"ปีกกล้าขาแข็ง ขุนนางไม่เหมือนขุนนาง ลูกชายไม่เหมือนลูกชาย!" ไทเฮามีสีหน้าโกรธเคือง ชี้ไปที่พวกเขา ด้วยนิ้วมือสั่นระริก "เอาคนมา ลากตัวพวกเขาออกไป เอาไปขังที่กรมอาญา ส่วนดาวหายนะคนนี้นำตัวไปประหารชีวิต!"
"ช้าก่อน" ฉับพลันฝ่าบาทก็เอ่ยออกมา พลางสงบสติอารมณ์ของไทเฮาไปด้วย และกล่าวไปด้วย "พวกเขาทั้งสามไม่เจียมตัว ก็ยังยอมรับได้ เพียงแต่ ที่เจ้าสามพูดไม่ใช่สิ่งที่ไร้เหตุผล ยัยหนูคนนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตเขาเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตกระหม่อมด้วย หากไม่มีนาง คาดว่าเสด็จแม่ก็คงไม่ได้เห็นกระหม่อมแล้ว"
"ถุยๆๆ ......นี่ฝ่าบาทพูดอะไรกัน คงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก หรือว่านางเป็นคนเดียวในโลกที่รู้ทักษะทางการแพทย์ ข้าว่านะ เจ้าก็ถูกดาวหายนะทำให้ลุ่มหลงแล้วเช่นกัน"
"ในตอนนั้นหมอหลวงของสำนักหมอหลวงอับจนหนทางต่ออาการเจ็บป่วยของกระหม่อมแล้ว ด้วยการแทงเข็มสองสามเข็มของยัยหนูคนนี้ กระหม่อมจึงสามารถลุกจากเตียงได้ ใครในโลกนี้จะมีทักษะทางการแพทย์เหมือนนาง ข้าไม่ได้พูดเกินจริงนะ ไม่แน่ว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็นคนที่ท่านนักบวชพบเจอโดยบังเอิญ และไม่แน่ว่าอาจจะไม่ใช่ดาวหายนะ เป็นท่านนักบวชที่พูดมั่วไปเอง"
นักบวชเต๋าหนวดเครายาวอยู่ข้างๆ ได้ยินเช่นนี้ ชั่วขณะก็รู้สึกประหม่า จึงเหลือบมองไปที่ฮองเฮาโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นฮองเฮาก็ตกตะลึง กลัวว่าเขาจะปล่อยไก่จึงรีบส่งสายตาไปที่เขา นักบวชเต๋าจึงบังคับตนเองให้สงบสติลงดังเดิม
"ข้าน้อยมุ่งแต่ทำความดี ไม่สามารถเอาชีวิตของคนอื่นมาล้อเล่นได้
ไทเฮาเห็นเช่นนี้ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเสียใจ กลัวว่าจะผิดใจกับเทพเจ้า จึงรีบกล่าวว่า "อย่าตำหนินักบวชเต๋า"
หลังจากพูดจบ ก็มองไปที่ฝ่าบาทด้วยสีหน้าไม่พอใจ "มิน่าเล่าดาวหายนะคนนี้ถึงได้ทำให้คนลุ่มหลงได้ ฝ่าบาทอย่าได้พูดเช่นนี้อีก มันจะทำให้เทพเจ้าไม่สบายใจได้ ร่างกายของข้าไม่สำคัญหรอก แต่ประเทศชาติไม่สามารถสั่นคลอนได้!"
"เอาคนมา รีบนำตัวคนเหล่านี้ออกไป ใครขัดขวางก็จับตัวไปด้วย แล้วรอการลงโทษ!" ในน้ำเสียงของไทเฮามีความแน่วแน่อย่างไม่อาจต้านทานได้ ดูน่าเกรงขามอย่างมาก
ฮองเฮากับซ่างกวนเย็นเห็นเช่นนั้น ในใจก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุข
ฉู่เนี่ยนซี สุดท้ายเจ้าก็ต้องจบสิ้นแล้ว
เย่เฟยหลีมององครักษ์ที่พรั่งพรูเข้ามา ในสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความเฉียบขาดและเย็นชา มายืนอยู่ตรงหน้าฉู่เนี่ยนซี ราวกับว่าพวกเจ้ากล้าแตะต้องนาง ก็จะต้องตาย
ซ่างกวนเย็นกัดฟันแน่นคุกเข่าอยู่ด้านล่างแน่น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความดุร้าย แทบอยากจะกลืนกินฉู่เนี่ยนซีเข้าไป
"อ๋องหลี เจ้าคิดที่จะกบฏต่อพระราชโองการหรือ?" ฮองเฮากล่าวตำหนิด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด แต่ในใจกลับหัวเราะอย่างมีความสุข
ทะเลาะกันเถอะ ยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งดี ทางที่ดีที่สุดคือทำให้ไทเฮารังเกียจเย่เฟยหลี
ฉู่เนี่ยนซีมองเห็นความลำพองใจในสายตาของนาง จึงดึงแขนเสื้อของเย่เฟยหลี "ข้าเอาอยู่ วางใจเถอะ"
เย่เฟยหลีเห็นความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ในสายตานาง ลังเลเล็กน้อย และถอยออกไปสองก้าว
มุมปากของฉู่เนี่ยนซีเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย มองไปยังไทเฮา "ไม่ว่าซีเอ๋อร์จะพูดมากเพียงใด ไทเฮาก็คิดว่าข้าเพียงแค่เถียงข้างๆ คูๆ หลอกลวงยุยงให้คนเข้าใจผิด เพียงแต่ความจริงน่าเชื่อถือกว่าข้อโต้แย้ง อย่างที่หม่อมฉันพูดไปเมื่อครู่นี้ เทพเจ้าบอกกับข้าว่า หากเขาทำเรื่องที่เลวทรามโหดร้าย จะต้องได้รับการลงโทษจากเทพเจ้าอย่างแน่นอน และหม่อมฉันคิดว่ากำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้"
ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้ใช้คำพูดที่เคารพเลื่อมใส เวลานี้แทบจะไม่สนใจมารยาทในราชสำนักใดๆ ท่าทางดูมั่นใจ จนทำให้องครักษ์ตกตะลึงอยู่กับที่ มองไปที่ไทเฮา ไม่รู้ว่าจะต้องลงมืออย่างไร
ไทเฮาขมวดคิ้วแน่น มองไปที่ท่านนักบวช ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อเขา แต่การแสดงออกของฉู่เนี่ยนซีดูเย็นชาและแน่วแน่เกินไป ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะระแวงสงสัย
นักบวชเต๋าระงับความประหม่าเอาไว้ในใจ ฉับพลันก็สะบัดแส้ขึ้นลง "ข้าน้อยไม่เคยทำเรื่องเลวทรามไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จะต้องสงบสุขและราบรื่นอย่างแน่นอน เพียงแต่วันนี้เป็นวันที่ไม่ดีของดาวหายนะอย่างเจ้า หากจะโทษก็ต้องโทษเจ้าที่ทำให้พื้นฐานประเทศชาติของแคว้นปู้เย่แห่งนี้ต้องล่าช้าเสียเวลา
เมื่อไทเฮาได้ยินคำว่าพื้นฐานประเทศชาติ ก็เริ่มมีสีหน้าลังเลสงสัย แต่ฉับพลันก็แน่วแน่ขึ้นมา โบกๆ มือให้กับองครักษ์
องครักษ์ได้รับคำสั่ง ก็ทยอยเข้าไปทางด้านหน้า
แต่จู่ๆ ฉู่เนี่ยนซีกลับหัวเราะขึ้นมา "ฮ่าๆ ......"
"เจ้าหัวเราะอะไร!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี
Please Update for your lovely fan club...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้ทางทีมงามอัพเดททุกวันเลยค่ะ😭...
แอดช่วยอัพต่อให้ด้วยนะคะ...
ทีมงานสู้ๆๆๆๆ จะติดตามต่อไป...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ใจจดใจจ่อรออ่านอยู่ค่ะ...
รอๆๆๆค่ะ เมื่อไรจะอัพให้...
อยู่ๆก็อัพอ่ะแอด 😓...
114 รบกวนอัพเดตต่อให้ด้วยค่ะ รออ่านต่อนะคะ...
ลงตอนเดียวเองหรอค่ะ...