ที่พวกคุณหญิงคุณนายมองไปเพราะคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวเกิดขึ้นในขณะที่แนะนำลูกสะใภ้ของคุณพุดตาล
ที่มีเสียงดังเกิดขึ้นเพราะถ้าสโรชาเป็นแม่ของหลานชายคนแรกที่ท่านแนะนำไปแล้ว นั่นหมายถึงสโรชาเป็นภรรยาของรามสูรท่านประธานบริษัทนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้มาก่อนเลย
"คุณแม่คะ" ก่อนที่ท่านจะพูดอะไรมากไปกว่านี้สโรชารีบหยุดท่านไว้ก่อน ถ้าท่านจะแนะนำว่าเธอเป็นแม่ของรามิลก็ไม่ผิด แต่ประโยคที่ท่านกำลังจะเอ่ยพูดต่อเธอรู้ดีว่าท่านกำลังจะพูดอะไร
พุดตาลหันมามองลูกสะใภ้เล็กน้อย
"เรื่องของโรสกับคุณรามสูร โรสขอล่ะค่ะ"
"ทำไมเหรอ" ไม่ใช่แค่คุณย่าที่มอง รามสูรที่ยืนอยู่ใกล้ก็รอฟังว่าเธอจะขออะไร
ส่วนคนอื่นยืนห่างออกไปหน่อยก็เลยไม่ได้ยินที่เธอพูด เพราะสโรชาไม่อยากให้ใครได้ยินด้วย
"เราสองคนหย่ากันแล้วค่ะ" ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปแน่นอนว่ามันต้องถูกเผยแพร่ไปทุกช่องทางแน่ และถ้ารู้ถึงหูคนที่รู้แล้วว่าเธอกับเขาเซ็นต์ใบหย่ากัน กลัวว่าเรื่องมันจะไม่จบแค่นี้น่ะสิ
"ใครบอกว่าเราหย่ากัน" ประโยคนี้ออกจากปากรามสูร คนเป็นแม่และอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูกหันมามองที่เขาพร้อมกัน "ก็เห็นมีแต่คุณที่เซ็นต์คนเดียว"
"??" สโรชาคิดว่าเรื่องการหย่าเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วเสียอีก
"พี่เขายังไม่เซ็นต์หรอกลูก" เรื่องนี้นางรู้ดี เพราะพุดตาลให้คนเช็คที่เขตมาแล้ว
สโรชาก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร รวมทั้งเห็นสายตาของแม่ใหญ่ที่มองมาด้วย ถ้าพูดมากไปกว่านี้ท่านต้องรู้แน่ว่าครอบครัวของเธอมีปัญหากัน
"งานเลี้ยงในครั้งนี้ ฉันอยากแนะนำลูกสะใภ้ให้ทุกคนได้รู้จัก" พุดตาลส่งหลานชายให้รามสูรพ่อของแกได้อุ้มไว้ แล้วก็เอื้อมมือไปโอบเอวของลูกสะใภ้ "หนูสโรชาบุตรสาวของท่านพลโทพงศธร เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของลูกชายฉัน"
ตอนนี้ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานจะตกใจอันไหนก่อนดี ระหว่างที่สโรชาเป็นภรรยาของท่านประธาน หรือที่เธอเป็นลูกสาวของท่านพลโท เพราะนั่นหมายถึงฐานะของเธอไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงมาทำงานในบริษัทเล็กๆ
พุดตาลไม่ได้ทำให้ลูกสะใภ้เดือดร้อน นางทำทีเป็นแนะนำลูกสะใภ้กับหลานชาย แต่ที่จริงแล้วพุดตาลเจาะจงให้คนบางกลุ่มที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ได้รับรู้
"โรสขอกลับก่อนได้ไหมคะ" มันอาจจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับผู้หญิงหลายๆ คน แต่สำหรับเธอแล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นและดีใจอะไรเลย
สโรชาเอื้อมมือไปขอลูกจากเขา แต่รามสูรไม่ยอมส่งให้ แค่เห็นแววตาของเธอก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่
"ดึกมากแล้วฉันจะพาลูกกลับไปนอน"
"เป็นอะไร"
"ทุกอย่างมันจบแล้วไม่ใช่เหรอ"
"คุณโกรธอะไรให้ผม"
"ทุกท่านร่วมสนุกกันได้ตามอัธยาศัยเลยนะคะ" พุดตาลและผกาแก้วต่างก็หันไปบอกแขกที่ยังให้ความสนใจคู่ของลูกๆ อยู่
"เราสองคนมันผ่านคำว่าโกรธกันมานานแล้วล่ะค่ะ" หญิงสาวยังคงเอื้อมไปขอลูกจากเขา ส่วนรามิลหัวเราะเฉยเลย เพราะคิดว่าพ่อกับแม่กำลังหยอกตัวเองอยู่
"ตามผมมานี่" มือข้างหนึ่งอุ้มลูกชายไม่ยอมวาง อีกข้างจูงมือของเธอให้เดินออกมาข้างนอกด้วย
"ปล่อยค่ะ ฉันอยากจะกลับบ้านแล้ว" ออกมายังไม่พ้นประตูเลยด้วยซ้ำหญิงสาวก็แกะมือของเขาออก
ถึงแม้ทุกคนในงานจะทำเป็นไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้ว ก็ยังให้ความสนใจทั้งสองอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก