คิดไปคิดมาหลินเมิ่งหวันก็ตระหนักได้ แม้ว่าฉู่โม่หยวนจะส่งคนมาจับตาดูนาง แต่ข่าวก็ไม่มีทางส่งไปถึงเขาเร็วขนาดนี้
ตอนนี้ฉู่โม่หยวนอยู่ที่นี่แล้ว คงพูดได้ว่านางกับเขาใจตรงกัน
หลินเมิ่งหวันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว นางรีบจัดแจงตัวเองและไปที่โถงด้านหน้าพร้อมกับเจินจูและเฝ่ยชุ่ย
ไฟที่โถงด้านหน้าสว่างไสว ฉู่โม่หยวนกับหลินซ่างซูนั่งอยู่บนที่นั่งและไม่มีใครอื่นในจวนหลินอยู่อีกเลย
“ถวายบังคมจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ”
“ท่านพ่อ”
หลินเมิ่งหวันทักทายอย่างสุภาพ ทว่าสายตาของนางไม่ได้จับจ้องไปทางหลินซ่างซูเลย
เมื่อเห็นท่าทีของหลินเมิ่งหวัน สีหน้าของหลินซ่างซูก็อึมครึมทันที ทว่าเวลานี้ฉู่โม่หยวนอยู่ด้วย ดังนั้นหลินซ่างซูจึงออกตัวทำอะไรไม่ได้
ฉู่โม่หยวนมองหลินเมิ่งหวันตาไม่กะพริบ
เวลานี้นางแต่งกายอย่างเรียบง่ายโดยสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน เส้นผมสีหมึกถูกรวบไว้หลวมๆ และประดับด้วยดอกไม้ไข่มุกสีชมพูแค่ชิ้นเดียว
บนใบหน้าไม่มีการแต่งแต้มใดๆ คิ้วก็ไม่คมเข้มเท่าตอนกลางวัน ทว่ายิ่งมองก็ยิ่งดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์
หลินเมิ่งหวันเงยหน้ามองฉู่โม่หยวน “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงมาหาหม่อมฉันมีเรื่องอะไรหรือเพคะ”
ฉู่โม่หยวนส่งสายตาให้เสวียนยี จากนั้นเสวียนยีจึงรีบนำเอกสารไปส่งให้หลินเมิ่งหวันทันที
ฉู่โม่หยวนกล่าวว่า “ข้ารู้มาว่าเจ้ากังวลเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ดังนั้นจึงนำผลการสอบสวนมาให้เจ้าดู”
หลินเมิ่งหวันแปลกใจเล็กน้อย เอกสารจากสำนักตรวจการไม่เคยถูกเผยแพร่ออกมาข้างนอก แต่ฉู่โม่หยวนกลับนำมาได้นางดู?
หลินเมิ่งหวันรู้สึกปีติเล็กน้อยและไม่ได้นึกเขินอาย นางเพียงแค่ขอบคุณฉู่โม่หยวนและรับเอกสารมาจากมือของเสวียนยี จากนั้นจึงรีบอ่านอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นหลินเมิ่งหวันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย กว่าจะอ่านเอกสารจนจบ คิ้วของหลินเมิ่งหวันก็ขมวดจนเป็นปม
ฉู่โม่หยวนหลุบตามองหลินเมิ่งหวัน “เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร”
หลินเมิ่งหวันไม่ตอบและถามว่า “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยใช้การลงโทษสถานหนักหรือเพคะ”
ฉู่โม่หยวนบอกว่า “ก็ไม่ได้หนักนัก”
“เช่นนั้นข้าก็ไม่เชื่อ” หลินเมิ่งหวันเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาและยื่นเอกสารคืนให้เสวียนยี
หลินซ่างซูขมวดคิ้ว “เมิ่งหวัน อย่าพูดจาไร้สาระ!”
หลินซ่างซูมองฉู่โม่หยวนอย่างไม่สบายใจเพราะกังวลว่าฉู่โม่หยวนจะโกรธ
วิธีของสำนักตรวจการนั้นโหดเหี้ยม การดึงคำสารภาพออกมาล้วนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด แบบนี้หลินเมิ่งหวันจะถามตามใจชอบได้อย่างไร
เพียงแต่หลินเมิ่งหวันไม่ได้สนใจหลินซ่างซูเลยแม้แต่น้อย นางมองฉู่โม่หยวนและบอกว่า “หม่อมฉันไม่ได้สงสัยความถูกต้องของคำสารภาพเหล่านี้ เพียงแต่หม่อมฉันรู้สึกนี่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด”
“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ ดูจากคำสารภาพ ทุกอย่างดูเหมือนจะบังเอิญเกินไป นอกจากนี้เชียนฮู่ผู้นั้นยังลงแรงไปตั้งขนาดนั้น แต่ต้องการแค่ให้เซียงอ๋องซื่อจื่อขายหน้าน่ะหรือ” หลินเมิ่งหวันขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่เยียบเย็น
“เอาล่ะ ลองคิดดูเพคะ หากเชียนฮู่ผู้นั้นคิดเพียงแค่จะทำให้เซียงอ๋องซื่อจื่อเสียหน้าจริงๆ ก็ไม่น่าแปลกที่พวกเขาจะทำเรื่องเหล่านี้และแน่ใจว่าเซียงอ๋องซื่อจื่อจะถูกวางยาพิษ แต่พวกเขาแน่ใจได้อย่างไรว่าเซียงอ๋องซื่อจื่อจะตกจากหลังม้าตอนที่แข่งโปโลกับท่านพี่หกของข้าพอดี นอกจากนี้คนพวกนั้นยังกล่าวหาท่านพี่หกของข้า นั่นยิ่งมีเจตนาไม่ดีชัดๆ”
“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย หม่อมฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่พุ่งเป้าไปที่เซียงอ๋องซื่อจื่อเท่านั้น แต่ยังพุ่งเป้าไปที่จวนฉินด้วยเพคะ”
คำพูดของหลินเมิ่งหวันทั้งชัดเจนและหนักแน่น
เอกสารที่เสวียนยีมอบให้นางเมื่อครู่นี้คือคำสารภาพของผู้ต้องหา
วันนี้ฉู่โม่หยวนพาคนออกมาจากหมู่บ้านของแม่นางอู๋หลายคน และคำสารภาพเหล่านี้ก็ออกมาจากปากของคนสี่คน
คนหนึ่งเป็นคนรับใช้ในห้องอาหาร คนหนึ่งเป็นคนรับใช้ในห้องยาของหมู่บ้าน ยังมีอีกคนซึ่งเป็นพ่อบ้านคอยรับผิดชอบเรื่องการซื้อข้าวของภายในหมู่บ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก