เจียงเยว่ถงไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตนเองเดินออกจากวิลล่าตระกูลเจียงได้อย่างไร เหมือนวิญญาณล่องลอยไร้สติ
ฝันของเธอสลายไปหมดแล้ว!
แต่ว่า บริษัทฉีแยเป็นของปู่เธอที่มอบให้กับพ่อของเธอ ต่อมาเธอกลับจากต่างประเทศ พ่อก็มอบบริษัทให้เธอดูแล
เจียงเยว่ถงรู้สึกว่าตัวเองแย่ไปหมด ไม่ค่อยมีสติ สายตาเหม่อลอย ไม่รู้ว่าตนเองควรจะไปที่ไหน
โดยเฉพาะตอนนี้ เนื่องจากว่าได้ร่วมลงทุนกับว่านเซียง มูวี พนักงานทุกคนในบริษัทฉีแยก็กำลังกระตือรือร้นกับงานที่ได้ ตอนนี้ตนเองกลับจะไปประกาศว่าจะขายบริษัททิ้ง......
เจียงเยว่ถงหายใจเข้าลึก แล้วก็เดินโซเซเข้ารถไป
……
หลังจากประชุมระดับสูงไปหนึ่งหนึ่งชั่วโมง ฉินเฟยก็เหนื่อยมาก พอออกจากว่านเซียง มูวีก็ขี่รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้ามุ่งหน้ากลับไปยังตลาดของโบราณ
เขาเพิ่งได้ข่าวมา ว่าเซียววี่ซ่อมแจกันหิมะเสร็จแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันเกิดของคุณย่าเจียงพอดี ได้เวลาเหมาะเจาะพอดี
พอขี่รถมาถึงกู่ยิ่นถัง จางผิงหัวโล้นก็กำลังชี้นิ้วสั่งให้พนักงานมาเช็ดกระจกร้าน พอเห็นว่าฉินเฟยเข้ามา ก็ยิ้มพูดว่า “อ้าว น้องฉิน”
หลายวันนี้ฉินเฟยมาบ่อยมาก จางผิงก็สังเกตเห็นแล้ว ฟังจากน้ำเสียงของคุณผู้หญิงที่พูดจากับฉินเฟยอย่างเคารพ เขาก็เลยต้อนรับเป็นอย่างดี
“ครับ พี่จาง” ฉินเฟยตอบรับ
“คุณผู้หญิงรออยู่ที่ด้านหลังแล้วครับ แต่ว่าระวังหน่อย ผมรู้สึกว่าคุณผู้หญิงจะอารมณ์ไม่ดี”
ฉินเฟยอึ้ง อารมณ์ไม่ค่อยดีอย่างนั้นหรือ?
ประจำเดือนมาหรือไง?
ฉินเฟยเดินเข้าไปด้านหลังอย่างสงสัย เซียววี่ก็กำลังนั่งรออยู่ตรงนั้น
วันนี้เธอสวมกระโปรงยาว ลายต้นไผ่ เรียบง่ายสวยหรู ดูเป็นผู้ดี แถมยังยืนตัวตรงสง่างาม ทำให้คนต้องมองหลายๆ ครั้ง
และที่ข้างมือของเธอ ก็คือแจกันหิมะ
“คุณเซียว รอนานไหมครับ?” ฉินเฟยเดินไปพูดไป
“โชคดีที่สำเร็จลุล่วงไม่ทำให้คุณผิดหวัง” เซียววี่เห็นฉินเฟยเดินเข้ามา ก็ยิ้มเบาๆ มือน้อยๆ ของเธอก็หยิบแจกันหิมะขึ้นออกมาอย่างระวัง
“ให้ผมดูหน่อย” ฉินเฟยยืนมือไปอย่างดีใจ เซียววี่ก็ยืนให้อย่างเสียดาย
ฉินเฟยก็ตรวจดูตรงรอยซ่อมแซม แล้วก็พยักหน้า พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เซียววี่ “สุดยอดมาก!”
“คุณคงจะใช้เวลาและแรงไปไม่น้อย ราคาคุณว่ามาเลย” ฉินเฟยมองซ้ายมองขวาก็พอใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าอย่างไรเสียก็เคยถูกซ่อมแซมมาแล้ว มองดูดีๆ ก็เห็นได้
แต่สามารถซ่อมได้ขนาดนี้ ช่างซ่อมเครื่องปั้นดินเผาในเมืองซงไห่ยังทำไม่ได้ขนาดนี้
การซ่อมเครื่องปั้นดินเผาเป็นงานฝีมือเฉพาะ ไม่ใช่เอากาวร้อนมาติดง่ายๆ แล้วเสร็จ มันต้องคิดค่าแรง และแพงมากด้วย
“เรื่องราคาช่างเถอะ ตอนนั้นฉันจะช่วยเอง และฉันก็ชอบแจกันหิมะนี้มากด้วย ฉันไม่คิดเงินก็แล้วกัน” เซียววี่พูดเบาๆ
ฉินเฟยก็อึ้ง แล้วมองเซียววี่ด้วยสายตาแปลกๆ “คุณเหมือนจะพูดเป็นนัย...”
“หมายความว่าอย่างไร?” เซี่ยววี่เงยหน้าขึ้น ใบหน้ารูปไข่ของเธอมีความแปลกใจ
ฉินเฟยยิ้มยิงฟัน สายตาก็มองดูเซียววี่ “คุณเซียวจิตใจงดงาม เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่พูดจาอ้อมค้อมเหมือนจะไม่ใช่นิสัยของคุณ”
ฉินเฟยพูดเยินยอได้น่าฟัง แต่กลับทำให้เซียววี่หน้าแดงทำตัวไม่ถูก โดยเฉพาะสายตาที่เฉินเฟยมองดูเธอ เหมือนกับถูกมองทุกซอกทุกมุมไปแล้ว ทนกับสายตาของเขาไม่ไหว เลยพูดไปว่า “แจกันหิมะนี้ คุณจะเอาไปให้คุณย่าเจียงใช่ไหม?”
“ผมคิดไว้อย่างนั้น”
“ครั้งนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าเจียง แต่ว่าแจกันหิมะมีรอยร้าว มันไม่ค่อยเป็นมงคล คุณว่าไหมล่ะ?” เซียววี่กล่าว
ฉินเฟยก็นิ่ง แล้วก็เข้าใจความหมายของเซียววี่ขึ้นมาทันที จากนั้นก็พยายามยิ้มพูดไปว่า “ผมรู้สึกว่าคุณน่าจะอยากได้แจกันหิมะนี้นะ”
“ห้ะ?” เซียววี่ส่งเสียงตกใจออกมา เห็นใบหน้าที่พูดอมยิ้มของฉินเฟย ใบหน้ารูปไข่ของเธอก็แดงก่ำอีกครั้ง เธอรู้ว่าความคิดของตนเองถูกฉินเฟยมองออกหมดแล้ว
เซียววี่กัดปากพูดว่า “คุณพูดถูกต้อง แต่ว่าปัญญาชนไม่แย่งของชอบใคร ช่วงเวลาที่ฉันซ่อมมัน ก็ได้ชอบมันมาก คุณคิดว่าให้ฉันเอาสิ่งของที่มีราคาพอๆ กันแลกได้ไหม?”
พูดจบ เซียววี่ก็เงยหน้ามองฉินเฟย ดวงตาสวยๆ ทั้งสองข้างก็ไม่อยากจะละไปจากแจกันหิมะแม้แต่น้อย
“คุณเป็นปัญญาชนงั้นหรือ?”
“ห้ะ?” สายตาที่มีความหวังของเซียววี่ถูกฉันเฟยพูดใส่เสียจนมึนงงไปเลย ตั้งสติกลับมาไม่ทัน
“คุณเซียวพูดจาเป็นปรัชญามาก แจกันหิมะเป็นของชอบของคุณ คุณพูดเตือนผม ว่าถ้าผมเป็นปัญญาชน ก็จะไม่แย่งของชอบของคุณ ถ้าผมไม่แลกกับคุณ ผมก็เป็นคนเลว” ฉินเฟยพูดอย่างทำอะไรไม่ได้
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เซียววี่ส่ายหัวปฏิเสธ มุมปากก็อมยิ้ม ถามกลับไปว่า “แล้วคุณเป็นปัญญาชนหรือเปล่าล่ะ?”
“ผมไม่ใช่ปัญญาชน แต่ว่าผมสามารถแกล้งเป็นปัญญาชนสักครั้งได้” ฉินเฟยมีสีหน้ายอมจำนน นั่งพูดอยู่บนเก้าอี้ไม้ว่า “คุณจะเอาอะไรมาแลกกับสมบัติของผม?”
ดวงตาใสๆ ของเซียววี่ก็เป็นประกายขึ้นมาทันที หันตัวไปทางตู้ไม้ข้างๆ แล้วนั่งลงค้นหา กระโปรงเปิดออกจนเผยให้เห็นขาขาวๆ ครึ่งขา น่ามองอย่างมาก
เห็นๆ อยู่ว่าเซียววี่เตรียมการไว้แล้ว ไม่นานก็หาจนเจอ พร้อมกับลุกขึ้น ในมือก็ถือกล่องไม้ลวดลายหงส์ กล่องดูเก่ามาก แล้วก็ยื่นให้กับฉินเฟยอย่างเสียดายเหมือนกัน
ฉินเฟยรับมาอย่างระวัง ค่อยๆ เปิดกล่องออก ด้านในเป็นแหวนหยกนิ้วหัวแม่มือสีเหลืองอ่อน อยู่ในถุงทำจากเส้นด้ายทองคำ
“นี่คือ?” ฉินเฟยมองดูอย่างละเอียด
“ไหนลองว่าราคาของแหวนหยกนิ้วหัวแม่มือนี้มาซิ” เซียววี่ก็อารมณ์ไม่ดีราวกับประจำเดือนมา กวาดมองโดยรอบ แล้วก็เม้มปากมองดูฝีมือการตีราคาของฉินเฟย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)