วินาทีต่อมา เสียงเขย่าลูกเต๋าก็ขัดจังหวะความคิดของฉู่โม่หยวน
ฉู่โม่หยวนหลุบตามองทันที นั่นเองจึงเห็นว่าหลินเมิ่งหวันหยิบถ้วยลูกเต๋าขึ้นมาเขย่าอย่างรวดเร็ว
บนใบหน้าของนางฉาบฉายไปด้วยรอยยิ้มจางๆ เห็นได้ชัดนางไม่ได้รู้ผลลัพธ์ของชายชราเลย
แต่ก่อนที่ฉู่โม่หยวนจะมองการเคลื่อนไหวของนางได้ชัดเจน หลินเมิ่งหวันก็วางถ้วยลูกเต๋าลงบนโต๊ะอย่างแรงเสียแล้ว
“เท่านี้รึ”
“เขย่าแค่สองครั้งเนี่ยนะ”
“แม่เจ้า คุณชายผู้นี้เล่นไม่เป็นเลยงั้นรึ”
“ข้าว่าคุณชายคนนี้ไม่ใช่แค่เล่นไม่เป็น แต่ยังโง่อีกด้วย คนปกติที่ไหนจะเดิมพันเงินหนึ่งพันตำลึงทองกับท่อนไม้หักๆ แค่ท่อนเดียว...”
เสียงการสนทนาดังเข้าหูหลินเมิ่งหวันอย่างต่อเนื่อง และเป้าจื่อก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างฉับพลัน จากนั้นจึงสบตากับฉู่โม่หยวนอย่างประหม่าและลำบากใจ
การเคลื่อนไหวของหลินเมิ่งหวันรวดเร็วเกินไปจนเขาฟังไม่ทัน
แต่ต่อให้ฟังทันแล้วจะต่างกันอย่างไร
ชายชราได้แต้มสูงสุดไปแล้ว หลินเมิ่งหวันไม่มีทางชนะได้เลย
เป้าจื่อหยุดความคิดของตนและจ้องมองหลินเมิ่งหวันกับชายชราที่อยู่ตรงหน้า ภายในใจกำลังคิดว่าชายชราผู้นี้คงไม่ใช่เซียนพนันที่คมในฝักหรอกนะ
ที่ฉู่โม่หยวนเรียกเขามาที่นี่อาจเป็นเพราะหมึกไม้ม่วง ถ้าอีกเดี๋ยวเขาต้องเดิมพันกับชายชราผู้นี้ เขาจะชะล่าใจไม่ได้
หลินเมิ่งหวันไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่อยู่รอบๆ นางมองถ้วยลูกเต้าของชายชราและเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เชิญ”
“ได้สิ!” ชายชราตอบรับและเปิดถ้วยลูกเต๋าอย่างตื่นเต้น
ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“พระเจ้า หกแต้มสามลูก นี่มันจะโชคดีเกินไปแล้ว เด็กคนนี้คงไม่เหลือแม้แต่กางเกงแน่”
“ตาเฒ่านี่ไม่ได้บ้างั้นหรือ เขาคงไม่ได้โกงหรอกนะ”
“อีกเดี๋ยวคุณชายน้อยผู้นี้จะไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งหรอกหรือ นี่คือการสูญเสียเงินหนึ่งพันตำลึงทองเชียวนะ ต่อให้รวยแค่ไหนก็ทนไม่ได้แน่...”
“ฮ่าๆๆๆๆ เด็กน้อย เอาเงินมาซะ!” ชายชราหน้าแดง ไหนเลยจะเหลือเค้าความกังวลและทรุดโทรมก่อนหน้านี้
เพียงแต่หลินเมิ่งหวันกลับยิ้มน้อยๆ “เหตุใดท่านผู้เฒ่าจึงรีบร้อนนัก ดูจำนวนของข้าก่อนไม่ได้กว่าหรือ”
หลินเมิ่งหวันเปิดถ้วยลูกเต๋าอย่างใจเย็นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน
วินาทีถัดมา...
“พระเจ้าช่วย!”
“ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”
“นะ... นี่มันเป็นไปไม่ได้ ชนะได้ด้วยรึ!”
แม้แต่เป้าจื่อกับฉู่โม่หยวนก็ยังมองลูกเต๋าบนโต๊ะพนันอย่างตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้
ผลลูกเต๋าของหลินเมิ่งหวันก็เป็นหกแต้มสามลูกเช่นกัน
แต่สิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึงเลยก็คือ หนึ่งในลูกเต๋านั่นถูกแบ่งให้แตกออกเป็นครึ่งซีก!
ลูกเต๋าที่แตกยังมีแต้มตัวเลขที่หงายขึ้นมา ทำให้แต้มสุดท้ายของหลินเมิ่งหวันกลายเป็นหกแต้มสามลูก หนึ่งแต้มหนึ่งลูก
แต้มที่สิบเก้าปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า มากกว่าคะแนนของชายชราหนึ่งคะแนน
การแข่งคราวนี้ หลินเมิ่งหวันชนะแล้วจริงๆ
“เจ้าเด็กขี้โกง!” ชายชรามองลูกเต๋าของหลินเมิ่งหวันอย่างตกตะลึงและถลันไปที่โต๊ะพนันอย่างกระวนกระวาย
จะเป็นสิบเก้าแต้มได้อย่างไร
จะแบ่งลูกเต๋าออกเป็นสองซีกได้อย่างไร
เด็กคนนี้ใช้ลูกไม้แน่ๆ!
“เจ้าเป็นคนของบ่อนพนันนี่งั้นละสิ พวกแกมันร้านสกปรก! หลอกลวงผู้คน!” ชายชราเอ่ยออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวและคว้าหมึกไม้ม่วงเอาไว้ “ข้าไม่พนันแล้ว พวกเจ้ารังแกข้า ข้า... โอ๊ย ปล่อยนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก