ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 45

สรุปบท บทที่ 45 สั่งสอนหลี่เล่อหย่า: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก

สรุปเนื้อหา บทที่ 45 สั่งสอนหลี่เล่อหย่า – ภพนี้ตราบภิรมย์รัก โดย ท้อเยาเยา

บท บทที่ 45 สั่งสอนหลี่เล่อหย่า ของ ภพนี้ตราบภิรมย์รัก ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ท้อเยาเยา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลินเมิ่งหวันบอกว่า “หม่อมฉันไม่ไปดีกว่าเพคะ ไปแบบนี้ไม่ถูกต้องตามประเพณีนัก”

ฉู่โม่หยวนพยักหน้า

เขายังไม่ได้แต่งงานกับหลินเมิ่งหวัน แม้ว่าพี่ชายรองของเขาจะเป็นองค์รัชทายาท หลินเมิ่งหวันก็ไม่จำเป็นจะต้องไปทักทายพร้อมกับเขา

แต่ถ้าหลินเมิ่งหวันอยากจะไป ฉู่โม่หยวนก็ไม่รังเกียจที่จะพานางไปด้วย แต่เมื่อหลินเมิ่งหวันไม่อยากไป ฉู่โม่หยวนก็ไม่คิดจะบังคับ

ฉู่โม่หยวนกล่าวลาหลินเมิ่งหวัน จากนั้นจึงเดินไปในหมู่บ้านพร้อมกับทหารองครักษ์

หลินซิงโหรวเงยหน้ามองแผ่นหลังของฉู่โม่หยวน แก้มของนางแดงระเรื่อ ในแววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา

จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยช่างสูงใหญ่และหล่อเหลายิ่งนัก ทั้งยังอ่อนโยนต่อหลินเมิ่งหวัน

นางเองก็ต้องการสวามีแบบนี้!

นางเองก็เป็นบุตรีของเอกภรรยาแห่งจวนหลิน มีตรงไหนที่สู้ผู้หญิงหยำฉ่าอย่างหลินเมิ่งหวันไม่ได้

หลินซิงโหรวจ้องมองฉู่โม่หยวนอย่างลุ่มหลง โดยไม่รู้เลยว่าสายตาที่เยียบเย็นของหลินเมิ่งหวันกำลังมองมาที่นาง

หลินเมิ่งหวันนึกเยาะเย้ยอยู่ในใจ

หลังจากเกิดใหม่ หลินซิงโหรวผู้นี้ดูเหมือนจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย

ผู้คนมากมายได้รับเชิญให้มาร่วมการงานแข่งขันโปโล ไม่นานหลังจากนั้นรถม้าหลายคันจึงทยอยมาถึง

หลินเมิ่งหวันกับคนอื่นๆ ไม่รอช้า จางซื่อส่งบัตรเชิญให้ทหารยามที่อยู่หน้าประตู จากนั้นทหารยามจึงเชิญพวกนางเข้าไปอย่างเคารพนบนอบ

ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้านก็มีคนเข้ามาทักทาย

จางซื่อกับสวีซื่อให้หลินเมิ่งหวันกับคนอื่นๆ มาทักทายแสดงความเคารพ จากนั้นจึงพูดคุยกับเหล่าฮูหยินที่คุ้นเคยกัน ปล่อยให้พวกที่เด็กกว่าไปสนุกกันเอง

หลินอวิ้นอี๋กับหลินซิงโหรวต่างก็มีสหายสนิทและรีบไปรวมตัวกัน เพื่อนสนิทของหลินเมิ่งหวันยังมาไม่ถึง ดังนั้นนางจึงเดินดูไปรอบๆ พร้อมกับเฝ่ยชุ่ยและเจินจู

ชาติก่อนหลินเมิ่งหวันไม่เคยได้มาร่วมงานแข่งขันโปโล ดังนั้นนางจึงอยากจะดูให้เต็มที่

แม้ว่าจะเป็นงานแข่งขันโปโล แต่คนที่ออกไปเล่นโปโลได้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นแม่นางอู๋จึงจัดเตรียมอย่างอื่นไว้ที่หมู่บ้านนี้ด้วย

ในสวนดอกไม้มีดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งให้ ชวนให้คนมาชื่นชม

บริเวณพื้นหญ้านอกสวนมีลำธารสายเล็กไหลรินผ่านหมู่บ้าน พื้นที่ริมแม่น้ำเป็นพื้นที่ราบ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และมีสตรีในครอบครัวหลายคนกำลังเล่นว่าวกระดาษกันอยู่

ส่วนหลินเมิ่งหวันกำลังเดินอยู่บนเนินดิน

แม้ว่าจะเป็นเนินดินแต่ก็เป็นเนินดินที่จัดแต่งอย่างดี มีดอกไม้ประดับภูเขาเทียม มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม เป็นทิวทัศน์ที่ค่อนข้างสวยงาม

ทว่าความมหัศจรรย์ของที่นี่คือทางลาดลง

เนื่องจากมีการปิดกั้นของเนินลาดนี้ ที่โล่งตรงทางลาดจึงไม่ได้รับลมง่ายๆ และแม่นางอู๋ก็จัดสนามยิงธนูไว้ใต้ทางลาดเพื่อให้ผู้คนมายิงธนูเล่น

นอกจากนี้ยังมีการละเล่นปาลูกดอกลงเป้า ชู่จวี* เตะลูกขนไก่ และการละเล่นแบบต่างๆ (*ชู่จวีคือการละเล่นคล้ายๆ การเตะฟุตบอล)

แน่นอนว่าในสวนนี้ย่อมมีโต๊ะและม้านั่งจำนวนมาก มีผลไม้สดใหม่พร้อมน้ำชาและติ่มซำจัดเตรียมไว้ให้ ให้ทุกคนพูดคุยกันได้อย่างสะดวก

ยิ่งมองดู หลินเมิ่งหวันก็ยิ่งอดชื่นชมความคิดอันละเอียดลออของแม่นางอู๋ไม่ได้

ในเมืองหลวงไม่มีสถานที่ใดที่จะหาวิธีมาเล่นสนุกได้มากมายขนาดนี้

หรือไม่ เมื่อกลับไปแล้ว นางอาจจะลองหารือกับท่านย่า หาหมู่บ้านสักที่ทำแบบเดียวกันดูดีไหมนะ?

เหล่าขุนนางในเมืองหลวงก็น่าจะชอบมากเหมือนกัน

ขณะที่หลินเมิ่งหวันกำลังคิดอยู่นั้น เสียงเยาะเย้ยก็ดังเข้าหูของนางอย่างผิดกาลเทศะ

“หลินเมิ่งหวัน เจ้ายังคงไม่ยอมปล่อยโอกาสแม้สักนิดจริงๆ สินะ”

เวลานั้นหลินเมิ่งหวันคว้าปกคอเสื้อของหลี่เล่อหย่าผลักนางไปที่ขอบทางลาด!

ภายใต้แรงกำลังของหลินเมิ่งหวัน ร่างกายของหลี่เล่อหย่าจึงเอียงไปด้านหลังและยื่นให้มั่นคงไม่ได้

หากไม่ใช่เพราะหลินเมิ่งหวันจับนางไว้ หลี่เล่อหย่าคงจะหงายตกลงไปแล้วแน่ๆ

“เจ้าเชื่อหรือไม่ ว่าถ้าเจ้าพูดอีกเพียงคำเดียว ข้าจะปล่อยเจ้าลงไปทันที”

หลินเมิ่งหวันหลุบตามองหลี่เล่อหย่าพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าทางลาดนี้จะไม่สูงชัน แต่ถ้าตกลงไปอย่างไรก็ต้องบาดเจ็บแน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสนามยิงธนูมีบุรุษอยู่หลายสิบคน ถ้าหลี่เล่อหย่าตกลงไป นางจะต้องขายหน้าไปถึงครอบครัวแน่ๆ

หลี่เล่อหย่าจับแขนของหลินเมิ่งหวันไว้แน่นและตัวสั่นไปทั้งตัว “จะ... เจ้าอย่าบ้านะ! ปล่อยข้า!”

“โอ๊ะ ให้ปล่อยหรือ” หลินเมิ่งหวันยิ้มน้อยๆ และเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “ได้สิ”

ทันทีที่พูดแบบนั้น หลินเมิ่งหวันก็ปล่อยมืออย่างที่พูด

หลี่เล่อหย่ากรีดร้องและจับแขนของหลินเมิ่งหวันไว้แน่น ทว่าร่างกายก็ยังสั่นไหว ดินที่เหยียบอยู่บนขอบเนินแตกและตกลงไปบางส่วน

แน่นอนว่าหลินเมิ่งหวันไม่ได้คิดจะทำร้ายหลี่เล่อหย่าจริงๆ นางปล่อยมือแค่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงคว้าปกคอเสื้อของหลี่เล่อหย่าไว้ทันที

ในเวลาเดียวกัน หลินเมิ่งหวันก็ร้องตะโกนออกมาว่า “ใครก็ได้ช่วยด้วย คุณหนูหลี่กำลังจะตกลงไป รีบมาช่วยนางที! ขะ... ข้าจะจับไว้ไม่ไหวแล้ว รีบมาเร็วเข้า...”

แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องของหลี่เล่อหย่ากับเสียงตะโกนอย่างตกใจของหลินเมิ่งหวันย่อมดึงดูดความสนใจของทุกคน หลี่จิ่นซูเงยหน้ามองทันที เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดสีแดงงดงาม หัวใจของเขาก็เต้นรัวเหมือนกลอง

นั่นคือหลินเมิ่งหวัน!

เขาทิ้งธนูคันยาวในมือและรีบวิ่งไปยังเนินดินทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก