ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) นิยาย บท 74

สรุปบท บทที่ 74 คุณเป็นใครกันแน่!: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)

ตอน บทที่ 74 คุณเป็นใครกันแน่! จาก ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 74 คุณเป็นใครกันแน่! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) ที่เขียนโดย Anonymous เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อเห็นใบหน้าของเจียงเยว่ถงที่แดงก่ำ มันไม่ง่ายที่เขาจะเห็นด้านที่น่ารักของเธอแบบนี้

“นายอยากทำร้ายฉัน อยากเห็นฉันเป็นตัวตลกสินะ!”เจียงเยว่ถงโกรธมาก เธอลุกขึ้นยืน แล้วหยุดกินข้าวไปเลย กลับห้องนอนของเธอทันทีโดยไม่รีรอ พลันปิดประตูดัง‘ปั้ง’อย่างแรง

เอ่อ……

คงไม่ได้โกรธจริงๆใช่ไหม?ฉินเฟยรู้สึกถูกปรักปรำ แค่ตัวเองกลั้นขำไม่อยู่เนี่ยนะ?

เมื่อเห็นเจียงเยว่ถงกินข้าวไปครึ่งหนึ่ง ฉินเฟยก็รู้สึกเสียใจ ความจริงแล้วเขารู้สึกว่าซุปปลาเผ็ดร้อน จึงกระดกไวน์ไปหลายอึก แต่เดิมทีเขาอยากจะเตือนเจียงเยว่ถงว่าระวังจะเผ็ดเอา แต่เจียงเยว่ถงเคลื่อนไหวเร็วมาก ไม่มีโอกาสให้เขาได้เอ่ยปาก

เป็นเรื่องยากที่จะได้ทานมื้อค่ำที่หรูหรากับเจียงเยว่ถง เห้อ ฉินเฟยถอนหายใจ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ผิดอะไร

“ช่างเถอะ ไม่กินฉันกินเองก็ได้”จากปริมาณอาหารของเขาแล้ว ตอนนี้ยังพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น เขายื่นมือถือชามข้าวที่เจียวเยว่ถงกินเหลือขึ้นมา แล้วเริ่มจ้วงคำใหญ่เข้าปาก

ใครจะไปรู้ว่า เขากำลังจะคีบมั่นฝรั่งเข้าปากไป จู่ๆประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกดัง‘ปั้ง’เจียงเยว่ถงที่เปลี่ยนเป็นกระโปรงชุดนอนก็เดินออกมา กำลังเห็นฉินเฟยหยิบข้าวของเธอกินอย่างเอร็ดอร่อย จึงทำให้เธอรู้สึกอดหงุดหงิดไม่ได้“ฉินเฟย นายทำอะไรน่ะ ทั้งๆที่ข้าวของคุณก็ยังกินไม่หมด ทำไมต้องมากินของฉันด้วยห้ะ?”

“ผม……”ฉินเฟยกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยากร้องไห้ มองเห็นเจียงเยว่ถงเดินมาข้างหน้า แล้วพูดในใจว่าแม่เจ้าโว้ยตกลงเธอคิดจะทำอะไรกันแน่“คุณไม่กินไม่ใช่หรอ?”

“ฉันบอกรึไงว่าฉันไม่กินน่ะ?”เจียงเยว่ถงรู้สึกฉุนกึก

“ผม คุณ……”ฉินเฟยถึงกับพูดไม่ออก

“หึ!” เจียงเยว่ถงหันกลับไปยังห้องครัว แล้วทำเสียงหึอย่างรังเกียจ ผ่านไปไม่นานถือถ้วยตักข้าวของตัวเองออกมาด้วย จากนั้นก็นั่งตรงข้ามกันกับฉินเฟยอย่างสง่างาม ค่อยๆนั่งตักข้าวเข้าปากคำเล็กๆ

เมื่อสักครู่เธอสำลักไม่ระวังทำเสื้อผ้าของตัวเองหกเลอะเทอะ ดังนั้นเจียงเยว่ถงผู้ที่รักความสวยงามตลอดจึงไปเปลี่ยนชุดนอนมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพอออกมาจะเห็นฉากที่ฉินเฟยคว้าชามข้าวของตัวเองไปกิน เพียงเพราะไอ้สารเลวนี่จงใจทำให้เธอโกรธ เธอจึงรู้สึกรังเกียจฉินเฟยมากยิ่งขึ้น

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษสำหรับพวกเขาสองคนก็เสร็จสิ้น เจียงเยว่ถงก็วางตะเกียบ และชำเลืองมองฉินเฟยที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะน้ำชา ยืนขึ้นอย่างลังเลเก็บชามและตะเกียบแล้วเดินเข้าไปในครัว

ฉินเฟยหรี่ตาลง นี่สิถึงจะถูก แบบนี้ถึงจะเหมือนผู้หญิงจริงๆ ฉินเฟยมองไปที่แผ่นหลังของเจียงเยว่ถงแล้วพูดพึมพำ แต่ในตอนที่เขากำลังหันหลัง ในห้องครัวก็มีเสียงลอดออก“พริ้งเพร้ง——โอ้ย!!”ยังตามมาด้วยเสียงของร้องตกใจของเจียงเยว่ถง

“เป็นอะไรอีกเนี่ย?”ฉินเฟยรู้สึกว่าหัวใจของเขาสั่นเมื่อเขาได้ยิน และรีบไปที่ประตูห้องครัว เขาอดไม่ได้ที่จะตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเขา

ไม่รู้ว่ามีจานและชามกี่ใบที่แตกเป็นชิ้นนับไม่ถ้วนบนพื้น เต็มพื้นไปหมด เจียงเยว่ถงภรรยาคนสวยของเขากำลังนั่งอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยจานชามที่แตกกองบนพื้นอย่างน่าสงสาร ใช้แรงปิดกุมเข่าของตัวเองไว้ น้ำตาไหล ‘พราก’ลงมาไม่หยุด……

เมื่อฉินเฟยได้ยินเสียงนี้ เจียงเยว่ถงก็เงยหน้าขึ้นมาจากท่ามกลางจานชามที่แตกกระจัดกระจาย ด้วยตบหน้าเปื้อนน้ำตา“ฉินเฟย ฉัน……”

ฉินเฟยไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดแล้ว

ผู้หญิงคนนี้ ถึงว่าสามปีมานี้ไม่เคยเข้าครัวมาก่อน นี่มันตัวหายนะของห้องครัวชัดๆ เข้ามาแค่สองครั้งก็ก่อเรื่องทั้งสองครั้ง ฉินเฟยรู้สึกยอมเธอแล้วจริงๆ

“นั่งอยู่ตรงนั้นแหละอย่าขยับนะ!”เมื่อเห็นเจียงเยว่ถงจะปีนขึ้นมา ฉินเฟยก็ถึงกับตกใจ รีบเดินเข้าไปในครัวโดยที่ไม่สนใจเสียงกรีดร้องคัดค้านของเจียงเยว่ถง เขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วก้าวมาห้องรับแขกสองสามก้าววางเธอลงกับโซฟา

ฉินเฟยเห็นเธอม้วนตัวไม่กล้าขยับอย่างเชื่อฟัง จึงอดขมวดคิ้วพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า“ทำไมไม่ระวังเลย เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”

พูดจบ ก็ดึงสองมือของเจียงเยว่ถงที่กุมเข่าอยู่ออก ถึงแม้ฉินเฟยจะตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่ตอนนี้ฝ่ามือของเจียงเยว่ถงก็เต็มไปด้วยเลือด บนหัวเข่าของเธอไม่รู้ว่าถูกเศษกระเบื้องกี่ชิ้นเจาะบาดกี่ที่ เลือดที่ไหลออกมาเปื้อนกระโปรงของเธอไปหมด……

“แค่ล้างถ้วยล้างชามต้องขนาดนี้เลยหรอ……”ฉินเฟยบ่นอุบอิบ นี่ขนาดยังไม่ทันเดินเข้าห้องครัวไปล้างเลยนะ ตอนนี้เขาไม่มีแรงจะมาต่อว่าหรือบ่นความซุ่มซ่ามของเธออีกแล้ว เลือดบนขาของเจียงเยว่ถงทำให้เขารู้สึกสงสารเล็กน้อย

“นั่งเฉยๆนะอย่าขยับ ให้ผมดูหน่อย……”เจียงเยว่ถงเบะปาก ด้วยความน้อยใจ แต่ก็ฟังคำเตือนของฉินเฟย เธอไม่กล้าขยับ แล้วนั่งอยู่เฉยๆ

ฉินเฟยรีบนั่งลงมา แล้วค่อยๆเลิกกระโปรงของเจียงเยว่ถงขึ้นเบาๆ ทันใดนั้นขาเรียวยาวขาวดุจดั่งหิมะก็โผล่ออกมาอยู่ตรงหน้าของเขา ขาวดุจดั่งหยก ความโค้งเว้าสง่างามราวกับฟ้าผลงานศิลปะที่ห้าประทาน แต่ในตอนที่เขาจะเลิกชายกระโปรงขึ้นไปบริเวณหัวเข่า ฉินเฟยก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง เจียงเยว่ถงเจ็บจนไม่สามารถควบคุมร่างกายไม่ให้สั่นสะท้านได้

“คะ……คุณรอก่อน ผมจะไปหยิบกล้องปฐมพยาบาลมา อย่างมากก็สิบนาที”ฉินเฟยกำลังจะถามตำแหน่งที่วางกล่องปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ไม่นานเขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ สอบถามเจียงเยว่ถงสู้ไปหยิบชั้นล่างมาดีกว่า

“เร็วหน่อยนะ”เจียงเยว่ถงกัดริมฝีปาก เธอก้มลงมองหัวเข่าที่มีเลือดไหลไม่หยุด เสียงของเธอสั่นเครือ

“รู้แล้วครับ”ฉินเฟยเดินลงไปชั้นล่าง รีบวิ่งไปยังชุมชน

“บาดแผลเล็กมากครับ อีกไม่นานก็สมานกัน ขอแค่อย่าเกิดอุบัติเหตุอีก พรุ่งนี้พอคุณตื่นขึ้นมาบาดแผลก็สมานกันแล้วล่ะ”ฉินเฟยเก็บกล่องปฐมพยาบาลไปด้วย“หลังจากสะเก็ดแผลหายแล้ว ให้ไปที่คลินิกดูแลมัน เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น”

เจียงเยว่ถงเป็นผู้หญิง แต่ตนไม่ใช่ โดยเฉพาะเธอชอบสวมกระโปรง ถ้าหากบนขามีรอยแผลเป็น เธอต้องรับไม่ได้แน่ๆ

เจียงเยว่ถงพยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร หลังจากที่จัดการเรียบร้อย บริเวณบาดแผลก็รู้สึกเจ็บเล็กน้อย เธอสามารถทนได้ เธอก้มหน้าดูหัวเข่าที่ถูกปิดแผลไว้อย่างแน่นหนา ใยสมองอดไม่ได้ที่จะปรากฏภาพของฉินเฟยที่ทำความสะอาดแผลอย่างเชี่ยวชาญ และคอยพันแผลให้เธออย่างเอาใจใส่

เธอเงยหน้ามองฉินเฟย ด้วยสายตาที่หลงใหล

ช่วงนี้ การแสดงออกของฉินเฟยทำให้เธอยิ่งอยู่ยิ่งไม่รู้จักเขา สิ่งที่เขาแสดงออกมาทั้งหมด ยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนกับผู้ชายคนหนึ่ง ยิ่งเหมือนกับผู้ชายแสนดีที่เพื่อนร่วมงานรอบๆตัวของเธอพูดถึงกัน เป็นผู้ชายที่ทำเป็นทุกอย่าง

กระทั่ง ความสามารถของฉินเฟยรวมถึงเรื่องที่เขาทำ สิ่งที่เขาทำก็เกินขอบเขตของผู้ชายที่ดีๆทั่วไป

เหมือนกับ หลังจากที่ฉินเฟยไปทำงานข้างนอกกลับมา เปลี่ยนเป็นมั่นใจยิ่งขึ้น และผู้ชายที่มั่นใจคนหนึ่ง มันมีเสน่ห์สำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมาก แต่ความมั่นใจของฉินเฟยมาจากความสามารถของเขา

แต่เขา มาจากบ้านนอกไม่ใช่หรอ?ในประวัติส่วนตัวของเขา อย่างมากก็แค่จบมาจากมหาวิทยาลัยที่ไม่เลวเท่านั้น

“มีอะไรหรอ คุณมองผมแบบนี้หมายความว่าไง คงไม่ได้ซาบซึ้งกับสิ่งที่ผมทำเมื่อสักครู่หรอกนะ?แฟนอย่างผมอย่างทำได้ไม่ดีอีกหรอ?”ฉินเฟยถูกสายตาของเจียงเยว่ถงมองจนทำตัวไม่ถูก หลายปีมานี้เจียงเยว่ถงดูถูกเขามาตลอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องจ้องมองเขาอย่างลึกซึ้ง

เขาหัวเราะฮ่าๆเพื่อคลายบรรยากาศตึงเครียด แต่เจียงเยว่ถงไม่มีทีท่าใดๆทั้งสิ้น เขาหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยุดชะงักไปอย่างอึดอัด

“ฉินเฟย ตกลงนายเป็นคนยังไงกันแน่?”เจียงเยว่ถงถามฉินเฟยอย่างจริงจัง แววตาคู่สวยจ้องมองที่เขา โดยไม่ให้พลาดแม้แต่รายละเอียดเดียว

“ผมเป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรอ?คุณคิดมาตลอดว่าผมเป็นแบบนั้น ผมก็คิดว่าเป็นแบบนั้นมาตลอด”ฉินเฟยรีบเก็บกล่องปฐมพยาบาล ราวกับจู่ๆเขาก็เหมือนได้รับคำชมจากภรรยาที่เขาเฝ้าห่วงใย

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันเป็นคืนที่โรแมนติกมากสำหรับฉินเฟย ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยาหรือแฟนกัน แต่ก็มีเรื่องแปลกประหลาดมากมายเกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายคือเจียงเยว่ถงที่ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่แย่กว่านั้นมันมีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ไม่มีเรื่องไหนเป็นเรื่องดีเลย

เจียงเยว่ถงขมวดคิ้วเป็นผม เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับคำตอบของฉินเฟย……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)