ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 44

หลินเมิ่งหวันยกถ้วยชาขึ้นมาจิบและเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “เตรียมอาหารเถอะ”

เฝ่ยชุ่ยมองหลินเมิ่งหวันอย่างประหลาดใจ “คุณหนูรองไม่สนใจหรือเจ้าคะ”

หลินเมิ่งหวันยิ้มและบอกว่า “ข้าต้องทำอย่างไร? ช่วยหลินจื่อยวนสั่งสอนหลินซิงโหรวหรือ”

ก่อนที่เฝ่ยชุ่ยจะตอบอะไร หลินเมิ่งหวันก็ส่ายหน้า “ข้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปยุ่งกับบ้านสอง ของข้าให้หลินจื่อยวนไปแล้ว ถ้านางรักษาไว้ไม่ได้ก็เพราะนางไร้ความสามารถ ข้าคอยช่วยตลอดเวลาไม่ได้หรอก”

“จัดอาหารเถอะ พรุ่งนี้ต้องเข้าร่วมงานแข่งขันโปโล คืนนี้ต้องรีบพักผ่อน”

เฝ่ยชุ่ยมองหลินเมิ่งหวันอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังตอบรับและเดินออกไป

หลินเมิ่งหวันกินดื่มจนอิ่มและอาบน้ำต่อ จากนั้นจึงเข้านอนอย่างผ่อนคลาย

ที่บ้านสอง บางคนมีความสุข บางคนกำลังเศร้าใจ กว่าแสงเทียนจะดับก็เมื่อกลางดึก ทว่าหลินเมิ่งหวันหลับสบายตลอดทั้งคืน

เช้าตรู่วันต่อมา ที่จวนหลินวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง

เนื่องจากสถานที่จัดงานโปโลจัดในเขตชานเมืองหลวง ทุกคนจึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว หลินเมิ่งหวันจึงแต่งหน้าแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน จากนั้นจึงไปที่เรือนด้านหน้าพร้อมกับเจินจูและเฝ่ยชุ่ย

หลินเมิ่งหวันมาถึงช้าที่สุด ทุกคนจากทั้งบ้านใหญ่และบ้านสองมารอที่นี่กันหมดแล้ว

มองปราดเดียวก็เห็นว่าทุกคนแต่งกายอย่างงดงามละเอียดลออ สวมอาภรณ์ที่เหมาะสม แสดงให้เห็นว่าคราวนี้ทุกคนให้ความสำคัญกับการงานแข่งขันโปโลมาก

เพียงแต่สายตาของหลินเมิ่งหวันมาหยุดอยู่ที่หลินจื่อยวน

วันนี้หลินจื่อยวนสวมชุดกระโปรงสีฟ้า ที่แขนและชายกระโปรงปักลายดอกไม้ขนาดใหญ่ดูประณีตงดงามมาก แต่ถ้าหากดูดีๆ จะเห็นว่าชุดนี้ไม่เหมาะกับหลินจื่อยวนเลยสักนิด นอกจากนี้ที่ชายกระโปรงยังมีคราบหมึกเล็กๆ ที่ยากจะสังเกตอยู่ด้วย

ชุดนี้ไม่ใช่ชุดที่หลินเมิ่งหวันซื้อเมื่อวานนี้ นอกจากนี้หลินเมิ่งหวันยังจำได้ว่าหลินซิงโหรวเคยสวมชุดนี้

เมื่อเห็นว่าหลินเมิ่งหวันมาถึง หลินจื่อยวนก็ก้มหน้าอย่างไม่สบายใจ สองมือบีบเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

มีดอกไม้สีฟ้าอ่อนประดับอยู่บนเส้นผมและเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางแสงแดด สีสันเข้ากันกับชุดที่ใส่ ทว่าดอกไม้นั้นงดงามจนทำให้ชุดกระโปรงดูไม่เข้ากันเลย

ช่อดอกไม้สีฟ้านั้นเป็นของที่หลินเมิ่งหวันซื้อ หลินซิงโหรวชอบความฟุ้งเฟ้อหรูหรา ดังนั้นนางย่อมเมินเฉยต่อของเล็กๆ น้อยๆ นี้เป็นธรรมดา

สายตาของหลินเมิ่งหวันกวาดมองไปทั่วร่างกายของหลินจื่อยวนอย่างเรียบเฉย จากนั้นนางจึงยิ้มและคำนับทักทายจางซื่อกับสวีซื่ออย่างนุ่มนวล

“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านป้าสะใภ้รอง ต้องขออภัยที่เมิ่งหวันมาช้า”

จางซื่อมองหลินเมิ่งหวันด้วยความประหลาดใจและเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ช้าหรอก พวกข้าก็เพิ่งมาถึง ในเมื่อมาแล้วก็ขึ้นรถกันเถิด หมู่บ้านของแม่นางอู๋ค่อนข้างห่างไกล ต้องออกเร็วหน่อยจึงจะดี”

“เจ้าค่ะ” หลินเมิ่งหวันยิ้มตอบ จากนั้นจึงให้เจินจูกับเฝ่ยชุ่ยช่วยประคองนางขึ้นรถม้า

หลินจื่อยวนที่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาเงยหน้ามองหลินเมิ่งหวันโดยไม่รู้ตัว ขอบตาของนางแดงก่ำและภายในใจรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

หลินซิงโหรวลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเหลือบมองหลินจื่อยวนอย่างลำพองใจ จากนั้นจึงขึ้นไปบนรถม้า

ในรถม้า เจินจูขมวดคิ้วและเอ่ยว่า “คุณหนูรอง คุณหนูจื่อยวนไม่สวมเสื้อผ้าที่คุณหนูซื้อให้นาง เป็นไปได้หรือไม่เจ้าคะว่าคุณหนูซิงโหรวจะแย่งไปจริงๆ”

หลินเมิ่งหวันกล่าวว่า “แย่งไปก็เป็นเรื่องปกติมิใช่รึ หลายปีที่ผ่านมานางแย่งของไปน้อยนักหรือ”

หลินเมิ่งหวันหาวหนึ่งทีและเอ่ยอย่างคลุมเครือว่า “ข้าจะหลับสักพัก ถึงแล้วค่อยเรียกข้า”

ว่าแล้วหลินเมิ่งหวันจึงเอนกายพิงเบาะนุ่มอย่างผ่อนคลาย จากนั้นจึงหลับตาลง

แม้ว่าเมื่อคืนจะเข้านอนเร็ว แต่วันนี้ก็ต้องตื่นเช้ามาก ดังนั้นหลินเมิ่งหวันจึงยังรู้สึกง่วง

ส่วนหลินซิงโหรวน่ะหรือ?

นางแย่งไปแล้วก็แย่งไป ที่หลินจื่อยวนปกป้องของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ หลินเมิ่งหวันไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด

หลินซิงโหรวรังแกหลินจื่อยวนก็แล้วกันไป แต่ถ้านางกล้าสวมชุดที่แย่งมาละก็ อย่ามาโทษถ้าหลินเมิ่งหวันไม่เกรงใจ

รถม้าแล่นไปยังชานเมืองหลวงและโยกไหวราวกับเปลเด็ก นับเป็นการกล่อมนอนที่ได้ผลดีเยี่ยม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก