รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเมิ่งหวันสดใสยิ่งขึ้น
“ไม่เสียแรงที่เป็นบุตรสาวของตี้ซือ ฝีปากเก่งและครุ่นคิดอย่างละเอียดรอบคอบจริงๆ”
“เพียงแต่คุณหนูหนาน เจ้ารังแกที่ข้าไม่มีคนช่วยเป็นพยานหรือ?”
หัวใจของหนานมู่ชิงบีบแน่น
หรือว่าหลินเมิ่งหวันก็มีพยาน?
ในชั่วพริบตาเดียว หนานมู่ชิงก็รู้สึกตัวกลับมา
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อออกมาข้างนอก หลินเมิ่งหวันจะพาคนรับใช้หลายคนมาด้วย
อีกอย่างหอเจินเป่าก็เป็นกิจการของจวนฉิน ดังนั้นหลินเมิ่งหวันจึงสามารถใช้คนงานในร้านได้
เพียงแต่……
หนานมู่ชิงยิ้มเล็กน้อย
“ผู้ที่สามารถเป็นพยานได้ จะต้องไม่ใช่คนรับใช้ของจวนหลิน มิเช่นนั้นคุณหนูหลินจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ใส่ร้ายผู้อื่นตามคำสั่งของเจ้า”
เหลียงอวี่ฉิงกล่าวในทันทีว่า “ใช่! เจ้าอย่าคิดว่าจะใส่ร้ายพวกเราได้! ”
“คนผู้นี้ไม่ใช่คนรับใช้ของจวนหลินจริงๆ”
หลินเมิ่งหวันยิ้มและตะโกนไปทางห้องส่วนตัว “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ท่านจะไม่ออกมาจริงๆ หรือ? ”
ทันทีที่กล่าวเช่นนี้ออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
หนานมู่ชิงหน้าซีดเผือดในทันที กำผ้าเช็ดหน้าในมือไว้แน่น และมองไปที่ประตูห้องส่วนตัว
ผู้ที่หลินเมิ่งหวันพูดถึงคือจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยหรือ?
เช่นนั้นสิ่งที่พวกนางพูดเมื่อครู่ จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยก็ทรงได้ยินด้วย?
ทำอย่างไรดี?
นางจะอธิบายอย่างไร?
หนานมู่ชิงอยู่ในความตื่นตระหนก จี้เมิ่งฉีและเหลียงอวี่ฉิงก็ตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง และมองไปที่หนานมู่ชิงอย่างร้อนใจ โดยหวังว่านางจะคิดหาวิธีได้
เพียงแต่หลินเมิ่งหวันขมวดคิ้ว
เนื่องจากประตูห้องส่วนตัวเงียบสงบ ร่างที่นางจินตนาการไว้ไม่ปรากฏตัวขึ้น
หลินเมิ่งหวันเม้มริมฝีปากอย่างทำอะไรไม่ถูก
จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยผู้นี้ ช่างไม่ไว้หน้านางเลยจริงๆ
หนานมู่ชิงสังเกตเห็นความลำบากใจของหลินเมิ่งหวัน และจ้องมองในทันที
“คุณหนูหลิน จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเล่า?”
เหลี่ยงอวี่ชิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และนัยน์ตาเปล่งประกาย
“ใช่ คุณหนูหลิน จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเล่า?”
จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเป็นรัชทายาทผู้สูงศักดิ์ เยือกเย็นและเย่อหยิ่ง เขาไม่ชอบความครึกครื้นมาแต่ไหนแต่ไร และยิ่งไม่ชอบใกล้ชิดกับหญิงสาว
เขาจะปรากฏตัวในสถานที่ที่ขายเครื่องประดับของผู้หญิงเช่นหอเจินเป่าได้อย่างไร?
คำพูดของหลินเมิ่งหวันเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะทำให้พวกนางหวาดกลัว และอยากเห็นพวกนางขายหน้า!
เมื่อคิดเช่นนี้ เหลียงอวี่ฉิงก็รู้สึกมั่นใจ
นางเยาะเย้ยว่า “คุณหนูหลิน เจ้าเป็นคนแรกที่ใช้ขนไก่เป็นลูกธนู สุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ”
“แม้จัว่าตอนนี้ฝ่าบาทจะทรงมีพระราชโองการประทานการอภิเษกสมรสแล้ว แต่เจ้าทำเรื่องสกปรกเช่นนั้น ยังไม่รู้เลยว่าจะได้แต่งงานกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยหรือไม่”
จี้เมิ่งฉีรู้สึกตัวกลับมาและคล้อยตามในทันที “ถูกต้อง! เจ้าหนีไปกับหลี่จิ่นซู ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้”
“เจ้าทำเช่นนี้ ถือว่ารุกรานอำนาจของราชวงศ์ และทำลายชื่อเสียงของราชวงศ์! หากฝ่าบาททรงรู้เรื่องนี้ ต้องไม่ยอมให้เจ้าอภิเษกสมรสกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยอย่างแน่นอน และตอนนี้เจ้ากล้าแอบอ้างชื่อของจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย!"
เหลียงอวี่ฉิงก็ไม่น้อยหน้า “ถูกต้อง เจ้าประพฤติมิชอบ สำส่อน ทุกคนต่างก็รู้มานานแล้ว”
“ลำพังแค่เจ้า ยังอยากแต่งงานกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยอยู่อีกหรือ?”
“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยสถานะสูงส่ง มีเพียงคุณหนูหนานจากตระกูลสูงศักดิ์เท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะอภิเษกสมรสกับเขา หญิงเช่นเจ้าควรถูกลากเข้าไปในกรงหมู!”
ทันทีที่หนานมู่ชิงถูกเสนอชื่อ หัวใจก็สั่นสะท้าน
แต่เมื่อได้ยินคำพูดในตอนท้าย นางก็มองไปที่หลินเมิ่งหวันอย่างเห็นด้วย
อภิเษกสมรสกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย?
หลินเมิ่งหวันไม่คู่ควรจริงๆ!
จี้เมิ่งฉีสังเกตเห็นสีหน้าของหนานมู่ชิง และรู้ว่าหนานมู่ชิงชอบฟัง
นางฮึกเหิมในทันทีว่า “หลินเมิ่งหวัน เจ้าอยากพาข้าเข้าไปเข้าเฝ้าในวังไม่ใช่หรือ? พวกเราก็อยากไปด้วยพอดี!
“พวกเราต้องการไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท และกราบทูลฝ่าบาทว่าเจ้าสวมเขาให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยลากเจ้าไปที่สำนักตรวจการและจัดการเจ้าให้ดีๆ ...... !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก