ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 112

กลิ่นเลือดจางๆ อบอวลอยู่ในปากของคนทั้งคู่ ฉู่โม่หยวนไม่ได้หลบเลี่ยง และแววตาของเขาก็ลึกล้ำราวกับหมึก

คนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาคือหลินเมิ่งหวัน แต่ฉู่โม่หยวนกลับรู้สึกราวกับว่าเขาไม่รู้จักนางเลย

เมื่อฉู่โม่หยวนลิ้มรสน้ำตาเค็มๆ ที่ไหลอาบแก้มของหลินเมิ่งหวัน หัวใจของเขาก็ยิ่งกระชับแน่น

เขาไม่ได้ถามและได้แต่กอดหลินเมิ่งหวันแน่นขึ้นเรื่อยๆ นึกอยากจะบดขยี้นางให้ผสานเข้ามาในกายของตนเสียเดี๋ยวนั้น

หลังจากนั้นไม่นานฉู่โม่หยวนจึงอุ้มหลินเมิ่งหวันที่หลับสนิทขึ้นไปบนรถม้า ส่งนางกลับไปที่สวนแสงอรุณอย่างเงียบเชียบ

เจินจูกับเฝ่ยชุ่ยตกใจมากเมื่อเห็นหลินเมิ่งหวันถูกอุ้มกลับมา

แต่พวกนางไม่กล้าถามฉู่โม่หยวน ดังนั้นจึงทำได้เพียงรีบจัดห้องนอนให้หลินเมิ่งหวัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากฉู่โม่หยวนวางหลินเมิ่งหวันลงบนเตียง หลินเมิ่งหวันก็จับมือของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

เจินจูกับเฝ่ยชุ่ยเห็นดังนั้นก็กังวลจนแทบจะร้องไห้

พวกนางพยายามดึงมือของหลินเมิ่งหวันออก แต่หลินเมิ่งหวันกลับยิ่งออกแรงและยิ่งแนบชิดเข้าไปทั้งตัว เหมือนหมีโคอาล่าที่อยากจะเกาะแขนของฉู่โม่หยวนเอาไว้

“ฉู่โม่หยวน... อย่าไปนะ...”

“ข้าจะไม่ทำผิดต่อท่านอีกแล้ว... ข้าผิดไปแล้ว... อย่าไปนะ...”

หลินเมิ่งหวันพึมพำ น้ำตาที่เปียกชื้นไหลหยดมาจากหางตาของนาง

ดวงตาของฉู่โม่หยวนเป็นประกาย เขาลูบไล้แก้มของนางอย่างรักสุดหัวใจและเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะไม่ไปไหน”

ประโยคนี้ทำให้เจินจูกับเฝ่ยชุ่ยตกใจอีกครั้ง

ไม่ไป?

หรือว่าจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยคิดจะค้างคืนในห้องของหลินเมิ่งหวัน?

ราวกับจะยืนยันการคาดเดาของเจินจูกับเฝ่ยชุ่ย ฉู่โม่หยวนเอ่ยเรียบๆ ว่า “พวกเจ้าไปต้มยาแก้เมามาที”

ฉู่โม่หยวนพูดพลางเลิกผ้าห่มออกและขึ้นไปบนเตียง

เจินจูตื่นตระหนก “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย!”

นางรีบก้าวไปหวังจะหยุดเขา แต่เฝ่ยชุ่ยกลับรั้งแขนของเจินจูไว้โดยไม่รอให้นางพูดจบ

“มีท่านอ๋องคอยดูแลคุณหนูแล้ว บ่าวจะไปต้มยาแก้เมามาให้เดี๋ยวนี้เพคะ”

ว่าแล้วเฝ่ยชุ่ยจึงส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เจินจู “เจ้าคอยดูแลอยู่ที่นี่ ข้าจะไปต้มยาแก้เมาก่อน”

การที่จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงประทับอยู่ที่นี่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ตอนนี้คุณหนูของพวกนางจับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยไว้ไม่ยอมปล่อย แล้วพวกนางจะทำอะไรได้อีก

ในฐานะสาวใช้ พวกนางทำได้เพียงเก็บงำเรื่องนี้เอาไว้ จากนั้นก็ต้องคิดหาวิธีทำให้หลินเมิ่งหวันตื่นขึ้นมาโดยเร็วที่สุด

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า และท้องฟ้าก็ค่อยๆ สว่างขึ้น

ในความสะลึมสะลือ หลินเมิ่งหวันรู้สึกคอแห้งและรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

นางขมวดคิ้วและฝืนลืมตา จากนั้นจึงเอ่ยอย่างยากลำบากว่า “น้ำ... เฝ่ยชุ่ย ช่วยหยิบน้ำมาให้ที”

เฝ่ยชุ่ยรีบรินน้ำส่งให้ แต่เมื่อไปถึงข้างเตียง มือใหญ่มือหนึ่งก็ยื่นออกมาตรงหน้านาง

เฝ่ยชุ่ยชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะรีบก้มหน้า ยื่นถ้วยชาในมือให้ฉู่โม่หยวนทันที

หลินเมิ่งหวันกำลังสะลึมสะลือ ผลที่ตามมาหลังจากเมาค้าง นอกจากจะกระหายน้ำแล้วยังปวดหัวอีกด้วย ตอนนี้เมื่อมีแก้วน้ำจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก นางจึงไม่ได้สนใจอะไรมากและดื่มน้ำทันที

เพียงแต่หลังจากดื่มไปหนึ่งแก้ว หลินเมิ่งหวันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ที่นางเหลือบมองเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนเจินจูกับเฝ่ยชุ่ยจะยืนอยู่ที่ข้างเตียงของนางมิใช่หรือ

นอกจากนั้น มือที่ประคองนางไว้ดูเหมือนจะใหญ่ไปหน่อย

นางใจสั่นเล็กน้อยและรีบหันไปมองทันที ทันใดนั้นนางจึงเห็นว่าฉู่โม่หยวนนั่งอยู่ข้างๆ นาง และภายในหัวของนางก็มีเสียง ‘หึ่ง’ ดังขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก