ขณะที่เขากำลังจะกระโดดข้ามรั้วกลับไป ก็ได้แอบมองไปดูแม่ของลูกว่าเธอทำอะไรอยู่ จากที่แค่น้ำตาคลอเบ้า มันก็ไหลออกมา เมื่อเห็นว่ามือหนึ่งเธอกำลังปั๊มน้ำนม อีกมือตักอาหารใส่ปากแล้วเคี้ยว
เขาทำอะไรลงไป เขายังมีความเป็นคนอยู่ไหม ในขณะที่เฝ้าแต่คิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กลับทำลายชีวิตของผู้หญิงอีกคน
อึก! รีบเคี้ยวข้าวมากเกินไปจนข้าวติดคอ จะวางเครื่องปั๊มก็ไม่ได้เพราะน้ำนมกำลังมา หญิงสาวก็เลยต้องได้เดินไปหยิบน้ำ ที่วางอยู่ห่างจากตัวขึ้นมายกดื่มในขณะที่เครื่องปั๊มยังติดอยู่กับหน้าอกของเธอ
กึก! คนที่ยืนแอบมองอยู่ไม่ระวัง ถอยไปเหยียบอะไรเข้า
"ใคร!!" สโรชาวางน้ำลงแล้วรีบเดินไปดูหลังบ้าน เพราะเสียงดังมาจากทางนั้น
เหมียว~ เป็นจังหวะเดียวกับที่แมวกระโดดข้ามฝั่งมาจากบ้านอีกหลังพอดี
"แกอย่าเล่นแบบนี้อีกนะฉันตกใจ คนยิ่งกำลังเสียวสันหลังอยู่" ขนาดตกใจเธอยังไม่ปล่อยเครื่องปั๊มน้ำนมของลูกออกจากหน้าอกเลย สโรชาพยายามปั๊มน้ำนมให้ได้มากที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกดื่มนมผงเยอะเกินไป
เวลาผ่านไปและตอนนี้รามิลก็ตื่นขึ้นมาเล่นกับแม่แล้ว
เสียงของเล่นแบบสั่นได้ดังกังวานไปจนถึงบ้านอีกหลัง จากที่คิดว่าจะนอนเอาแรงหน่อยเขาก็อดไม่ได้ที่จะมาชะเง้อหน้ามอง
ที่เขาไม่เข้าไปหาเพราะกลัวว่าถ้าเธอเห็นหน้าแล้วจะพาลูกหนีไปอีก ใช่แล้วคนที่มาเช่าบ้านอยู่ข้างๆ ก็คือรามสูร
จังหวะเดียวกันนั้นหญิงสาวก็หันมองไปทางหน้าต่าง เพราะเธอรู้สึกว่ามีใครมองมา จนคนที่แอบมองรีบหลบแทบไม่ทัน ..และมันก็ยิ่งทำให้สโรชารู้สึกกลัวขึ้นมาอีก
หรือว่าจะเป็นพวกโรคจิต ขนาดบ้านของแม่เธอแท้ๆ ยังจะไม่ปลอดภัยอีกเหรอ
ค่ำมืดวันเดียวกันนั้น.. สโรชารีบพาลูกเข้าบ้าน และเธอก็ล็อกทั้งหน้าต่างและประตูให้แน่นหนา หน้าต่างในห้องนอนวันนี้หญิงสาวก็หาผ้ามาปิดแทนผ้าม่านไว้
ที่เคยมองจากตรงนี้แล้วเห็นเวลาเธอชงนมให้ลูก เวลาเธออุ้มลูกเดินตอนงอแง แต่คืนนี้ไม่เห็นอีกแล้ว
"คืนนี้หนูจะนอนง่ายไหมครับ" ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิดถึงย่าของลูก และสโรชาก็คิดว่าลูกชายของเธอก็คงคิดถึงคุณย่าเหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อนั่นแม่ของเขา ไม่ใช่แม่ของเธอสักหน่อย "แม่ขอโทษนะครับที่ต้องพาหนูจากคุณย่ามา ป่านนี้ท่านคงคิดถึงหนูแย่แล้ว"
เสียงสะอื้นค่อยๆ ดังขึ้น แบบห้ามมันไม่ได้ ทำไมเธอต้องเป็นฝ่ายถอยตลอดเลย เขาต่างหากที่เป็นคนผิด ไม่ใช่เธอกับลูกสักหน่อย
สโรชารีบเช็ดน้ำตาออกเมื่อเห็นดวงแววตาของลูกชายมองมา ขนาดเขาอยู่ในท้องยังสัมผัสถึงความเศร้าโศกของแม่ได้ แต่นี่เขาออกมาเป็นคน ต้องรับรู้ถึงอารมณ์ของแม่แน่
"แม่จะพยายามเข้มแข็งให้มากกว่านี้นะครับ เราจะไม่หนีปัญหาอีก หนูพร้อมจะสู้กับแม่อีกสักครั้งไหม" ไม่รู้ว่าจะสู้กับใครหรอก คงต้องสู้กับอารมณ์ของตัวเองนี่แหละ
เช้าวันต่อมา.. เมื่อคืนนี้รามิลน่ารักมากไม่กวนแม่เลย คงเห็นว่าแม่ร้องไห้
วันนี้ยังไงเธอต้องรู้ให้ได้ว่าข้างบ้านเป็นใครที่มาเช่า แล้วทำงานเวลาไหน อยู่กับใคร
และคนเดียวที่จะรู้ก็คือเจ้าของบ้าน เพราะเป็นคนปล่อยให้เช่า หญิงสาวไม่กล้าทิ้งลูกไว้ที่บ้านคนเดียวเธอก็เลยอุ้มรามิลออกมาด้วย
[ร้านค้าหน้าปากซอย]
"ฉันอยากจะถามเรื่องคนที่เช่าบ้าน อยู่ข้างบ้านของฉันเป็นใครคะ"
"รามิล ไม่นะลูก?" ช่วงเวลานั้นเธอตกใจมากจนก้าวขาไม่ออก แต่แค่เสี้ยววินาทีก็มีคนมาจากไหนไม่รู้ รีบมาหยุดลูกของเธอก่อนที่จะกลิ้งตกบันไดลงไป "????" สโรชาจำผู้ชายคนนี้ได้แม่น
"เป็นยังไงบ้างครับ" ชายหนุ่มถามเด็กออกมาเบาๆ ความตกใจของเขาไม่ต่างจากเธอเลย
และตอนที่กระโดดข้ามรั้วเขาพลาดล้มลงไปแต่ก็รีบลุกขึ้นให้ไวแล้ววิ่งมาทันเวลาพอดี
"เอาลูกฉันมา!!" ในเวลานี้รู้แล้วว่าคนที่เช่าข้างบ้านอยู่คือใคร หญิงสาวรีบเดินเข้าไปแย่งลูกออกมาจากอ้อมกอดของเขา "เข้าบ้านกันครับ" เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าคนที่ช่วยลูกชายไว้เลย
"โรส.."
ปัง! รามสูรยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ประตูบ้านก็ปิดลงอย่างแรง
พอปิดประตูเธอก็ยังคงอุ้มลูกยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าจะตกใจอันไหนมากกว่ากันระหว่างลูกเกือบตกบันได กับคนที่มาช่วย
"เขาตามมาทำไม" คำตอบเดียวที่มีให้ตัวเองก็คือลูก คงเพราะเหตุผลนี้สินะเข้าถึงได้ตามมา
สโรชายืนอยู่ตรงนั้นเพียงไม่นานเพราะได้เวลานอนของลูกชายแล้ว
"หนูนอนนะครับคนดี" ในใจของคนเป็นแม่ก็กลัวเขาจะมาแย่งลูกไป ที่เธอคิดแบบนั้นเพราะรู้ดีว่าเขาไม่ได้ต้องการตัวเธอเลย
หวังว่าประวัติศาสตร์มันคงไม่ซ้ำรอยเธออีกครั้งนะ ภาพสมัยเด็กตอนที่ถูกพ่อมารับตัวไปอยู่ด้วย มันยังคมชัดอยู่ในความรู้สึก และภาพที่แม่ร้องไห้แทบจะขาดใจเธอก็ยังคงจำมันได้ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก