ในภัตตาคาร ชายผู้นั้นหันมองรอบ ๆ จนกระทั่งเขาเห็นเซียวอี้ เขาก็เดินเข้ามาทันที เป็นเฉียนปินที่เซียวอี้พบในห้องคลอดเมื่อเช้านั่นเอง
ชายผู้นี้วางแผนชั่วร้ายเก่งเกินไปแล้ว เขาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และหลบเลี่ยงอันตรายโดยไม่สนใจใยดีชีวิตของผู้อื่น เซียวอี้มีภาพจำต่อเฉียนปินไม่ค่อยดีเท่าไร เขาจึงมองเฉียนปินด้วยสีหน้าเย็นชา
"บังเอิญจังเลยครับหมอเซียว ยินดีที่ได้พบคุณครับ!" เฉียนปินในชุดสูทยื่นมือออกมาทักทายเซียวอี้
เซียวอี้หัวเราะเบา ๆ ก่อนขยับตัวนั่งในอิริยาบถผ่อนคลาย เขาไม่อยากจับมือกับชายตรงหน้า จึงเอ่ยเสียงเบาว่า “เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกครับ บอกผมหน่อย คุณมีธุระอะไรเหรอ?”
หลังได้ยินวาจาของเซียวอี้ เฉียนปินก็อับอายเล็กน้อย เขาชักมือกลับ และหย่อนตัวนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเซียวอี้ เฉียนปินกล่าวว่า "ต้องขอบคุณทักษะการแพทย์อันยอดเยี่ยมของหมอเซียว พวกเราจึงสามารถป้องกันโศกนาฏกรรมได้ถึงสองชีวิต หมอเซียวมีส่วนช่วยเป็นอย่างยิ่ง ผมจึงอยากขอบคุณคุณพร้อมกับซือม่านครับ"
"ฮ่า ๆ แม้พวกเขาจะเสียชีวิตทั้งคู่ ผู้อำนวยการเฉียนก็คงจะรอดพ้นอยู่ดี ผมไม่กล้าน้อมรับคำชมหรอกครับ!" เซียวอี้เหยียดหยาม
เมื่อถูกเซียวอี้แดกดัน ใบหน้าของเฉียนปินก็แดงก่ำ ทว่าเขายังไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่อย่างใด เฉียนปินแอบสูดลมหายใจลึก ก่อนตอบเซียวอี้ด้วยรอยยิ้ม "หมอเซียว คุณล้อเล่นแล้ว เป็นหน้าที่พวกเราที่ต้องช่วยชีวิตและดูแลรักษาผู้ป่วย ใครจะฆ่าพวกเขาลงกัน?"
"จริงเหรอครับ? แต่ช่วงเช้าที่แม่และลูกชายปลอดภัยพ้นขีดอันตราย ผมไม่เห็นผู้อำนวยการเฉียนจะทำหน้าดีใจเลย หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้อำนวยการเฉียนนั้น... อืม ผมขอนับถือจากใจจริงเลยครับ" เซียวอี้แค่นเสียงหึ ก่อนจะตอบโต้กลับ ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าเฉียนปินน่าจะพอให้อภัยได้ แต่วาจาที่เฉียนปินกล่าวเมื่อครู่กลับทำให้เซียวอี้รู้สึกว่าเขาเสแสร้งจอมปลอมเกินไป ทำให้เซียวอี้ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าเขากว่าเดิม
แน่นอนว่าทันทีที่เซียวอี้เอ่ยจบ เฉียนปินก็หน้าขึ้นสีอีกครั้ง เขาฝืนฉีกยิ้มด้วยความอับอาย แต่ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อ และเอ่ยทันที "หมอเซียว ผมว่าคุณดูเด็กมาก ถามได้มั้ยครับว่าคุณทำงานที่ไหน?"
"หอจี้ซื่อที่ถนนเถาซานครับ เป็นแค่คลินิกเอกชนเล็ก ๆ เท่านั้น" เซียวอี้ตอบเสียงเรียบเรื่อย
"โอ้? น่าเสียดายความสามารถของหมอเซียว ถ้าหมอเซียวต้องการ ผมสามารถแนะนำคุณให้ผู้บริหารของโรงพยาบาลเรารู้จักได้นะครับ" ทว่าหลังครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เฉียนปินก็จงใจส่ายหน้า และทอดถอนใจ “แต่ตอนนี้ประเทศของเรามีระบบที่เข้มงวด หากไม่มีพื้นฐานทางการแพทย์ดีเพียงพอ จะให้ทำงานในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็คงยาก ทุกคนที่นี่ล้วนแต่จบการศึกษาสูง การแข่งขันก็ดุเดือดมาก สำหรับผมแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลเครือมหาวิทยาลัยแพทย์หัวเซี่ย และไม่ง่ายกว่าผมจะเป็นผู้อำนายการที่นี่ได้ แต่ค่าตอบแทนค่อนข้างดีทีเดียวครับ”
เฉียนปินปรายตามองเสื้อผ้าราคาถูกของเซียวอี้ แล้วจงใจยกขาไขว่ห้างเพื่อโอ้อวดรองเท้าหนังราคาแพง รวมถึงเจตนาควงกุญแจรถบีเอ็มดับเบิลยู 320 เล่น เฉียนปินดูภาคภูมิใจมากขณะที่เขาโอ้อวดความรวยของตัวเอง
เซียวอี้ลอบพ่นลมหายใจเย็นชา ทว่าเขายังดูสงบสุขุมดังเดิม เมื่อเห็นประตูภัตตาคารเปิดออก และมีแสงไฟสีงามตาสาดส่องเข้ามาข้างใน ซือม่านก็เดินเข้ามาแล้ว เธอยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่าย และกระโปรงสีดำ ทว่าเสื้อเชิ้ตรัดรูปของหยูซือม่านไม่อาจปกปิดทรวงอกอวบอัดของเธอได้ ยามที่เธอก้าวเดิน น่ากังวลใจเหลือเกินว่ากระดุมจะหลุดกระเด็นออกมา หยูซือม่านสวมแว่นตากรอบดำบนใบหน้าขาวผ่อง ทุกอิริยาบถของเธอเต็มไปด้วยความเย้ายวนน่าค้นหา ดึงดูดความสนใจจากบุรุษมากมายในภัตตาคาร
อย่างไรก็ตามหยูซือม่านไม่สังเกตเห็นถึงความสนใจของผู้อื่นเลย เมื่อเธอเห็นเซียวอี้ บนใบหน้าก็คลี่ยิ้มสว่างไสวทันที เธอเดินเข้ามาที่โต๊ะช้า ๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ และเห็นเฉียนปิน หยูซือม่านก็ตกตะลึงทันที เธออุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ "ผู้อำนวยการเฉียน ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่คะ?"
เฉียนปินรีบลุกขึ้นยืนโดยพลัน เมื่อเห็นหยูซือม่านในชุดลำลอง เขาก็ตะลึงในความงาม และรีบตอบด้วยรอยยิ้มว่า "ทั้งซือม่าน และทั้งหมอเซียว ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าภาคนรีเวชวิทยา ถ้าผมไม่มาที่นี่ด้วย ก็คงเสียมายาทมากนะครับ?”
หยูซือม่านตกใจกับคำพูดของเฉียนปินมาก ทว่าภายในชั่วอึดใจเธอก็ตระหนักทันทีว่าเฉียนปินจงใจทำลายการเดทครั้งนี้ของเธอ เขาปรากฏตัวที่นี่โดยไม่ขออนุญาตจากเธอก่อน ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ ทว่าเฉียนปินเป็นผู้บังคับบัญชาของเธอ และยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาคด้วย แม้หยูซือม่านจะไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่อาจระบายความโกรธเกรี้ยวได้ เธอจึงฝืนยิ้ม และขยับเก้าอี้ข้างเซียวอี้ ก่อนจะนั่งข้าง ๆ เขา
"ซือม่าน คุณไปนั่งตรงนั้นได้อย่างไรกัน? เราทั้งคู่เป็นคนเชิญหมอเซียวมานะ คุณต้องนั่งข้างผมสิครับ เข้าใจมั้ย? ฮ่า ๆ!" เฉียนปินพูดติดตลก
หยูซือม่านจะไม่ทราบได้อย่างไรว่าเฉียนปินกำลังคิดสิ่งใดอยู่? เธออดเย้ยหยันในใจไม่ได้ หยูซือม่านเอ่ยอย่างเฉยชาว่า "ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ผู้อำนวยการเฉียน ฉันกับหมอเซียวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน"
จากนั้นเธอก็ไม่สนใจความกระอักกระอ่วนของเฉียนปินอีก เธอเรียกบริกรมาเพื่อส่ังอาหาร และไวน์แดง 1 ขวด
"ซือม่าน เราจะดื่มไวน์ราคาถูกไม่ได้ ฉันขอเลี้ยงค่าอาหารวันนี้เอง เธอจะสั่งไวน์แดงยี่ห้ออะไรก็ได้นะ หมอเซียวเขาไม่ค่อยมีโอกาสมาที่นี่ เอาเมนูให้เขาดูหน่อยเถอะ" เฉียนปินวางเมนูไวน์ลง ท่าทีเขาดูกระตือรือร้นยิ่ง
หยูซือม่านกำลังจะเอ่ยปาก ทว่าเซียวอี้กลับหยุดเธอไว้ เขาไม่ได้ดูเมนูไวน์เลย เพียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ขอบคุณครับผู้อำนวยการเคียน ผมได้ยินมาว่าไวน์แดงลาฟิตในปี 1982 นั้นรสชาติดีเยี่ยมที่สุด ปีนั้นฝรั่งเศสมีแสงแดดเพียงพอ ทำให้องุ่นเติบโตได้ดี ไวน์ที่พวกเขาบ่มจึงมีรสชาติกลมกล่อมเป็นพิเศษ ยากนักที่ผู้อำนวยการเฉียนจะใจกว้างถึงเพียงนี้ ทำไมพวกเราไม่ลองชิมดูสักขวดล่ะครับ?”
"ลา ลาฟิต ปี 1982 เหรอ?" เฉียนปินแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองตายในบัดดล เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซียวอี้ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาถูกจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา ครอบครัวเฉียนปินมีฐานะธรรมดายิ่ง รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320 ที่เขาแสนจะภาคภูมิใจก็เป็นรถมือสองที่ถอยมาในราคาแสนกว่าหยวนเท่านั้น ไวน์ลาฟิต ปี 1982 น่าจะมีราคาอย่างน้อย 20,000 หยวน เฉียนปินจึงนั่งไม่ติดเก้าอี้ในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...