เบียงก้าโทรหาฌอง
อย่างไรก็ตาม เธอได้รับข้อความแบบเดียวกันจากระบบ “ขออภัยค่ะ หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
ทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกไม่สบายใจ
เธอหวังว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น
จากนั้น เธอก็โทรหานีน่า
นีน่ารับสายทันทีและถามว่า “มีอะไรเหรอ เพื่อนรัก?”
เบียงก้าจึงอธิบายทุกอย่างให้เธอฟัง
จากนั้นนีน่าก็กล่าวว่า “ฉันเดาว่าอาจจะมีใครบางคนเรียกแม่ไปเล่นไพ่นกกระจอกก็ได้นะ? เธอคงจะไม่รู้ แต่ตอนเล่นไพ่นกกระจอก แม่ชอบเก็บโทรศัพท์เอาไว้ในกระเป๋า แม่ก็เลยอาจไม่ได้ยิน ส่วนพี่ชาย ก็คงกำลังจะยุ่งอยู่แหละ”
เมื่อนีน่าพูดเช่นนั้น เบียงก้าจึงไม่คิดมากอีก
เบียงก้าวางโทรศัพท์ลงและเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ มันช่วยให้เธอสดชื่นมากขึ้น ในขณะที่เธอกำลังเป่าผม เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะกาแฟภายในห้องนั่งเล่นดังขึ้น
ฌองเป็นคนที่โทรเข้ามา
"สวัสดีค่ะพี่" เบียงก้ารับสายทันที
ฌองเงียบไปครู่หนึ่ง จนผ่านไปนาน ดูเหมือนว่าเขาจะกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้ก่อนที่เขาจะถามออกมาอย่างเย็นชาว่า “เบียงก้า เรย์น เธอมีผู้ชายซ่อนเอาไว้ลับหลังพี่กี่คน?”
“อะไรนะ…พี่หมายความว่ายังไง? ฉันซ่อนผู้ชายเอาไว้ลับหลังพี่เหรอ?” เขาเอ่ยถามเช่นนี้อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ดังนั้นเบียงก้าจึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
ฌองขึ้นเสียงขึ้นอย่างกะทันหัน เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเขาแหบห้าว “เธอยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอยู่อีกเหรอ! เบียงก้า เรย์น จู่ ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนผมไม่รู้จักเธอเลย บอกผมทีว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นยังไงกันแน่!”
เบียงก้ากำโทรศัพท์ในมือแน่น
ฌองยังคงยืนยันในคำพูดของเขา เขาตะคอกเสียงดังเพื่อบอกว่าทั้งหมดนี้มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา “บอกผมมาสิว่าผมเป็นใครในสายตาคุณ? ที่ซุกหัวนอนหลังจากที่เธอเสร็จกิจเหรอ? ตัวสำรองไม่มีคนเอาเหรอ? หรือว่าพวกหน้าซื่อที่ดีแต่จะโดนคนอื่นหักหลังอย่างนั้นน่ะเหรอ?”
เสียงโกรธของฌองเป็นดั่งใบมีดน้ำแข็งที่บินผ่านโทรศัพท์และพุ่งเข้าไปในโสตประสาทของเบียงก้า
“ใจเย็นก่อนได้ไหม? พี่แน่ใจนะว่าพี่ไม่ได้เข้าใจอะไรผิด?” เบียงก้าขมวดคิ้ว ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปทันที
ฌองหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา เขาก่นด่าเธอ "เข้าใจผิดเหรอ? เข้าใจผิดกะผีน่ะสิ! ตอนนี้ ผมเกลียดตัวเองที่เป็นโง่เง่าแบบนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะเชื่อใจเธออย่างไม่มีข้อสงสัยได้นานขนาดนี้ ผมเกลียดที่ผมไม่เชื่อในสิ่งที่มาลีพูดเมื่อตอนที่เราอยู่ที่ต่างประเทศ เบียงก้า มาลีไม่ได้โกหกใช่ไหม? เธอเคยนอนกับผู้ชายคนอื่นลับหลังผมตอนที่เราไปเรียนที่ต่างประเทศ”
ประโยคสุดท้ายของเขาเป็นคำพูดที่ไม่ใช่คำถาม
คู่ครองของเธอ คนที่เธอควรจะเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ร่วมกับเขากำลังสงสัยในความซื่อสัตย์ของเธอในตอนนี้ คุณจินตนาการถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ไหม?
เบียงก้าเดือดดาลมากจนมือของเธอสั่น
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ฌองก็พูดเสริมอย่างดุเดือดว่า “ตอนที่เราไปต่างประเทศ เธอเอาแต่พูดเพื่อให้ผมออกไป ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดใช่ไหม? พอมาคิดดูอีกที มันมีช่องโหว่มากมายในชีวิตของเธอ! ถ้าคุณทำงานหลายงานในเวลาเดียวกันจริง ๆ อย่างที่คุณบอก แล้วทำไมผมถึงไม่เคยเห็นรอยคล้ำใต้ตาของเธอเลยล่ะ?”
"แล้วไง? ถ้าพี่คิดว่าฉันโกหกตอนที่ฉันกำลังทำงานอยู่ แล้วพี่คิดว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ?” เบียงก้าขมวดคิ้วมากขึ้น
ฌองลดเสียงต่ำลง “ต้องการให้บอกจริง ๆ เหรอ”
"พูดมาเลย ฉันต้องการได้ยิน” เบียงก้ากล่าว
“ในเมื่อเธอต้องการ ผมก็จะสนองให้” ฌองบอกกับเธอตามที่มาลีบอกกับเขาเมื่อสี่ปีก่อนและเป็นสิ่งที่เขาไม่เชื่อมาลีในตอนนั้น “เธอคบกับผู้ชายตั้งหกคนตลอดห้าปีนั้น ซึ่งสี่คนในนั้นแต่งงานหมดแล้ว! พวกเขาเก็บเธอเอาไว้เป็นเป็นตุ๊กตาหน้ารถ แถมยังส่งเสียค่าเล่าเรียนกับสอนภาษาให้กับเธออีก เธอยังกล้าไปทำแท้งลูกของพวกนั้นด้วย ถูกหมดไหม?”
ในนาทีนั้น วินาทีนั้น เบียงก้ารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอหยุดเต้น
เธอก้มหน้าลงและมองดูแหวนหมั้นบนนิ้วของเธอ น้ำตาอันร้อนผ่าวพลันไหลรินจากดวงตา
พวกเขาทั้งสองหมั้นหมายกันยังไม่ถึงสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้คู่หมั้นของเธอกลับโทรมากล่าวหาเธอ
ทุกคนรู้ดีว่าชื่อเสียงของผู้หญิงนั้นมีความสำคัญมากเพียงใด เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย เพียงเพราะมาลีพูดเรื่องไร้สาระให้เขาฟัง เขาจึงตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวว่าเธอมีความผิดมากมาย...
ความไม่ไว้วางใจเป็นอย่างมากจากคู่หมั้นของเธอได้ทำร้ายเธอมากเท่ากับการถูกทรยศ
ฌองยังคงสอบสวนเธออยู่ โดยถามเธอว่าผู้ชายที่อยู่นอกบ้านเป็นใคร เขายังบอกอีกว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะแม้แต่เดซี่คนเก่าแก่ในละแวกบ้านของเธอเองก็ยังเห็นพวกเขาคาตา!
เบียงก้าวางสายทันทีโดยไม่ได้พูดอะไร เธอไม่อยากได้ยินคำอื่นอีกต่อไป
โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก