ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 43

ในชาติก่อนเพื่อปูทางให้ลูกชายของตัวเอง สวีซื่อจึงจัดการให้หลินจื่อยวนแต่งงานไปเป็นอนุภรรยาของขุนนางชั้นสูงตอนอายุสิบห้าปี หลินจื่อยวนไม่เต็มใจและอดอาหารประท้วง

สวีซื่อเกลียดหลินจื่อยวนที่ทำลายการแต่งงานครั้งนี้ ดังนั้นจึงให้นางแต่งงานไปอยู่กับครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น เป็นขุนนางยศเล็กๆ ที่ติดสุราหัวราน้ำ

แม้หลินจื่อยวนจะแต่งงานเป็นภรรยาเอก แต่นางก็มีชีวิตที่ยากลำบาก นอกจากนี้นางยังให้เงินเหล่านั้นกับหลินเมิ่งหวัน และเงินนั่นก็เป็นเงินค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของครอบครัวของหลินจื่อยวน

หลินเมิ่งหวันแอบถอนหายใจอยู่ในใจ ถึงอย่างไรหลินจื่อยวนก็มีบุญคุณกับนาง นางได้ชีวิตใหม่ เมื่อมีโอกาสย่อมต้องอยากช่วยหลินจื่อยวนอยู่แล้ว

เจ้าของร้านเห็นหลินเมิ่งหวันก็เข้ามาทักทายด้วยตัวเอง

หลินเมิ่งหวันพาหลินจื่อยวนเข้าไปในห้องส่วนตัว นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เถ้าแก่ ช่วยนำเสื้อผ้าทั้งหมดที่เหมาะกับน้องสาวของข้ามาให้นางลองที่ห้องนี้หน่อยเถิด”

หลินจื่อยวนหน้าแดงเพราะคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเมิ่งหวัน ทว่าในใจก็ยังคงตั้งตารอคอย

ดังนั้นนางจึงยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นสาวใช้นำเสื้อผ้าสวยๆ มาให้ หลินจื่อยวนก็ใจเต้นแรง

หลินจื่อยวนหันไปขอบคุณหลินเมิ่งหวันและพาสาวใช้เข้าไปในห้องด้านใน

หลินเมิ่งหวันดื่มชามองดูผ้าที่เถ้าแก่นำมาให้ ระหว่างนั้นกลับได้ยินเสียงคุ้นเคยดังแว่วมาจากอีกฟากหนึ่งของประตู

“เมื่อคืนจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจับคุณชายเหลียงไป นี่คือทรงออกหน้าแทนหลินเมิ่งหวันใช่หรือไม่”

“เห็นจะเป็นเช่นนั้น วันนี้เหลียงอวี่ฉิงมาหาข้า แต่ข้าไม่กล้าพบนาง ที่เจ้าพูดถึงจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยก็เป็นเรื่องจริง พระองค์ทรงดื่มยาเสน่ห์อะไรไปกันแน่ เหตุใดจึงได้สนใจหลินเมิ่งหวันมากขนาดนี้”

.....

หลินเมิ่งหวันมีโสตประสาทที่ดีเยี่ยม ดังนั้นจึงฟังการสนทนาของพวกนางจนปะติดปะต่อได้

นางหันไปมองเจ้าของร้านที่อยู่ข้างๆ และถามว่า “ห้องข้างๆ คือคุณหนูจี้หรือ?”

เถ้าแก่ประหม่าเล็กน้อย “ใช่แล้ว เป็นคุณหนูจี้กับคุณหนูหลี่ ข้าจะไปเชิญพวกนางให้ออกไปเดี๋ยวนี้”

หลินเมิ่งหวันโบกมือและบอกว่า “ไม่ต้อง”

นางวางถ้วยชาก่อนจะเดินไปทางผนังด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงยกมือขึ้นแล้วเคาะ

จี้เมิ่งฉีกับหลี่เล่อหย่าที่อยู่อีกฟากหนึ่งชะงัก ทันใดนั้นจึงเงียบเสียงและมองกันและกันด้วยความงุนงง

ต่อมาหลินเมิ่งหวันจึงส่งเสียงไปว่า “จี้เมิ่งฉี ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่ได้รับบทเรียนสินะ ถึงได้มีปัญหาชอบนินทาแบบนี้ไม่เปลี่ยน เจ้าเป็นห่วงเหลียงโม่เฉียงขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่ไปสำนักตรวจการเป็นเพื่อนเขาล่ะ”

“หลี่เล่อหย่า คืนนั้นจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยตรัสสิ่งใดกับเจ้า เจ้าคงไม่ลืมหรอกนะ หรือว่าเจ้าอิจฉาหลี่จิ่นซู อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับหลี่จิ่นซูด้วย”

จี้เมิ่งฉีอุทานอย่างตกใจ ทันใดนั้นสีหน้าก็ซีดเผือดและเกือบจะตกลงจากเก้าอี้

หลินเมิ่งหวันอยู่ที่ห้องข้างๆ งั้นหรือ?!

หลี่เล่อหย่าก็ประหม่าขึ้นมาเช่นกัน ทว่านางรีบลุกขึ้นอย่างมีโทสะและอยากจะโต้แย้งอีกฝ่าย

จี้เมิ่งฉีจับมือของนางไว้แน่นและส่ายหน้าให้นาง “อย่าไป!”

“เจ้ากลัวอะไรนาง!” หลี่เล่อหย่าเอ่ยอย่างโกรธเคืองและไม่ได้ระงับความดังเสียง

“หลินเมิ่งหวัน เจ้าอย่าเอาจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยมาข่มคนอื่นหน่อยเลย เจ้าทำเรื่องพวกนั้นเอง ใครบ้างที่ไม่รู้... อื้อ...”

ไม่รอให้หลี่เล่อหย่า จี้เมิ่งฉีก็รีบปิดปากของนางอย่างร้อนใจ

หลี่เล่อหย่าจ้องมองจี้เมิ่งฉีอย่างโมโห แต่กลับเห็นว่าใบหน้าของจี้เมิ่งฉีมีแต่ความตื่นตระหนก

“หยุดพูดเสียที! คุณหนูหลี่ไม่รู้เรื่องของคุณหนูหนานใช่หรือไม่ วันนั้นคุณหนูหนานพูดจาจาบจ้วงหลินเมิ่งหวัน และในคืนวันเดียวกันก็ถูกวางยาพิษแบบเดียวกับพี่ชายของท่าน พิษของท่านพี่ท่านมาจากจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ท่านคิดว่าการวางยาพิษของคุณหนูหนานเกิดขึ้นได้อย่างไร”

หลี่เล่อหย่าสะดุ้งขึ้นมาอย่างฉับพลัน นางมองจี้เมิ่งฉีด้วยความหวาดกลัว

เมื่อเห็นหลี่เล่อหย่ากลัวขึ้นมาบ้างแล้ว จี้เมิ่งฉีจึงฝืนยิ้มพลางปล่อยมือ “เราทำอะไรหลินเมิ่งหวันไม่ได้ รีบไปขอโทษนางกันเถิด”

เมื่อนึกถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยผื่นแดงน่ากลัวของหลี่จิ่นซู หลี่เล่อหย่าก็ขนลุกขุนพองไปทั้งตัว แต่จะให้นางไปขอโทษหลินเมิ่งหวัน นางจะเต็มใจได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก