โจวแยเวยที่อยู่ตรงหน้ามีสถานะโสด เรียกได้ว่าเป็นสาวไฮโซทีเดียว
เมื่อหกปีก่อนโจวแยเวยหลังจากแต่งงานกับซุนเย่าเหวิน ก็ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่เขา
ไก่เลยกลายเป็นหงส์ พ่อแม่ของเธอย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ที่ซุนเย่าเหวินซื้อให้ในซงไห่ น้องชายก็ยังได้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทที่อยู่ใต้ชายคาของตระกูลซุน อาจกล่าวได้ว่าเมื่อบุคคลหนึ่งบรรลุธรรม หมูหมากาไก่ก็พลอยได้ขึ้นสวรรค์ไปด้วย
เธอไม่เพียงแต่รู้จักเจียงเยว่ถงเท่านั้น แต่ยังรู้จักดีเสียด้วย!
แต่ไม่ใช่มิตรภาพที่ดีเท่าไรนัก
เริ่มจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว เป็นปีแรกที่เจียงเยว่ถงเข้ามารับช่วงต่อบริหารบริษัทบริษัทฉีแย
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจียงเยว่ถงมีอายุเพียง 24 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิง เธอเพิ่งเข้าสู่สังคมได้ไม่นาน อาจกล่าวได้ว่าเป็นสาวสวยบริสุทธิ์งดงาม บวกกับการที่มีรัศมีของตระกูลเจียงค้ำอยู่เหนือหัว มีอัจฉริยะหนุ่มนับไม่ถ้วนคอยไล่ตามจีบเธอ!
โจวแยเวยที่กลายเป็น ‘หงส์’ พรางตัวแนะนำน้องชายของเธอให้รู้จักกับเจียงเยว่ถง ขณะเดียวกัน ก็หวังว่าจะครอบงำซุนเย่าเหวินด้วยเรื่องในมุ้ง ให้ตระกูลซุนให้การสนับสนุนบริษัทฉีแยมากๆ
น่าเสียดายที่เจียงเยว่ถงไม่ตอบตกลง!
หรือพูดได้ว่า ไม่สนใจเธอเลย!
เจียงเยว่ถงอุปนิสัยเย็นชาและสง่างาม เธอเป็นคนแบบนี้ รู้ดีว่าน้องชายของโจวแยเวยเป็นคนแบบไหน!
ในเวลานั้นเจียงเยว่ถงเพิ่งเข้าครอบครองบริษัท และบริษัทฉีแยเป็นเพียงบริษัท เล็กๆ เท่านั้น หากต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก็ต้องการการลงทุนและความร่วมมืออย่างเร่งด่วนจากบริษัทและตระกูลขนาดใหญ่หลายแห่ง
เจียงเยว่ถง มีพรสวรรค์ด้านการค้ามาก แต่ก็มีกลุ่มธุรกิจระดับสูงมากมายในซงไห่ ประธานของกลุ่มเหล่านี้จะไม่เก่งเรื่องการค้าได้อย่างไร? นอกจากนี้บริษัทขนาดเล็กอย่างบริษัทฉีแย หากไม่มีเงินทุนมหาศาลก็ไม่สามารถคว้าทรัพยากรที่ดีได้
และตระกูลเจียงก็ไม่ได้ให้ทรัพยากรกับเจียงเยว่ถงมากนัก
ดังนั้นในสายตาของโจวแยเวย เจียงเยว่ถงเป็นเพียงลูกสาวของตระกูลชั้นสองเท่านั้น ในขณะที่ตระกูลซุนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยมหาศาล การที่ตนแนะนำน้องชายให้เธอรู้จักถือเป็นการให้เกียรติเธอแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายภรรยาของท่านสองซุนเย่าเหวิน หากได้เกี่ยวดองกับตระกูลซุน เจียงเยว่ถงอาจจะยิ้มฝันหวานก็ได้
แต่จะทำอย่างไรเธอก็ไม่สนใจเขา!
ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งเดือนต่อมา ข่าวการแต่งงานของเจียงเยว่ถงก็แพร่มาจากซงไห่ ว่ากันว่าเธอแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนจากชนบท มาเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงของตระกูลเจียง!
เมื่อโจวแยเวยรู้เรื่องนี้ เธอก็ยิ่งโกรธ น้องชายของเธอยังสู้เด็กยากจนคนเดียวไม่ได้เหรอ?
หลังจากนั้นทุกครั้งที่โจวแยเวยเห็นเจียงเยว่ถง เธอก็ไม่มีความสุขเลย เธอบอกกับคนอื่นว่าเจียงเยว่ถงเป็นคนที่สวยแต่ทำอะไรไม่เป็นที่มาสืบทอดกิจการของพ่อเท่านั้น
แต่เธอสวยสู้เจียงเยว่ถงไม่ได้
พื้นเพครอบครัวและความรู้ก็สู้เจียงเยว่ถงไม่ได้
ส่วนเรื่องอุปนิสัย ยิ่งเทียบไม่ได้เลย!
ผู้หญิงนั้นขี้อิจฉา โจวแยเวยเป็นผู้หญิงที่รักษาหน้าตา ชอบอาจเอื้อมเปรียบเทียบกับสิ่งที่อยู่สูงกว่า โดยเฉพาะหลังจากที่เธอแต่งงานกับซุนเย่าเหวินแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้ ว่าเธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี
ตระกูลมหาเศรษฐี!
ตระกูลมหาเศรษฐี!
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเจียงเยว่ถง เธอมักจะรู้สึกต้อยต่ำกว่า ดังนั้นขอเพียงเธอได้เห็นเจียงเยว่ถง เธอก็จะเริ่มเข้าไปพูดก่อน แต่มันไม่ใช่คำพูดที่ดีอย่างแน่นอน
“ที่แท้ก็คุณนายซุนนี่เอง” เจียงเยว่ถงขมวดคิ้วเล็กน้อยและตอบอย่างเฉยเมย แต่ในใจก็อดรู้สึกประหม่าไม่ได้ เธอมองไปรอบๆ
ไม่เห็นแม้เงาของซุนเย่าเหวิน
“ใช่แล้ว ฉันเอง!” โจวแยเวยเอามือกอดอก ท่าทีเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “ได้ยินมาว่าตระกูลเจียงกำลังจะถึงจุดจบแล้วเหรอ? จุ๊ๆ คุณหนูไม่เพียงแต่เป็นลูกสาวของตระกูลเจียงเท่านั้น แต่ยังเป็นประธานของบริษัทฉีแยด้วยเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า...” โจวแยเวยหัวเราะคิกคักและสั่นสะท้านไปทั้งตัว เครื่องสำอางหนาเตอะบนใบหน้าของเธอกำลังจะหลุดออกไป เธอโผล่หัวออกมาเบาๆ ชำเลืองมองไปที่เจียงเยว่ถงอย่างดูถูก “งั้นคุณรู้ไหมว่า ตอนนี้บริษัทฉีแยอยู่ในมือใคร?”
ว่าแล้วโจวแยเวยก็ดีดนิ้วเล่น สีหน้าดูพึงพอใจ
เจียงเยว่ถงไม่อยากพูดคุยกับผู้หญิงที่น่าเบื่อคนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตระกูลเจียงและตระกูลซุนทะเลาะกันมาถึงทางตันแล้ว และที่นี่คือดินแดนของตระกูลซุน เธอยังคงมีความพะว้าพะวังอยู่ในใจ
แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่โจวแยเวยพูด ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เป็นความจริงที่ว่าตระกูลซุนได้ซื้อบริษัทฉีแยมาก่อน ในเวลานี้เมื่อเห็นโจวแยเวยดูภาคภูมิใจมาก เธอก็เดาได้ว่าบริษัทฉีแยมาอยู่ในมือของเธอแล้ว!
สิ่งนี้ทำให้เจียงเยว่ถงรู้สึกหดหู่ บริษัทฉีแยได้เผาผลาญแรงกายแรงใจของเธออย่างมาก เดิมทียังคิดว่าต่อให้ถูกเจียงเฉิงเย่ขายไปแล้ว ก็ยังสามารถหาเจ้าของที่ดีได้ แต่ไม่คาดคิดว่าคนที่มารับช่วงต่อจะเป็นผู้หญิงอย่างโจวแยเวย
ใต้โต๊ะ ฉินเฟยยื่นมือไปจับมือของเจียงเยว่ถงไว้เบาๆ เพื่อบอกเป็นนัยว่าอย่าโกรธ
เจียงเยว่ถงเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ แต่ฉินเฟยยังคงจับจ้องไปที่โจวแยเวยที่มีท่าทีหยิ่งยโสตรงหน้าตลอดเวลา
ฉินเฟยอดรู้สึกขอบคุณในใจไม่ได้
ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะโชคดี
แกะอ้วนมาแล้ว!
ไม่ใช่!
พูดให้ถูก ต้องเป็นคนเลี้ยงแกะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)