“ชามสมบัติคือทรัพย์สมบัติของข้า ก่อนหน้านี้ที่ข้าไปทำสงครามทางตะวันตกเฉียงเหนือ เจ้าเปิดบ่อนพนันจนได้เงินมากมายเลยมิใช่หรือ”
มีเสียง ‘ตู้ม’ ดังขึ้นมาในหัวของหลินเมิ่งหวัน ราวกับว่ามีบางอย่างระเบิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน และนางก็ได้แต่มองฉู่โม่หยวนอย่างโง่เขลา
เยี่ยมมาก! นี่นางเปิดบ่อนพนันที่อาณาบริเวณของผู้เป็นนายงั้นหรือ!
ฉู่โม่หยวนมองสีหน้าตะลึงงันของหลินเมิ่งหวันด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู เขายกมือลูบผมของนางและเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “กินข้าวก่อนเถิด แล้วข้าจะพาเจ้าลงไปดู”
หลินเมิ่งหวันมองฉู่โม่หยวนอย่างไม่สบายใจและกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
ในฐานะบุตรสาวของคนตระกูลใหญ่ การมาที่บ่อนพนันย่อมเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่นางเปิดสงครามการพนันด้วย
หลินเมิ่งหวันรู้สึกว่านางค่อนข้างทำตัวเลยเถิด
แต่ฉู่โม่หยวนกลับมีสีหน้าปกติราวกับไม่สนใจเรื่องที่นางมาเล่นการพนันที่ชามสมบัติ ทั้งยังคีบอาหารให้นางอย่างอ่อนโยนและเอาใจใส่อีกด้วย
หลินเมิ่งหวันเองก็หิวแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นว่าฉู่โม่หยวนไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนี้ นางจึงค่อยคลายกังวลและเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย
ชูยียียังคงมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มและแอบคิดว่าพวกเขาน่าสนใจดี
เพียงแต่ชูยียีไม่กล้าทำอะไรผิดมารยาทเมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่โม่หยวน
หลังจากกินจนอิ่มหนำ หลินเมิ่งหวันจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของผู้ชาย ส่วนฉู่โม่หยวนสวมหน้ากากสีเงินพื้นๆ ปิดบังไว้ครึ่งหน้า จากนั้นทั้งสองคนจึงเดินลงไปที่โถงใหญ่ด้วยกัน
ผู้คนในโถงใหญ่พลุกพล่าน แสงไฟสว่างจ้า นักพนันต่างตะโกนโห่ร้องอย่างตื่นเต้นดีใจ ไม่มีใครสังเกตเห็นการมาถึงของฉู่โม่หยวนกับหลินเมิ่งหวันเลยสักนิด
หลินเมิ่งหวันมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ
นางไม่ได้ติดการพนันและเล่นพนันแค่เพื่อหารายได้ แต่ตอนนี้เมื่อฉู่โม่หยวนมอบชามสมบัติให้นางแล้ว นางจึงย่อมเข้าใจสถานการณ์ของชามสมบัติได้มากขึ้นเป็นธรรมดา และมันจะทำให้นางคิดหาวิธีหาเงินได้มากขึ้น
“ไปให้พ้น! ไม่มีเงินพนันก็อย่ามาเกะกะที่นี่!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงตวาดอย่างโกรธจัดดังเข้าหูหลินเมิ่งหวัน นางเลิกคิ้วทันทีและเห็นชายชราสวมชุดขาดรุ่งริ่งถูกผลักลงพื้นอย่างแรง
“ท่านผู้เฒ่า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง!” หลินเมิ่งหวันถลันเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมาตามสัญชาตญาณ
ชายชราผู้นั้นไม่แม้แต่จะมองนาง เขาปัดมือของหลินเมิ่งหวันออกและลุกขึ้น จากนั้นจึงกลับไปที่โต๊ะพนันอีกครั้ง “ใครบอกว่าปู่อย่างข้าไม่มีเงิน ข้ามีของดีอยู่ที่นี่ พวกเจ้าไม่รู้ค่า ข้า...”
“ไปไป๊ ไปให้พ้น! ก็แค่เอาท่อนซุงมาเป็นสมบัติ อย่ามารบกวนกิจการของพวกข้า” ยังไม่ทันที่ชายชราจะพูดจบ ชายในชุดดำที่ลงมือก่อนหน้านี้ก็ขัดจังหวะขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
พวกติดพนันประเภทนี้มักปฏิเสธที่จะออกจากโต๊ะ พวกที่ต้องการเอาทุกอย่างมาเดิมพันแบบนี้เขาเคยเห็นมานักต่อนัก
ชามสมบัติมีกฎเกณฑ์ว่าไม่สามารถยืมเงินมาพนันได้ และยิ่งไม่อาจนำภรรยาและบุตรสาวมาเดิมพันได้เช่นกัน หากในมือไม่มีสิ่งที่เหมาะจะมาเดิมพันก็จะถูกขับไล่ออกไป พฤติกรรมของชายชราผู้นี้ถือเป็นการก่อกวนไปแล้ว
ชายชราผู้นั้นหน้าแดงก่ำ เขาวางของในมือลงบนโต๊ะพนันและบอกว่า “นี่แหละคือสมบัติ พวกเจ้าไม่รู้ค่า มันคือหมึกไม้ม่วงที่มีค่ามหาศาล!”
“ออกไป! ใครก็ได้ มาลาก...”
“ช้าก่อน!” หลินเมิ่งหวันเอ่ยออกมาอย่างฉับพลันและขัดจังหวะชายผู้นั้น จากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นชิ้นไม้สีม่วงเข้มที่ชายชราวางไว้บนโต๊ะพนัน หลินเมิ่งหวันก็ใจเต้นอย่างแรงจนระงับไว้ไม่อยู่
หมึกไม้ม่วง!
เป็นหมึกไม้ม่วงจริงๆ ด้วย!
เป็นสมุนไพรที่ในชาติก่อน ต่อให้ฉู่โม่หยวนพยายามหาอย่างไรก็หาไม่เจอ แต่ตอนนี้มันมาปรากฏอยู่ที่นี่แล้ว!
หรือว่าชายชราผู้นี้จะเป็น...
หลินเมิ่งหวันพยายามระงับอารมณ์ให้คงที่ จากนั้นจึงก้าวเข้าไปและเอ่ยว่า “ท่านผู้เฒ่า ท่านอยากพนันจริงๆ หรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก