ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 91

สรุปบท บทที่ 91 จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจับตาดูภรรยาอย่างใกล้ชิด: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก

บทที่ 91 จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจับตาดูภรรยาอย่างใกล้ชิด – ตอนที่ต้องอ่านของ ภพนี้ตราบภิรมย์รัก

ตอนนี้ของ ภพนี้ตราบภิรมย์รัก โดย ท้อเยาเยา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 91 จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจับตาดูภรรยาอย่างใกล้ชิด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บรรยากาศดี แสงอาทิตย์สวยงาม หลินเมิ่งหวันกลับมาสวนแสงอรุณ ทว่าหัวคิ้วนางกลับขมวดเป็นปม

เมื่อครู่นางไปรับพระราชเสาวนีย์ของฮองเฮา วันพรุ่งนี้ตอนเย็นฮองเฮาจะจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ เลยให้คุณหนูทั้งหลายของจวนหลินเข้าร่วมด้วย

หลินฮูหยินใหญ่ได้รับพระราชโองการแล้วจึงสั่งให้หลินเมิ่งหวันกลับไปสวนแสงอรุณเพื่อเตรียมตัว แต่หลินเมิ่งหวันกลับรู้สึกไม่สบายใจ

เมื่อชาติปางก่อนเวลานี้ ภายในพระราชวังน่าจะไม่มีงานเลี้ยงชมดอกไม้ ตอนนี้จู่ๆฮองเฮาก็มีพระราชโองการ ความเป็นจริงแล้วเพราะอะไรกันนะ?

นางค่อนข้างไม่สบายใจ คิดพิจารณาไตร่ตรองแล้วจึงสั่งให้เฉินเซียงไปดูสถานการณ์ทางด้านของฉู่โม่หยวนดู

ถึงอย่างไรฉู่โม่หยวนก็คือพระสวามีในอนาคตของนาง หลินเมิ่งหวันคิดว่า ตัวเองมีเรื่อง“ยุ่งยากลำบากใจ” ก็ควรที่จะไปหาว่าที่พระสวามีให้เขาช่วยเหลือ

คนที่ไม่สบายใจไม่เพียงแค่หลินเมิ่งหวัน ยังมีหลินเป้ยเหยาของสวนดอกบัวด้วย

เมื่อครู่หลินเป้ยเหยาก็ได้รับพระราชเสาวนีย์ของฮองเฮาเช่นกัน ถึงรู้ว่าตัวเองก็มีรายชื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงชมดอกไม้วันพรุ่งนี้

หากเป็นเมื่อก่อน แน่นอนว่าหลินเป้ยเหยาจะรู้สึกปลาบปลื้มดีใจอย่างมาก

แต่ตอนนี้ข่าวลือเรื่องหลี่อี๋เหนียงวางยาหลินฮูหยินใหญ่กำลังแพร่สะพัด หลินเป้ยเหยารู้สึกว่าตัวเองเข้าพระราชวังวันพรุ่งนี้ เกรงวางจะต้องถูกน้ำลายคนพ่นใส่จมตายแน่นอน

หลินเป้ยเหยากำผ้าเช็ดหน้าแน่น ร้อนรนจนดวงตาแดงก่ำ

นางกำลังถอดใจกลางคัน ไม่ค่อยอยากไปแล้วจริงๆ

แต่ทันใดนั้นหลี่อี๋เหนียงที่นอนอยู่บนเตียงได้คว้าจับข้อมือของนางไว้

หลินเป้ยเหยาชะงักงัน หลุบตามองไปทางหลี่อี๋เหนียง และสบตากันกับดวงตาอึมครึมคู่นั้น

“เหยาเอ๋อร์ เจ้าจะต้องเตรียมตัวดีๆนะ สวรรค์เอาใจใส่เราสองแม่ลูก วันพรุ่งนี้ก็คือสวรรค์ให้โอกาสพวกเรา!”

น้ำเสียงทุ้มต่ำอิดโรยของหลี่อี๋เหนียงทำให้หลินเป้ยเหยารู้สึกกดดันกังวล เมื่อมองท่าทางจริงจังของหลี่อี๋เหนียง หลินเป้ยเหยาเลยพยักหน้าด้วยความกังวล

ด้านในสวนแสงอรุณ หลินเมิ่งหวันกำลังเลือกชุดและเครื่องประดับ

เมื่อชาติปางก่อนหลินเมิ่งหวันเข้าพระราชวังหลายครา แน่นอนว่ารู้กฎธรรมเนียมภายในพระราชวัง

แต่เมื่อชาติปางก่อน นางไม่อยากอภิเษกสมรสกับฉู่โม่หยวน อยากให้คนมีเกียรติสูงศักดิ์ในพระราชวังรู้สึกว่านางไม่คู่ควรกับฉู่โม่หยวน เพราะฉะนั้นตอนเข้าพระราชวังเลยไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่ตอนนี้นางอยากมีชื่อเสียงที่ดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฮ่องเต้กับฮองเฮาจนกระทั่งทุกคนจะรู้สึกว่านางเป็นคนที่เหมาะสมกับจวนจิ่งอ๋อง เพราะฉะนั้นชุดเสื้อผ้าเครื่องประดับเลยลวกๆไม่ได้ และเกิดอะไรผิดพลาดไม่ได้ด้วย

หลินเมิ่งหวันขมวดคิ้วมองชุดเสื้อผ้าที่อยู่ภายในห้องเต็มไปหมด ส่วนเฝ่ยชุ่ยกับเจินจูก็ขมวดคิ้วไปด้วย

เฝ่ยชุ่ยถามว่า“คุณหนูรองเจ้าคะ ของเหล่านี้ท่านล้วนไม่ถูกใจหรือเจ้าคะ?”

หลินเมิ่งหวันส่ายหัว กล่าวว่า“สีสันฉูดฉาดเกินไป เรียบก็เรียบเกินไป ไม่ก็ง่ายต่อการแย่งดึงดูดความสนใจ ไม่ก็กดจนรั้งท้ายเกิน ไม่เหมาะเลยจริงๆ”

“คุณหนูรอง บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

หลินเมิ่งหวันเพิ่งจะกล่าวจบ เฉินเซียงก็เข้ามา

นางทำความเคารพหลินเมิ่งหวัน แล้วกล่าวอย่างต่อเนื่องว่า“คุณหนูรอง จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยก็มาเจ้าค่ะ พระองค์อยู่ห้องโถง ขอเชิญท่านไปพบเจ้าค่ะ”

หลินเมิ่งหวันตะลึงงัน “เหตุใดเขาถึงได้มาเองล่ะ?”

นางแค่ให้เฉินเซียงไปดูลาดเลาไถ่ถาม แล้วเหตุใดฉู่โม่หยวนถึงได้มาเอง?

หรือว่าการจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ครั้งนี้มีมูลเหตุอะไรเป็นพิเศษ?

นางไม่สบายใจหนักยิ่งขึ้น ไม่รอให้เฉินเซียงตอบ ก็ยกกระโปรงเดินออกไปเลย

ภายในห้องโถง ฉู่โม่หยวนกำลังนั่งลิ้มลองรสชาติน้ำชา มองเห็นหลินเมิ่งหวันมาแต่ไกล นัยน์ตาของฉู่โม่หยวนทอประกายความอบอุ่นออกมา

“น้อมเคารพจิ่งอ๋องเตี้ยเซี่ยเพคะ”หลินเมิ่งหวันเข้ามาแล้วทำความเคารพ มองฉู่โม่หยวนด้วยความไม่สบายใจกล่าวว่า”เหตุใดจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยถึงได้มาด้วยตัวเองเพคะ?”

ฉู่โม่หยวนวางจอกน้ำชาลง แต่ไม่รอฉู่โม่หยวนตอบกลับ พ่อบ้านก็เข้ามา

“ซื่อจื่อเชิญนั่งเพคะ เฝ่ยชุ่ย เอาน้ำชามาให้ซื่อจื่อด้วย”

ฉีเยี่ยนยิ้มกล่าวว่า“ข้าไม่นั่งแล้ว”

เขาส่งสายตาให้ผู้ติดตาม จากนั้นผู้ติดตามจึงยกกล่องผ้าไหมเดินมาด้านหน้า

ฉีเยี่ยนกล่าวว่า“วันนั้นที่งานแข่งขันโปโล ขอบใจคุณหนูหลินมากที่ช่วยชีวิต ฉีเยี่ยนได้จัดเตรียมของกำนัลสุดพิเศษมาให้ ขอคุณหนูหลินอย่าได้รังเกียจ”

“ซื่อจื่อเกรงใจเกินไปแล้ว วันนั้นเมิ่งหวันเพียงแค่ทำเรื่องเล็กน้อย “หลินเมิ่งหวันก็ไม่ได้เขินอาย ส่งสัญญาณให้เจินจูรับกล่องผ้าไหมมา

ฉีเยี่ยนยิ้มแล้วพยักหน้า ทำทีหันไปมองทางฉู่โม่หยวนเล็กน้อย แสยะริมฝีปากขึ้นกล่าวว่า”คุณหนูหลินทำเรื่องเล็กน้อย แต่วันนั้นฉีเยี่ยนคิดอยู่หลายหน นึกว่าคุณหนูหลินจำเรื่องราววัยเยาว์ของพวกเราได้ ถึงได้ลงมือช่วยเหลือ”  

“แคร็ก…..”

มือข้างที่จับจอกน้ำชาของฉู่โม่หยวนออกแรงบีบทันที และคิดไม่ถึงว่าจอกชาเคลือบสีขาวจะแตกละเอียดป่นปี้ในพริบตา

หลินเมิ่งหวันได้ยิน และเห็นจอกชาในมือฉู่โม่หยวนแตกละเอียด จึงรีบพุ่งเข้าหา กล่าวว่า”ระวังเพคะ”

จิตใต้สำนึกหลินเมิ่งหวันสั่งให้หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดให้ฉู่โม่หยวน เมื่อเห็นในมือของเขาไม่มีรอยบาดแผล จึงทอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

แต่หลินเมิ่งหวันคิดไม่ถึง สายตาอันเย็นชาของฉู่โม่หยวนจ้องมองที่ฉีเยี่ยน และยังมีสายตาตักเตือนและระวังตัวอีกด้วย

ฉีเยี่ยนเผชิญหน้ากับสายตาฉู่โม่หยวนอย่างแน่วแน่ ยิ้มให้กับเขา ปรากฎให้เห็นฟันขาวเป็นระเบียบสวยงาม

รอยยิ้มในดวงตาของเขาฉายแววชัดมากขึ้น แต่ทว่ากลับจงใจทำเป็นกล่าวด้วยห่วงใยว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยไม่ได้บาดเจ็บใช่หรือไม่?”

ได้ฟังได้เห็นฉู่โม่หยวนเอาใส่ใจหลินเมิ่งหวัน คิดไม่ถึงว่าจะเอาใจใส่ขนาดนี้ น่าสนใจจริงๆ

ฉู่โม่หยวนมองฉีเยี่ยนด้วยสายตาเย็นชา กอบกุมมือน้อยที่กำลังยุ่งพัลวันอยู่ของหลินเมิ่งหวัน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“มิเป็นไร”

การเคลื่อนไหวของหลินเมิ่งหวันชะงัก ออกแรงดึง เพราะอยากเอามือของตัวเองออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าฉู่โม่หยวนยิ่งออกแรง กอบกุมแน่นมากขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก