เข้าสู่ระบบผ่าน

ภรรยานำโชคสุดที่รัก นิยาย บท 1

ปลายคิมหันต์ฤดูเดือนเจ็ด

ตัวซวยอันดับหนึ่งของหมู่บ้านลู่เอ๋อร์ จ้าวจิ่นเอ๋อร์ ในที่สุดก็จะได้ออกเรือนแล้ว

แม้ว่าจะบอกว่าเป็นการแต่งงาน แต่แท้จริงแล้วคือถูกขาย จ้าวจิ่นเอ๋อร์ก็รู้เหตุผลที่ตนถูกขายดี เพราะโชคชะตาของนางแย่มากจริงๆ

อาภัพมารดาตั้งแต่เกิด ซ้ำยังอาภัพบิดาตอนแปดขวบ ส่วนอาก็ดันมาประสบอุบัติเหตุขาหักหลังรับเลี้ยงนางได้ไม่ถึงครึ่งปี

กว่าจะเลี้ยงดูจนถึงอายุสิบสี่ปี ครอบครัวกลับยิ่งจนลงทุกปีๆ

ในขณะที่ข้าวสารใกล้จะไม่พอกรอกหม้อ ก็มีแม่สื่อจากตำบลมาสู่ขอด้วยเงินแปดตำลึง

ผู้เป็นอาสะใภ้ตอบตกลงอย่างไม่รอช้า และส่งนางขึ้นเกี้ยวด้วยตัวเอง

จ้าวจิ่นเอ๋อร์ไม่โกรธนาง เพราะรู้ดีว่าโชคชะตาของตนแย่มากจริง ๆ ทว่าในใจลึก ๆ ก็อดรู้สึกเศร้าไม่ได้

ระหว่างทางไปหมู่บ้านเสี่ยวก่าง มีแม่น้ำสายหนึ่ง

และต้องนั่งแพไม้ไผ่ข้ามแม่น้ำไป

ตอนนางขึ้นแพไม้ไผ่ ความซวยก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เพราะนางเผลอเหยียบพลาด

ในขณะที่นางกำลังดิ้นรนอย่างสุดชีวิต ฝูงปลาหลีฮื้อหลากสีก็ได้ล้อมรอบนางไว้

“เอ๊ะ นั่นปลาหลีฮื้อนำโชคตัวที่กระโดดได้สูงที่สุดในหมู่บ้านเรามิใช่หรือ”

“ได้ยินมาว่านางทำผิดหลังผ่านประตูมังกรไปแล้ว จึงถูกลงโทษให้กลับมาเกิดใหม่”

“มิน่าเล่า เจ้าดูกลุ่มพลังดำขลับที่หว่างคิ้วของนางสิ แค่ดูก็รู้ว่าเป็นโหงวเฮ้งของคนดวงซวย นี่สร้างอัปยศอดให้ชื่อเสียงของปลาหลีฮื้อนำโชคของเราเลยนะ”

“อย่างน้อยก็เคยเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันมาก่อน เราช่วยนางขจัดความโชคร้ายและเสริมความโชคดีให้นางกันเถอะ!”

“ตกลง!”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์จึงถูกฝูงปลาช่วยชีวิตอย่างงงๆ

......

เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็ทำเอาแม่สื่อซุนตกใจแทบแย่ “นางหนู ชื่อเสียงตัวซวยของเจ้าสมกับที่ร่ำลือจริง ๆ โชคดีที่เจ้าปีนขึ้นมาได้เอง มิเช่นนั้นยายแก่อย่างข้าจะหาลูกสะใภ้ที่ไหนไปชดใช้เงินแปดตำลึงให้เขา”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์รู้สึกอายมาก รีบก่อกองไฟเพื่อตากเสื้อผ้าให้แห้งก่อนเร่งแม่สื่อซุนให้รีบออกเดินทาง

พวกนางข้ามแม่น้ำแล้วข้ามภูเขาอีกหนึ่งลูก จนกระทั่งสองชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดหญิงชราและหญิงสาวก็มาถึงหมู่บ้านเสี่ยวก่าง

เพียงแต่จ้าวจิ่นเอ๋อร์ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า

ที่รอเข้าพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินกับนางจะเป็นไก่ตัวผู้ตัวใหญ่

ตอนที่แม่สื่อซุนไปสู่ขอ นางคุยโว้โอ้อวดตระกูลฉินไว้อย่างสวยหรูมาก คุยโม้ว่าบ้านหลังใหญ่โตก่อด้วยอิฐแดงและกระเบื้องเขียว มีเนื้อกินทุกมื้อ

แต่ไม่ได้พูดถึงฉินมู่ซิว สามีในอนาคตของจ้าวจิ่นเอ๋อร์ว่าป่วยเป็นวัณโรค แถมป่วยหนักจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้

จ้าวจิ่นเอ๋อร์หน้าแดงระเรื่อในทันที รีบก้มหน้าลงก่อนเอ่ยตอบเสียงเบาเหมือนยุง “อืม”

ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ให้เจ้าเข้าพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินกับไก่ ทำให้เจ้าต้องลำบากใจแล้ว”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางมีชีวิตจนอายุสิบสี่ปี ยังไม่เคยเห็นบุรุษในหมู่บ้านคนใดพูดกับภรรยาว่าลำบากใจเลย แม้แต่อาของนาง แค่มีความคิดเห็นต่างก็จะตบตีอาสะใภ้ของนางทันที

บุรุษที่พูดจาดีเช่นนี้ ทำให้ความเขินอายและความกลัวของจ้าวจิ่นเอ๋อร์ลดลงไปมาก เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมองเขา

ก็เห็นชายผู้นั้นมีสันจมูกโด่ง ริมฝีปากบาง คิ้วเข้มและดวงตาสดใส ดูไม่เหมือนหนุ่มชาวบ้านทั่วไปเลย เกิดมาช่าง...

ช่างหน้าตาหล่อเหลาอย่างมาก!

แต่มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเขาผอมเกินไป และหน้าตาซีดเซียว

“ไม่เป็นไร เจ้าดูแลสุขภาพให้ดี สำคัญกว่า”

ชายหนุ่มมองจ้าวจิ่นเอ๋อร์อยู่นานสองนาน ก่อนจะยิ้มมุมปาก

“รีบเดินทางมาทั้งวัน คงหิวแล้วใช่หรือไม่? ตรงนั้นมีขนมมงคลและไข่ต้มมงคล กินรองท้องเสียหน่อยเถอะ”

“ข้าไม่หิว” ทว่าทันทีที่จ้าวจิ่นเอ๋อร์เอ่ยจบ ท้องก็ร้องโครกครากอย่างเกเร

ชายหนุ่มไม่ได้หัวเราะเยาะนาง กลับเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ต่อไปเจ้ากับข้าก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว สามีภรรยากันไม่ต้องเกรงใจ”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์จึงเดินไปที่โต๊ะ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบขนมมงคลชิ้นหนึ่งขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคสุดที่รัก