พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 79

“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องกังวล เดี๋ยวก็ชิน ส่วนค่ารักษาและค่ายา คิดว่าเถ้าแก่จ้าวคงไม่มี เอาไว้ค่อยหักจากค่าแรง ว่าอย่างไร?”

เถ้าแก่จ้าวก็เข้าใจเจตนาของนาง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณ แม้แต่รอบดวงตาก็แดง

“ต่อไปชีวิตของจ้าวจงจะเป็นของคุณชายซี ผู้แซ่จ้าวไม่ต้องการค่าจ้าง ข้ายินดีลงนามสัญญาทาส ต่อจากนี้ไปคุณชายซีจะเป็นเจ้านายของข้า!” เถ้าแก่จ้าวบีบบังคับให้ตัวเองคุกเข่าลงด้วยสีหน้าจริงใจและเด็ดเดี่ยว โดยไม่คำนึงถึงร่างกายที่อ่อนแอ

แน่นอนว่าฉู่เนี่ยนซีและคนอื่นๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะเลือกทำเช่นนี้ การลงนามสัญญาทาสเป็นการขายตัวเอง ต่อไปจะไม่มีสิทธิมนุษยชน และต้องเป็นทาสไปตลอดชีวิต ฉู่เนี่ยนซีให้เขาอะไร เขาก็ต้องทำ

สิ่งนี้ทำให้ฉู่เนี่ยนซีประหลาดใจ และรู้สึกว่าตนเองไม่ได้มองผิดไป จากนั้นก็ยิ้มและพูดหยอกล้อ “หากข้าเดาไม่ผิด บุตรชายของท่านเตรียมที่จะจอหงวน หากสอบติด แล้วถึงเวลานั้นมีพ่อเป็นทาส คงจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะ อีกอย่างข้าก็ไม่ต้องการทาส หากท่านรู้สึกว่าติดค้างข้า เช่นนั้นช่วยข้าดูแลสำนักการแพทย์ให้ดีก็พอแล้ว!”

เถ้าแก่จ้าวมองไปที่จ้าวเฉิงฉายอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็นึกถึงสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดและพยักหน้า “ตกลง แม้ว่าจะไม่ลงนามสัญญาทาส แต่ต่อไปตระกูลจ้าวของข้าก็จะถือว่าคุณชายซีเป็นเจ้านาย เฉิงฉายเจ้าต้องจำเอาไว้นะ!”

“ลูกจะจำให้ขึ้นใจ!”

ฉู่เนี่ยนซีไม่ชอบการขอบคุณกันไปกันมา ดังนั้นหลังจากฝากฝังเพียงไม่กี่คำ นางก็จากไป

ทันทีที่พวกเขามาถึงหน้าประตูสำนักการแพทย์ หยูตงก็รีบร้อนมาต้อนรับ

“นายท่าน ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมด้านในถึงได้วุ่นวายเช่นนี้” ฉู่เนี่ยนซีมองเข้าไปในสำนักการแพทย์ ในเวลานี้กลายเป็นเรื่องยุ่งเหยิง และเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้น

“เมื่อเช้านี้ยังดีๆ อยู่ หลังจากกินอาหารเที่ยง เจ้าหน้าที่ของเรากับหมอก็เริ่มปวดท้องและอ่อนแรง”

“ตรวจสอบอาหารเที่ยงแล้วหรือไม่?”

“ตรวจสอบแล้วขอรับ ไม่มีปัญหา ไม่เพียงเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานแขกที่เข้ามาทีหลังก็เริ่มมีอาการปวดท้องด้วย”

ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้ว จากนั้นมองไปที่หยูตงอีกครั้ง “แล้วทำไมเจ้าไม่เป็นอะไร?”

“บังเอิญเมื่อตอนเที่ยงข้าน้อยออกไปข้างนอก พอกลับมาก็เห็นคนนอนอยู่เต็มพื้น ดังนั้นจึงให้กินยาล้างพิษที่ท่านให้ไว้”

“เข้าไปดูกันก่อนเถอะ” ในขณะพูดฉู่เนี่ยนซีก็กลืนยาล้างพิษลงไป และเข้าไปในสำนักการแพทย์ก่อน

“อา……ปวด……”

“รีบช่วยข้าด้วย……”

“อา……”

ทันทีที่เข้าไปในสำนักการแพทย์ เสียงคร่ำครวญและเสียงร้องก็ชัดเจนยิ่งขึ้น

เนื่องจากยาล้างพิษไม่สามารถถอนพิษได้ จึงทำได้เพียงควบคุมการดูดซึมของพิษ ดังนั้นในตอนนี้แม้ว่าคนกลุ่มนี้จะกินยาล้างพิษไปแล้ว แต่ก็จะไม่ได้ผล

ฉู่เนี่ยนซีนั่งลงยองๆ มองไปที่ผู้คนบนพื้น และขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

ชีพจรสงบนิ่ง......ไม่เหมือนถูกพิษ

แต่หากไม่ถูกพิษ ทำไมคนจำนวนมากถึงได้มีอาการพร้อมกัน

“หยูตง ไปเอาอาหารเมื่อเที่ยงมา”

“ขอรับ! ” หยูตงตอบรับและเดินไปด้านใน

หลังจากนั้นไม่นานก็ขำถ้วยมา ฉู่เนี่ยนซีรับถ้วยมาและทำการตรวจสอบ

ทันใดนั้นคำศัพท์ก็ปรากฏขึ้นในหัว “ชื่อ:ดอกไม้โลกีย์ ระดับพิษ:พิษที่คุณสมบัติไม่ชัดเจน ไร้สีไร้กลิ่น ไม่สามารถวินิจฉัยได้ด้วยวิธีแบบเดิมๆ อาการ: ปวดท้อง แขนขาอ่อนแรง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้คน ส่วนผสมของยา......วิธีถอนพิษ……”

ฉู่เนี่ยนซีจดจ่อกับคำศัพท์ในหัว และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้ แต่ไม่เป็นอันตราย?

หากบุกมาที่สำนักการแพทย์ก็สามารถวางยาพิษร้ายแรงได้โดยตรง แต่กลับวางยาพิษเช่นนี้ เพียงแค่จะทำให้สำนักการแพทย์เกิดวุ่นวายเท่านั้น

เป็นเพราะเหตุใดกันแน่? หรือว่าเป็นแค่การเล่นตลก?

หากบอกว่าคนในสำนักการแพทย์ได้รับพิษจากอาหารที่กินเข้าไป แล้วคนที่เข้ามาทีหลังล่ะ? จะถูกพิษได้อย่างไร?

ช่างเถอะ ถอนพิษก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ในขณะคิดฉู่เนี่ยนซีก็เดินไปที่หน้าตู้กระจก เขียนตัวยาบางอย่างลงบนกระดาษ แล้วส่งให้หยูตง “ต้มตัวยาเหล่านี้แล้วแบ่งให้ทุกคนดื่ม”

หลังจากมอบใบสั่งยาให้หยูตงแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็ยังคงสังเกตอาการของผู้ป่วย รวมถึงความผิดปกติของสำนักการแพทย์

หลังจากนั้นไม่นาน หยูตง หยูหนาน เฮ่อหลัน และคนอื่นๆ ก็นำยามาและป้อนให้ทุกคน

“เอ่อ......ปวดมาก”

“ปวด......หนาว......”

หนาว? ฉู่เนี่ยนซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปยังคนที่พูด ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ตรวจดูอาการของเขา และตกใจในทันที

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งป้อน”

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของฉู่เนี่ยนซีก็หยุดชะงัก จากนั้นเห็นนางเดินผ่านฝูงชน และแยกย้ายกันไปตรวจดู

ที่แท้คนเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกพิษแบบเดียวกัน

พิษของดอกไม้โลกีย์ เพียงแค่ทำให้แขนขาอ่อนแรงและปวดท้อง ไม่สามารถทำให้รู้สึกหนาว หรือแม้แต่ทำให้เหงื่อออกเพราะความเจ็บปวด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ในหมู่พวกเขาก็เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมา

อาการเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ร้อนกับเย็น

“ป้อนยาให้กับผู้ป่วยที่เหงื่อท่วมหัวก่อน ส่วนที่เหลือข้าต้องดูอีกที”

หลังจากได้ยินคำสั่งของฉู่เนี่ยนซี หยูตงและคนอื่นๆ ก็รีบทำตาม

ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่ผู้ป่วยที่มีอาการอื่นๆ ตรงหน้า และขมวดคิ้วในทันที ในช่องว่างของนางแสดงแค่สรรพคุณของตัวยาเท่านั้น แต่ในตอนนี้ยาอยู่ในร่างกายของพวกเขาแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้วิธีนี้เพื่อแยกแยะได้

บางคนที่ดื่มยาแล้ว ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นก็ช่วยหยูตงและคนอื่นๆ ดูแลคนที่เหลือ

ฉู่เนี่ยนซีมองดูคนที่เกือบจะหายดีแล้วด้วยท่าทางที่เหมือนคิดอะไรอยู่

หากไม่รู้ว่าพวกเขาถูกพิษอะไร เช่นนั้นก็ต้องหาวิธีรู้ส่วนผสมของยานี้

ยาทั้งสองชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าส่วนผสมจะต่างกันเพียงแค่หนึ่งหรือสองอย่าง

“ผู้อาวุโสเฮ่อหลัน ท่านฝังเข็มแก้ปวดให้พวกเขาก่อน ข้าต้องศึกษาอาการของคนเหล่านี้”

“หยูตง หยูหนาน พวกเจ้าสองคนตามเขาไป และถามคนเหล่านี้ว่าพวกเขาเคยไปที่เดียวกันหรือไม่ หรือกินอะไรเหมือนกัน!”

ในขณะพูด ฉู่เนี่ยนซีก็ไปตรวจสอบที่อื่นๆ ในสำนักการแพทย์ แต่หลังจากมองไปรอบๆ ก็ไม่พบอะไร

และทางด้านของห้องโถง เนื่องจากมีการฝังเข็ม ความเจ็บปวดของผู้คนจึงบรรเทาลงมาก แต่ก็ยังคงนั่งหรือนอนบนพื้นอย่างอ่อนแรง

“นายท่าน พวกเราถามหมดแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเหล่านี้เข้ามาก็ไม่ได้กินอะไรเหมือนกันเลย เพียงแต่ไปที่เดียวกัน นั่นก็คือสำนักการแพทย์”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู่เนี่ยนซีก็ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น

ดูเหมือนว่าผู้ที่วางยาพิษจะลงมือที่สำนักการแพทย์

อย่างไรก็ตาม หากไม่กินก็มีเพียงแค่อาศัยอากาศที่ใช้หายใจ

แต่คนผู้นั้นคงไม่ได้แค่เข้ามาแล้วปล่อยพิษ สำนักการแพทย์มีการตรวจตราป้องกันอย่างเข้มงวด หากเป็นเช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเห็นและโจ่งแจ้งมากเกินไป

เมื่อครู่นาตรวจดูไปรอบๆ และไม่พบเศษผงยาใดๆ ดังนั้นจะต้องเป็นการฉีดพ่นอย่างผิวเผิน หากเป็นเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กำลังคน

เว้นแต่……

ดวงตาของฉู่เนี่ยนซีสว่างขึ้นในทันที และอดไม่ได้ที่จะมองไปยังด้านบนสุดของสำนักการแพทย์ตอนที่เดินเข้ามา เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก จึงจงใจเปิดช่องระบายอากาศไว้

เว้นแต่จะใช้แรงลมเพื่อให้ยากระจายได้อย่างทั่วถึง ทำให้คนที่เข้ามาสูดดมยาเข้าสู่ร่างกาย

ฉู่เนี่ยนซีชี้ไปที่ช่องระบายอากาศ และมองไปที่หยูหนาน “เจ้าขึ้นไปดูข้างบนว่ามีอะไรหรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี