พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 8

สรุปบท บทที่ 8 หมอเทวดาเฮ่อหลัน: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี

ตอน บทที่ 8 หมอเทวดาเฮ่อหลัน จาก พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 8 หมอเทวดาเฮ่อหลัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี ที่เขียนโดย ชานมเปรี้ยว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ทุกคนนิ่งอึ้ง หันไปก็เห็นผู้หญิงวัยสาวคนหนึ่งใส่ชุดกระโปรงสีเหลือง พาคนแก่ที่ผมงอกเต็มหัวเดินมาอย่างเร่งรีบ ข้างๆยังมีคนใช้ที่ห้ามพวกเขาไม่ทัน รีบร้อนจนใบหน้าแดงไปหมดเดินตามมาด้วย

"ท่าน ท่านเฉิงเซี่ยงขอรับ บ่าวไร้ประโยชน์ ไม่สามารถห้ามพวกเขาไว้ได้ขอรับ......"

บ่าวใช้คุกเข่าลงพื้น ต้องรู้ว่าฉู่เฉิงเซี่ยงเป็นคนที่คำนึงถึงกฎระเบียบมาก ตะโกนอยู่ในจวนเฉิงเซี่ยงแบบนี้ ไม่มีมารยาทจริงๆเลย

ฉู่เฉิงเซี่ยงกำลังเป็นห่วงขาของลูกชายอยู่ แค่ขมวดคิ้ว ไม่มีอารมณ์คิดบัญชีกับคนใช้เหล่านี้ เลยโบกมือให้คนใช้ลงไป

ผู้หญิงที่เข้ามาคือลูกสาวของน้องชายแท้ๆของฉู่เฉิงเซี่ยง ชื่อว่าฉู่หว่านเอ๋อร์ ตอนเด็กแม่ก็เสียไป น้องชายแต่งงานกับคนใหม่ ดังนั้นนางจึงถูกท่านย่าเลี้ยงจนโตมา เป็นที่โปรดปรานของท่านย่ายิ่งนัก

แต่พออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ท่านย่าก็อายุมากแล้ว เลยส่งมาให้เฉิงเซี่ยงที่เมืองหลวงช่วยเลี้ยงดู หวังว่าฉู่หว่านเอ๋อร์จะสามารถแต่งงานกับคนที่ดีงาม

ฉู่เนี่ยนซีสังเกตผู้หญิงคนนี้ เห็นแต่นางไม่ได้แต่งหน้าเลย บนหัวก็มีเพียงปิ่นปักผมอันเดียวเท่านั้น มองขึ้นไปแล้วน่ารักเป็นพิเศษ

ในความทรงจำของชาติก่อน หญิงน้อยที่ชื่อว่าหว่านเอ๋อร์คนนี้ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ปกติก็มีมารยาทต่อตัวเองด้วย

แต่ตอนนั้นเจ้าของร่างเดิมมีแต่เย่เฟยหลีอยู่ในใจ ห่างไกลกับพี่ชายแท้ๆในจวนเฉิงเซี่ยง ยิ่งอย่าไปพูดถึงน้องสาวไท่แท้คนนี้เลย

ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีความทรงจำที่ลึกซึ้งต่อหว่านเอ๋อร์คนนี้ รู้แต่ว่าคนทั้งจวนล้วนเคารพคุณหนูคนนี้มากนัก แม้กระทั่งกลุ่มกุลสตรีก็ล้วนชื่นชมนางด้วย

ฉู่เฉิงเซี่ยงมองนางทีหนึ่งอย่างไร้อารมณ์ น้ำเสียงก็ไม่มีความแปรปรวนใดๆ"เจ้ามาทำอะไร?"

ฉู่เนี่ยนซีเลิกคิ้วเล็กน้อย หว่านเอ๋อร์คนนี้ชื่อเสียงดีขนาดนี้ แต่เหมือนพ่อของนางไม่ค่อยชอบนะ

ฉู่หว่านเอ๋อร์คุกเข่าลงพื้น พฤติกรรมเต็มไปด้วยความสง่างาม

"วันนี้หว่านเอ๋อร์โชคดีที่เชิญหมอเทวดาเฮ่อหลันมาได้ คิดจะให้เขามาดูขาให้พี่ชาย เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ได้ข่าวว่าพี่สาวก็จะรักษาขาให้พี่ชายด้วย แต่หมอเทวดาเฮ่อหลันเห็นว่าพี่สาวจะใช้เข็ม ก็บอกว่านี่มันไม่เหมาะกับโรคของพี่ชาย ถึงกับวิ่งเข้ามาในห้อง......ท่านลุงโปรดเห็นแก่ที่หว่านเอ๋อร์ใจร้อนเกินไปยกโทษให้ด้วยเจ้าค่ะ!"

ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยไม่สามารถสังเกตได้

ส่วนฉู่เฉิงเซี่ยงก็ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม

พี่สะใภ้ใหญ่ที่เดิมทีก็ไม่ยินยอมนั้น พอได้ยินว่าคือหมอเทวดาเฮ่อหลัน ในสายตาก็เต็มไปด้วยประกาย

"น้องหว่านเอ๋อร์ หมอเทวดาเฮ่อหลันท่านนี้ก็คือท่านที่มีชื่อเสียงท่านนั้นหรือ?"

"ใช่เจ้าค่ะ หว่านเอ๋อร์ก็เผอิญได้เจอกับหมอเทวดาเฮ่อหลัน เขาถึงยอมดูให้พี่ชายสักหน่อย"ฉู่หว่านเอ๋อร์ปรากฏรอยยิ้มที่มีมารยาท ดูใจเย็นมาก

ฉู่เฉิงเซี่ยงสองผัวเมียได้ยินเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเลย และมองหน้าเข้าหากัน

หลายปีที่แล้วหมอเทวดาเฮ่อหลันก็มีชื่อเสียงขึ้น ได้ข่าวว่าเขาสามารถรักษาโรคประหลาดทุกอย่าง

แต่นิสัยของเขาแปลกมาก ไม่มีใครรู้ร่องรอยของเขา จะให้เขารักษาก็ยิ่งยากเข้าไปอีก ถึงแม้เป็นฮ่องเต้ ก็ต้องไว้หน้าเขาด้วย

เดิมทีคนที่นามสกุลเฮ่อหลันก็น้อยมากในเมืองหลวง ดังนั้นผู้คนจึงจำได้อย่างแม่นยำ

คิดไม่ถึงว่าฉู่หว่านเอ๋อร์รู้จักกับหมอเทวดาเฮ่อหลัน ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว งั้นขาของอี้เอ๋อร์ก็มีโอกาสหายดีแล้วสิ?

ฉู่เนี่ยนซีมองสีหน้าของทุกคนแล้วเลิกคิ้ว

คนนี้ดูเหมือนว่าพอมีภูมิหลังนะ

ฉู่หว่านเอ๋อร์ในฐานะที่เป็นคุณหนูในจวน ยังสามารถรู้จักคนแบบนี้ได้อีก แถมยังพามาในวันนี้ ดูเหมือนว่าคนนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่ภายนอกเห็น

ตอนนี้คนแก่ที่หนวดเคราสีขาวนั้นไม่ได้สนใจผู้คน แต่กลับเดินหน้าขึ้นโดยตรง เห็นด่างดำมากมายบนขาของฉู่เจี้ยนอี้ และมองไปที่เข็มเงินในมือของฉู่เนี่ยนซี รีบส่ายหน้าอย่างแรง

"ไม่ได้!ห้ามเด็ดขาด!พิษในขาของคนนี้สะสมมาหลายปี ตอนนี้พิษน่าจะซึมไปถึงบริเวณเอวแล้ว ถ้าเกิดจะฝังเข็ม กลัวว่าในขณะที่เปิดช่องว่างจะทำให้สารพิษไหลไปทั่วร่างกาย ในที่สุดจะขาดหายใจตาย!"

พี่สะใภ้ใหญ่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็ซีดขาว แม้กระทั่งเฉิงเซี่ยงสองผัวเมียก็ล้วนตื่นเต้นขึ้นมา

หากไม่ใช่เพราะ......เขาจะไม่มาจวนนี้ ไม่อยากจะมาสนใจความขัดแย้งแบบนี้หรอก

"มาสิ หาที่ๆสงบให้คนแก่ท่านนี้พักผ่อนสิ"ฉู่เนี่ยนซีสั่งคนในข้างนอก จากนั้นเดินไปถึงหน้าฉู่เจี้ยนอี้เตรียมจะฝังเข็ม

หมอเทวดาเฮ่อหลันอึ้งเล็กน้อย จากนั้นมีความโมโหปรากฏขึ้นบนใบหน้า"พระชายาหลีหมายความว่าอย่างไร ข้ามารักษาโรคให้พี่ชายของเจ้า เจ้าไม่คิดจะใช้ข้าหรือ?"

"ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าสามารถให้ขาของพี่ชายข้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ?"

"บนโลกนี้จะมีโรคที่รักษาหายเหมือนเดิมที่ไหนได้ ยิ่งไปกว่านี้คือ พิษบนขาของพี่ชายเจ้าสะสมมาหลายปี ข้าสามารถรับประกันได้แค่เคลียร์สารพิษออกไปหมด อนาคตถ้าจะเดินมีแต่ต้องใช้ไม้เท้า"

"แต่ข้ารับประกันได้ว่าขาของพี่ชายข้าสามารถรักษาได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เดินได้เหมือนกับคนปกติ ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่รบกวนท่านแล้วนะ"

"เป็นไปไม่ได้!"หมอเทวดาเฮ่อหลันเบิกตากว้างและโมโหมาก"ถึงแม้อาจารย์ของข้าอยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถทำถึงระดับที่เจ้าว่าได้ ข้ายังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่พูดโอ้อวดเหมือนเจ้าเลย!ข้าขอบอกพวกเจ้านะ ถ้าเจ้าฝังเข็มตอนนี้ หากไม่ระวังอาจจะทำให้เขาตายเลย!ใต้เท้าเฉิงเซี่ยง หากปล่อยให้นางทำมั่วซั่วแบบนี้ ก็อย่าโทษว่าข้าไม่ช่วยนะ!"

หมอเทวดาเฮ่อหลันมองฉู่เนี่ยนซี ราวกับมองผู้หญิงที่โหดร้ายและไม่มีความรู้ใดๆ

หว่านเอ๋อร์ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น เห็นว่าฉู่เฉิงเซี่ยงไม่สนใจตัวเองอยู่ตลอด ก็เลยเปลี่ยนทิศทาง กราบใส่เฉิงเซี่ยงฮูหยินอย่างแรง

"ท่านป้าเจ้าคะ ฝีมือทางการแพทย์ของหมอเทวดาเฮ่อหลันสุดยอดมาก กว่าหว่านเอ๋อร์จะเชิญมาได้ ท่านห้ามปล่อยให้พระชายาหลีทำมั่วซั่วนะเจ้าคะ มันจะทำร้ายพี่ใหญ่เจ้าค่ะ!"

ปกติเฉิงเซี่ยงฮูหยินก็ชื่นชอบหว่านเอ๋อร์อยู่แล้ว นางเลยเชื่อคำพูดของนางอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้นางและลูกสาวของตัวเองพูดคนละอย่าง ก็ไม่สามารถลำเอียงไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้

แต่ในเมื่อหมอเทวดายังพูดแล้ว ยังพูดอย่างเด็ดขาดขนาดนั้น ใจของเฉิงเซี่ยงฮูหยินก็หวั่นไหวไปตาม

ฉู่เนี่ยนซีหันกลับไป มองหว่านเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนพื้นโดยอยู่เหนือกว่า สีหน้าใจเย็นมาก"อ้อ กว่าจะเชิญมาได้?งั้นเจ้าก็พูดมาสิ เชิญมายากขนาดไหน?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี