" เฉียนปินในชุดสูทยื่นมือออกมาทักทายเซียวอี้

เซียวอี้หัวเราะเบา ๆ ก่อนขยับตัวนั่งในอิริยาบถผ่อนคลาย เขาไม่อยากจับมือกับชายตรงหน้า จึงเอ่ยเสียงเบาว่า “เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกครับ บอกผมหน่อย คุณมีธุระอะไรเหรอ?”

หลังได้ยินวาจาของเซียวอี้ เฉียนปินก็อับอายเล็กน้อย เขาชักมือกลับ และหย่อนตัวนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเซียวอี้ เฉียนปินกล่าวว่า "ต้องขอบคุณทักษะการแพทย์อันยอดเยี่ยมของหมอเซียว พวกเราจึงสามารถป้องกันโศกนาฏกรรมได้ถึงสองชีวิต หมอเซียวมีส่วนช่วยเป็นอย่างยิ่ง ผมจึงอยากขอบคุณคุณพร้อมกับซือม่านครับ"

"ฮ่า ๆ แม้พวกเขาจะเสียชีวิตทั้งคู่ ผู้อำนวยการเฉียนก็คงจะรอดพ้นอยู่ดี ผมไม่กล้าน้อมรับคำชมหรอกครับ!" เซียวอี้เหยียดหยาม

เมื่อถูกเซียวอี้แดกดัน ใบหน้าของเฉียนปินก็แดงก่ำ ทว่าเขายังไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่อย่างใด เฉียนปินแอบสูดลมหายใจลึก ก่อนตอบเซียวอี้ด้วยรอยยิ้ม "หมอเซียว คุณล้อเล่นแล้ว เป็นหน้าที่พวกเราที่ต้องช่วยชีวิตและดูแลรักษาผู้ป่วย ใครจะฆ่าพวกเขาลงกัน?"

"จริงเหรอครับ? แต่ช่วงเช้าที่แม่และลูกชายปลอดภัยพ้นขีดอันตราย ผมไม่เห็นผู้อำนวยการเฉียนจะทำหน้าดีใจเลย หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้อำนวยการเฉียนนั้น... อืม ผมขอนับถือจากใจจริงเลยครับ" เซียวอี้แค่นเสียงหึ ก่อนจะตอบโต้กลับ ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าเฉียนปินน่าจะพอให้อภัยได้ แต่วาจาที่เฉียนปินกล่าวเมื่อครู่กลับทำให้เซียวอี้รู้สึกว่าเขาเสแสร้งจอมปลอมเกินไป ทำให้เซียวอี้ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าเขากว่าเดิม

แน่นอนว่าทันทีที่เซียวอี้เอ่ยจบ เฉียนปินก็หน้าขึ้นสีอีกครั้ง เขาฝืนฉีกยิ้มด้วยความอับอาย แต่ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อ และเอ่ยทันที "หมอเซียว ผมว่าคุณดูเด็กมาก ถามได้มั้ยครับว่าคุณทำงานที่ไหน?"

"หอจี้ซื่อที่ถนนเถาซานครับ เป็นแค่คลินิกเอกชนเล็ก ๆ เท่านั้น" เซียวอี้ตอบเสียงเรียบเรื่อย

"โอ้? น่าเสียดายความสามารถของหมอเซียว ถ้าหมอเซียวต้องการ ผมสามารถแนะนำคุณให้ผู้บริหารของโรงพยาบาลเรารู้จักได้นะครับ" ทว่าหลังครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เฉียนปินก็จงใจส่ายหน้า และทอดถอนใจ “แต่ตอนนี้ประเทศของเรามีระบบที่เข้มงวด หากไม่มีพื้นฐานทางการแพทย์ดีเพียงพอ จะให้ทำงานในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็คงยาก ทุกคนที่นี่ล้วนแต่จบการศึกษาสูง การแข่งขันก็ดุเดือดมาก สำหรับผมแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลเครือมหาวิทยาลัยแพทย์หัวเซี่ย และไม่ง่ายกว่าผมจะเป็นผู้อำนายการที่นี่ได้ แต่ค่าตอบแทนค่อนข้างดีทีเดียวครับ”

เฉียนปินปรายตามองเสื้อผ้าราคาถูกของเซียวอี้ แล้วจงใจยกขาไขว่ห้างเพื่อโอ้อวดรองเท้าหนังราคาแพง รวมถึงเจตนาควงกุญแจรถบีเอ็มดับเบิลยู 320 เล่น เฉียนปินดูภาคภูมิใจมากขณะที่เขาโอ้อวดความรวยของตัวเอง

เซียวอี้ลอบพ่นลมหายใจเย็นชา ทว่าเขายังดูสงบสุขุมดังเดิม เมื่อเห็นประตูภัตตาคารเปิดออก และมีแสงไฟสีงามตาสาดส่องเข้ามาข้างใน ซือม่านก็เดินเข้ามาแล้ว เธอยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่าย และกระโปรงสีดำ ทว่าเสื้อเชิ้ตรัดรูปของหยูซือม่านไม่อาจปกปิดทรวงอกอวบอัดของเธอได้ ยามที่เธอก้าวเดิน น่ากังวลใจเหลือเกินว่ากระดุมจะหลุดกระเด็นออกมา หยูซือม่านสวมแว่นตากรอบดำบนใบหน้าขาวผ่อง ทุกอิริยาบถของเธอเต็มไปด้วยความเย้ายวนน่าค้นหา ดึงดูดความสนใจจากบุรุษมากมายในภัตตาคาร

อย่างไรก็ตามหยูซือม่านไม่สังเกตเห็นถึงความสนใจของผู้อื่นเลย เมื่อเธอเห็นเซียวอี้ บนใบหน้าก็คลี่ยิ้มสว่างไสวทันที เธอเดินเข้ามาที่โต๊ะช้า ๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ และเห็นเฉียนปิน หยูซือม่านก็ตกตะลึงทันที เธออุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ "ผู้อำนวยการเฉียน ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่คะ?"

เฉียนปินรีบลุกขึ้นยืนโดยพลัน เมื่อเห็นหยูซือม่านในชุดลำลอง เขาก็ตะลึงในความงาม และรีบตอบด้วยรอยยิ้มว่า "ทั้งซือม่าน และทั้งหมอเซียว ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าภาคนรีเวชวิทยา ถ้าผมไม่มาที่นี่ด้วย ก็คงเสียมายาทมากนะครับ?”

หยูซือม่านตกใจกับคำพูดของเฉียนปินมาก ทว่าภายในชั่วอึดใจเธอก็ตระหนักทันทีว่าเฉียนปินจงใจทำลายการเดทครั้งนี้ของเธอ เขาปรากฏตัวที่นี่โดยไม่ขออนุญาตจากเธอก่อน ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ ทว่าเฉียนปินเป็นผู้บังคับบัญชาของเธอ และยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาคด้วย แม้หยูซือม่านจะไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่อาจระบายความโกรธเกรี้ยวได้ เธอจึงฝืนยิ้ม และขยับเก้าอี้ข้างเซียวอี้ ก่อนจะนั่งข้าง ๆ เขา

"ซือม่าน คุณไปนั่งตรงนั้นได้อย่างไรกัน? เราทั้งคู่เป็นคนเชิญหมอเซียวมานะ คุณต้องนั่งข้างผมสิครับ เข้าใจมั้ย? ฮ่า ๆ!" เฉียนปินพูดติดตลก

หยูซือม่านจะไม่ทราบได้อย่างไรว่าเฉียนปินกำลังคิดสิ่งใดอยู่? เธออดเย้ยหยันในใจไม่ได้ หยูซือม่านเอ่ยอย่างเฉยชาว่า "ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ผู้อำนวยการเฉียน ฉันกับหมอเซียวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน"

จากนั้นเธอก็ไม่สนใจความกระอักกระอ่วนของเฉียนปินอีก เธอเรียกบริกรมาเพื่อส่ังอาหาร และไวน์แดง 1 ขวด

"ซือม่าน เราจะดื่มไวน์ราคาถูกไม่ได้ ฉันขอเลี้ยงค่าอาหารวันนี้เอง เธอจะสั่งไวน์แดงยี่ห้ออะไรก็ได้นะ หมอเซียวเขาไม่ค่อยมีโอกาสมาที่นี่ เอาเมนูให้เขาดูหน่อยเถอะ" เฉียนปินวางเมนูไวน์ลง ท่าทีเขาดูกระตือรือร้นยิ่ง

หยูซือม่านกำลังจะเอ่ยปาก ทว่าเซียวอี้กลับหยุดเธอไว้ เขาไม่ได้ดูเมนูไวน์เลย เพียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ขอบคุณครับผู้อำนวยการเคียน ผมได้ยินมาว่าไวน์แดงลาฟิตในปี 1982 นั้นรสชาติดีเยี่ยมที่สุด ปีนั้นฝรั่งเศสมีแสงแดดเพียงพอ ทำให้องุ่นเติบโตได้ดี ไวน์ที่พวกเขาบ่มจึงมีรสชาติกลมกล่อมเป็นพิเศษ ยากนักที่ผู้อำนวยการเฉียนจะใจกว้างถึงเพียงนี้ ทำไมพวกเราไม่ลองชิมดูสักขวดล่ะครับ?”

"ลา ลาฟิต ปี 1982 เหรอ?" เฉียนปินแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองตายในบัดดล เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซียวอี้ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาถูกจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา ครอบครัวเฉียนปินมีฐานะธรรมดายิ่ง รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320 ที่เขาแสนจะภาคภูมิใจก็เป็นรถมือสองที่ถอยมาในราคาแสนกว่าหยวนเท่านั้น ไวน์ลาฟิต ปี 1982 น่าจะมีราคาอย่างน้อย 20,000 หยวน เฉียนปินจึงนั่งไม่ติดเก้าอี้ในทันที

หยูซือม่านรู้ดีว่าเฉียนปินชอบขุดหลุมฝังตัวเอง ตอนนี้พอเธอเห็นใบหน้าซีด ๆ ของเขา เธอก็อดหัวเราะอยู่ในใจไม่ได้ หยูซือม่านคิดว่าเซียวอี้เป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก

เฉียนปินจะไม่เห็นสีหน้าของหยูซือม่านได้อย่างไรกัน? เขารู้สึกว่าสมองของตนตื้อไปหมด ยามนี้เขารู้สึกสำนึกเสียใจที่ตัวเองโอ้อวดเมื่อกี้ ปากของเขานี่พาซวยจริง ๆ

เซียวอี้แค่นหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยอย่างสบายอารมณ์ "ถ้าหากผู้อำนวยการเฉียนจ่ายไม่ไหว ก็ช่างเถอะครับ ผมแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง"

หยูซือม่านไม่เอ่ยสิ่งใด เธอหมุนแก้วเล่น และเหลือบมองเฉียนปินอย่างไม่แยแส

 "คืนนี้เรามาที่นี่เพื่อหยูซีมานไม่ใช่เรอะ? อยากทำให้ตัวเองขายหน้าเพราะเงินแค่ 20,000 หยวนรึไง? ถ้าอย่างนั้นความพยายามทั้งหมดที่เราทุ่มเทมานานก็ต้องสูญสลายหมดสิ" เฉียนปินแอบชั่งน้ำหนักถึงข้อดีและข้อเสียอยู่ในใจอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็คิดได้ว่าตนเองควรจะทำเช่นไร เขาสูดลมหายใจลึก และฝืนหัวเราะเสียงแหบแห้ง "ฮ่า ๆ ไม่คิดเลยว่าหมอเซียวจะดื่มเก่ง และรู้จักไลน์ลาฟิต ปี 1982 ด้วย เอาล่ะ งั้นวันนี้พวกเรามาดื่มไวน์ลาฟิตกันเถอะครับ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ บริการที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มกว้างจนมุมปากแทบจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว ไวน์ลาฟิตขวดนี้จะเพิ่มรายได้ให้เขาอย่างน้อย 2,000 หยวนเชียวนะ เขาจึงรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า "ได้เลยครับ ก่อนเปิดขวด กรุณาชำระเงิน 38,000 หยวนด้วยครับ ขอบคุณครับ!"

“ส...สามหมื่นแปดพัน?” ร่างกายของเฉียนปินสั่นสะท้านไปหมด นั่นคือเงินเดือนของเขาตั้งหลายเดือนเลยนะ แต่ตอนนี้เขาจะพูดอะไรได้อีก เฉียนปินทำได้เพียงหยิบบัตรเงินสดออกมา แล้วยื่นให้บริกรด้วยนิ้วเย็นเฉียบ เขาเอ่ยอย่างหมดแรงว่า "รูด... รูดบัตรได้เลย!"

"ได้ครับ! กรุณารอสักครู่!" บริกรผู้ลิงโลดดีใจพยายามเก็บอาการตื่นเต้นไว้ เขารับบัตรและเดินจากไปทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่เสี้ยววินาที

"ขอบคุณมากครับผู้อำนวยการเฉียน ได้ยินมานานแล้วว่าผู้อำนวยการเฉียนร่ำรวยมาก หมอเซียว เป็นเพราะคุณแท้ ๆ ฉันเลยพลอยโชคดีไปด้วย" หยูซือม่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เฉียนปินจิตใจยุ่งเหยิงมากในขณะนี้ เขาบอกไม่ถูกว่าหยูซือม่านกำลังชื่นชมเขาจริง ๆ รึเปล่า แต่เมื่อเห็นหยูซือม่านคลี่ยิ้มอย่างอ่อนหวานในขณะนี้ เขาก็รู้สึกประทับใจยิ่ง เมื่อคิดว่าไวน์แดงต้องได้ผลแน่ ๆ เขาจึงปาดเหงื่อเย็นเยียบบนหน้าผากอย่างเงียบงัน แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ซือม่าน อย่าพูดแบบนั้นสิ ผมยินดีเลี้ยงข้าวคุณทุกเมื่อเลย"

เซียวอี้แอบกลอกตาขึ้นฟ้า ในใจคิดว่าเฉียนปินนี่ซื่อบื้อจริง ๆ เขาดูไม่ออกกระทั่งว่าหยูซือม่านกำลังค่อนแคะเขาอยู่

หยูซือม่านไม่ตอบเฉียนปิน เธอเพียงหันมองเซียวอี้ แล้วถามด้วยยิ้ม ๆ "หมอเซียว เดาสิคะว่าก่อนหน้านี้ฉันไปที่ไหนมา?"

"ผมจะรู้ได้อย่างไรกันครับ?" เซียวอี้ยิ้มบาง ทว่าเขาคิดว่าต้องมีบางอย่างเกี่ยวกับชูว่านแน่ หยูซือม่านจึงมีท่าทีคลุมเครือเช่นนี้

แน่นอนว่าหยูซือม่านดันกรอบแว่นขึ้นทันที เธอเลิกคิ้ว แล้วพูดว่า "ฉันเพิ่งกลับมาจากบ้านของชูว่านค่ะ"

ริมฝีปากของเซียวอี้วาดโค้งเป็นรอยยิ้มเจิดจ้า เขาก้มจิบน้ำมะนาวเล็กน้อย “มีอะไรเหรอครับ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

หยูซือม่านฉีกยิ้มอย่างซุกซนชั่วร้าย เธอขยับตัวเข้าใกล้เซียวอี้ แล้วพูดว่า "ชูว่านของเราดูไม่ค่อยมีความสุขนัก! ฉันไม่รู้ว่าใครทำแบบนี้กับเธอ"

“เธอคือเทพีของทุกคน ใครจะกล้าทำอะไรเธอ?” เซียวอี้เอ่ยเสียงเบา ทว่าในใจกลับหวั่นไหว “นางมารตัวน้อยโกรธเขารึ?”

"แต่ว่าทำไมชูว่านถึงทั้งอายทั้งโกรธตอนที่ฉันพูดถึงคุณล่ะคะ? สีหน้าแบบนั้นของชูว่านหาดูได้ยากมากเลยนะคะ" หยูซือม่านจ้องเซียวอี้ ก่อนจะเอ่ยอย่างใคร่รู้

“ฮ่า ๆ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะครับ?” เซียวอี้จ้องหยูซือม่านที่กำลังซุบซิบเรื่องเพื่อนด้วยรอยยิ้ม

เฉียนปินไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ เขาไม่เคยได้ยินชื่อของชูว่านมาก่อน และด้วยภูมิหลังทางสังคมของเขา เขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อคฤหาสน์ไคซวนลำดับ 12 ด้วย เมื่อเฉียนปินเห็นหยูซือม่าน โฉมงามน้ำแข็งผู้มีชื่อเสียงในโรงพยาบาลดูสดใสร่าเริงมากต่อหน้าเซียวอี้ เฉียนปินก็รู้สึกอิจฉาริษยา

เวลานี้บริกรได้นำไวน์ลาฟิตซึ่งประเมินค่ามิได้มารินเสิร์ฟพวกเขา

ทว่าหยูซือม่านกลับทำตัวราวกับเธอไม่เห็นไวน์อันล้ำค่าในสายตา เธอเอาแต่ถามเซียวอี้ว่าทำไมเทพีชูว่านถึงโกรธเขานัก เซียวอี้เพียงแย้มยิ้ม เขาจะเล่าเรื่องความลับระหว่างเขากับชูว่านให้ผู้อื่นฟังได้อย่างไรกัน?

พวกเขาทั้งคู่เมินเฉยต่อไวน์ลาฟิต ปี 1982 อย่างสิ้นเชิง ทำให้เฉียนปินเจ็บปวดใจอย่างยาวนาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ