พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 78

เนื่องจากความร้อนใจ ดังนั้นคนหลายคนจึงตรงเข้าไปในห้องด้านใน เมื่อนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ จ้าวเฉิงฉายก็ตรงไปเปิดหน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทอยู่สักพักหนึ่ง และอากาศในห้องก็ดีขึ้นมาก

ในขณะนี้เถ้าแก่จ้าวนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าดำคล้ำ แม้แต่ริมฝีปากก็ยังดำ

ฉู่เนี่ยนซีหลอกตา มองดูสีม่านตาอีกครั้ง แล้วยืดตัวตรง

“เถ้าแก่จ้าวมีปัญหาเกี่ยวกับตับ การทำงานของตับลดลงอย่างมาก และสมรรถภาพทางกายของเขาลดลงด้วย เป็นสาเหตุทำให้ไข้ขึ้น”

ฉู่เนี่ยนซีพยายามใช้คำพื้นฐานที่สุดเพื่ออธิบายให้พวกเขาฟัง อันที่จริงกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเถ้าแก่จ้าวเป็นโรคตับแข็ง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่สำนักการแพทย์ นางพบว่าเถ้าแก่จ้าวสีหน้าเหลือง และในดวงตาก็ขุ่นมัว บางครั้งในขณะพูดเขาจะเอามือไปจับบริเวณตับ นางจึงสรุปได้ว่าตับของเขาผิดปกติ แต่ในตอนนั้นนางแค่เตือนด้วยความหวังดี แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ

ในตอนนี้ตับของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่โชคดีที่ยังไม่กลายเป็นมะเร็งตับ มิเช่นนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มียาแผนปัจจุบัน แม้ว่านางจะรักษาได้ ก็ต้องใช้ความพยายามพอสมควร

“ตับ! เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี” เมื่อได้ยินว่ามีปัญหาเกี่ยวกับตับ นางจ้าวก็เหมือนถูกฟ้าผ่าอย่างฉับพลัน แม้ว่านางจะไม่รู้วิชาแพทย์ แต่ก็เคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง นางรู้ว่าอวัยวะตันทั้งห้ามีความสำคัญต่อมนุษย์ และตับก็เป็นหนึ่งในอวัยวะตันทั้งห้า แน่นอนว่าสำคัญเช่นกัน

คราวนี้จ้าวเฉิงฉายใจเย็นลง และถามด้วยสีหน้ากังวลว่า “หมอเทวดา ท่านพ่อของข้ายังสามารถรักษาได้หรือไม่?”

“แน่นอน มิเช่นนั้นข้าคงไม่มา” ฉู่เนี่ยนซีกล่าวเบาๆ ด้วยสีหน้าเมินเฉย

หมอเทวดาเฮ่อหลันเคยเห็นความเมินเฉยและความชำนาญในการรักษาโรคของนางมาหลายครั้งแล้ว เขาจึงไม่แปลกใจเหมือนก่อนหน้านี้ ในขณะนี้เขามองไปที่นางด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

หากทำให้ผู้คนเห็นว่าหมอเทวดาเฮ่อหลันที่มีชื่อเสียง มองคุณชายที่อายุน้อยผู้หนึ่งด้วยสายตาเช่นนี้ ผู้คนจะต้องตกใจอย่างแน่นอน

“ลำดับต่อไป ข้าจะฝังเข็มให้เถ้าแก่จ้าว เพื่อปรับสมดุลการสันดาปของตับ รบกวนฮูหยินจ้าวพาหยูหนานไปต้มยาก่อนเถิด”

เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในตอนนี้นางจ้าวจึงไม่กล้ารอช้า รีบทักทายหยูหนานและไปที่ห้องครัวด้วยกัน

เมื่อเห็นว่านางกำลังจะฝังเข็ม หมอเทวดาเฮ่อหลันก็ประคองเถ้าแก่จ้าวขึ้นมา และทำให้จ้าวเฉิงฉายตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติ เขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใสฉู่เนี่ยนซีมากยิ่งขึ้น คนที่สามารถทำให้หมอเทวดาเฮ่อหลันเต็มใจที่จะเป็นลูกมือ คงมีเพียงแค่ฉู่เนี่ยนซีคนเดียวเท่านั้น

ฉู่เนี่ยนซีกับเขาทั้งสองดูเหมือนจะเคยชินเป็นเรื่องปกติ และไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ในเวลานั้นยาใส่เม็ดสีม่วงเข้าไปในปากของเขา

นี่เป็นยาเม็ดล่าสุดที่นางทำขึ้นมา สามารถปรับสมดุลภายใน ลดการอักเสบ และเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าใช้ได้กับคนไข้ทุกคน

จากนั้นนางก็หยิบถุงเข็มเงินออกมาและเปิดออก เข็มเงินที่มีความยาวต่างกันถูกจัดเรียงไว้อย่างหนาแน่น

นางหยิบออกมาทีละเล่ม และฝังไปตามจุดฝังเข็มบนร่างกายของเถ้าแก่จ้าวตามลำดับ หมอเทวดาเฮ่อหลันที่อยู่ด้านข้างหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาในทันที และจดบันทึกอย่างรวดเร็ว

ผู้คนต่างพากันตกตะลึง ดูเหมือนว่าจ้าวเฉิงฉายจะปรับตัวได้แล้ว ไม่นานเขาก็สงบลงและมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียงครึ่งตัวอย่างไม่กะพริบตา

เข็มเงินแทงเข้าลงไปบนร่างกาย และเมื่อเวลาผ่านไป สีหน้าของเถ้าแก่จ้าวก็ค่อยๆ มีเลือดฟาดขึ้นมา

ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ขนตาของเถ้าแก่จ้าวก็ขยับ จากนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

“ท่านพ่อ! ท่านฟื้นแล้ว!” จ้าวเฉิงฉายรีบก้าวไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น

เถ้าแก่จ้าวมองไปที่บุตรชายของตนเอง จากนั้นเมื่อเห็นฉู่เนี่ยนซีอย่างชัดเจน ในดวงตาที่ประหลาดใจก็ฉายแววแห่งความอับอาย

“คุณชายซี......”

“บนร่างของท่านยังมีเข็มแทงอยู่ อย่าขยับ” เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะลุกขึ้น ฉู่เนี่ยนซีก็รีบห้าม

เถ้าแก่จ้าวกวาดสายตามองไปบนร่างของตัวเอง และส่ายหัวด้วยความละอายใจ “ข้าละอายใจ ข้าแซ่จ้าวรู้สึกละอายใจยิ่งนัก คุณชายซีช่างใจกว้าง ไม่เพียงแต่ไม่สนใจความผิดพลาด แต่ยังพยายามช่วยรักษาอย่างสุดความสามารถ ในขณะนั้นสติเลอะเลือน ถึงได้ทำเรื่องที่ชั่วช้าเช่นนี้!”

“ท่านไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง สาเหตุที่ข้ารักษาโรคให้ท่านก็เป็นเพราะท่านสอนลูกให้กตัญญู ส่วนอื่นๆ ท่านยังต้องจ่ายค่ารักษา”

เมื่อพูดถึงค่ารักษา ใบหน้าของเถ้าแก่จ้าวก็ปรากฏร่องรอยที่ไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก ข้างนอกก็มีเสียงดังเอะอะ

“ฮูหยิน ท่านให้พวกเราเข้าไปหาเถ้าแก่จ้าวเถอะ”

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ให้พวกเจ้าเข้ามา แต่หมอเทวดากำลังรักษาอยู่ พวกเจ้าลานักปราชญ์แล้วหรือไม่ ถึงได้วิ่งมาที่นี่”

เมื่อจ้าวเฉิงฉายได้ยินก็พยักหน้าขอโทษฉู่เนี่ยนซีและเดินออกไป

ไม่นานเสียงดังเอะอะข้างนอกก็หยุดลง หลังจากนั้นจ้าวเฉิงฉายและคนอื่นๆ ก็เข้ามา

หยูหนานเดินไปข้างๆ ฉู่เนี่ยนซี และกล่าวเบาๆ “ได้ยินมาว่าเถ้าแก่จ้าวช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนเหล่านั้น ให้พวกเขารวมตัวกันและเชิญนักปราชญ์มา วันนี้เมื่อได้ยินว่าเถ้าแก่จ้าวป่วย ดังนั้นจึงมาเอะอะโวยวาย”

ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้น ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่นางจ้าวบอกว่าช่วยเหลือขอทานก่อนหน้านี้ จะเป็นเช่นนี้

ไม่เพียงแต่ให้ข้าวให้น้ำเท่านั้น แต่ยังสิ้นเปลืองเงินทองเชิญนักปราชญ์มาให้ความรู้แก่พวกเขาอีกด้วย

สิ่งนี้ทำให้ฉู่เนี่ยนซียิ่งแน่ใจว่าไม่ได้ช่วยคนผิด

ในเวลานี้เมื่อเห็นว่าเถ้าแก่จ้าวฟื้นแล้ว นางจ้าวก็ปิดปากด้วยความไม่อยากจะเชื่อ น้ำตาไหลพราก และไม่พูดไม่ออกอยู่นาน

เถ้าแก่จ้าวชำเลืองมองนาง และในดวงตาก็สั่นไหว “เอาล่ะ ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวจะทำให้หมอเทวดาขบขัน”

นางจ้าวรีบเช็ดน้ำตาและดึงจ้าวเฉิงฉายให้คุกเข่าลงบนพื้น

“ก่อนหน้านี้ข้าล่วงเกินท่านไว้มาก แต่หมอเทวดาไม่ถือสาหาความ และรักษาสามีของข้า ข้าและบุตรชายของข้า ขอกราบไหว้ท่าน! หากมีชาติหน้าจะเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของท่าน”

ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้ห้ามพวกเขา นางยืนตัวตรงและยอมรับการกราบไหว้อย่างสงบ

เพราะนางรู้ว่าหากห้าม ก็มีแต่จะจะทำให้ครอบครัวนี้ต้องแบกรับภาระ

หลังจากที่ทั้งสองกราบไหว้แล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็ประคองนางจ้าวขึ้นมา

“ฮูหยินรีบป้อนยาให้เขาเถิด ดื่มแล้วจะได้ถอนเข็ม”

“อ้อ! ได้!” นางจ้าวดูตื่นเต้น และรีบหยิบยาบนโต๊ะมาป้อนให้เถ้าแก่จ้าวอย่างระมัดระวัง

“วันนี้หลังจากเริ่มฝังเข็มแล้ว ต้องรับพักผ่อน อย่าเคลื่อนไหวมากเกินไป แล้วอีกสามวันข้าจะมาฝังเข็มทุกวัน หลังจากนั้นก็กินยาระยะยาว ใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนก็น่าจะหายดีแล้ว”

ฉู่เนี่ยนซีถอนเข็มไปพลางกำชับไปพลาง

เถ้าแก่จ้าวดูละอายใจ พูดอึกๆ อักๆ และเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

ฉู่เนี่ยนซีเห็นความกังวลของเขาอย่างชัดเจน เงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า “ตอนนี้กิจการของหอชุบชีวิตคงไม่ค่อยดีนัก ไม่ทราบว่าเถ้าแก่จ้าวยินดีที่จะมาทำงานที่สำนักการแพทย์หรือไม่ ข้าต้องการรองผู้ดูแลอยู่พอดี”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา แค่คิดก็จินตนาการได้ถึงสีหน้าของเถ้าแก่จ้าวและคนอื่นๆ แม้ว่าตอนนี้เขาจะอ่อนแรง แต่เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงดังขึ้นเล็กน้อย

“คุณชายซีหมายความว่าจะจ้างข้าไปเป็นรองผู้ดูแล? แม้ว่าข้าน้อยจะเป็นเถ้าแก่ของหอชุบชีวิต แต่หอชุบชีวิตก็ไม่ใหญ่เท่ากับหนึ่งในสิบของสำนักการแพทย์”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี