ภรรยาที่(ไม่)รัก นิยาย บท 52

สรุปบท บทที่ 52: ภรรยาที่(ไม่)รัก

บทที่ 52 – ตอนที่ต้องอ่านของ ภรรยาที่(ไม่)รัก

ตอนนี้ของ ภรรยาที่(ไม่)รัก โดย ชะนีติดมันส์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 52 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ที่พวกคุณหญิงคุณนายมองไปเพราะคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวเกิดขึ้นในขณะที่แนะนำลูกสะใภ้ของคุณพุดตาล

ที่มีเสียงดังเกิดขึ้นเพราะถ้าสโรชาเป็นแม่ของหลานชายคนแรกที่ท่านแนะนำไปแล้ว นั่นหมายถึงสโรชาเป็นภรรยาของรามสูรท่านประธานบริษัทนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้มาก่อนเลย

"คุณแม่คะ" ก่อนที่ท่านจะพูดอะไรมากไปกว่านี้สโรชารีบหยุดท่านไว้ก่อน ถ้าท่านจะแนะนำว่าเธอเป็นแม่ของรามิลก็ไม่ผิด แต่ประโยคที่ท่านกำลังจะเอ่ยพูดต่อเธอรู้ดีว่าท่านกำลังจะพูดอะไร

พุดตาลหันมามองลูกสะใภ้เล็กน้อย

"เรื่องของโรสกับคุณรามสูร โรสขอล่ะค่ะ"

"ทำไมเหรอ" ไม่ใช่แค่คุณย่าที่มอง รามสูรที่ยืนอยู่ใกล้ก็รอฟังว่าเธอจะขออะไร

ส่วนคนอื่นยืนห่างออกไปหน่อยก็เลยไม่ได้ยินที่เธอพูด เพราะสโรชาไม่อยากให้ใครได้ยินด้วย

"เราสองคนหย่ากันแล้วค่ะ" ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปแน่นอนว่ามันต้องถูกเผยแพร่ไปทุกช่องทางแน่ และถ้ารู้ถึงหูคนที่รู้แล้วว่าเธอกับเขาเซ็นต์ใบหย่ากัน กลัวว่าเรื่องมันจะไม่จบแค่นี้น่ะสิ

"ใครบอกว่าเราหย่ากัน" ประโยคนี้ออกจากปากรามสูร คนเป็นแม่และอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูกหันมามองที่เขาพร้อมกัน "ก็เห็นมีแต่คุณที่เซ็นต์คนเดียว"

"??" สโรชาคิดว่าเรื่องการหย่าเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วเสียอีก

"พี่เขายังไม่เซ็นต์หรอกลูก" เรื่องนี้นางรู้ดี เพราะพุดตาลให้คนเช็คที่เขตมาแล้ว

สโรชาก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร รวมทั้งเห็นสายตาของแม่ใหญ่ที่มองมาด้วย ถ้าพูดมากไปกว่านี้ท่านต้องรู้แน่ว่าครอบครัวของเธอมีปัญหากัน

"งานเลี้ยงในครั้งนี้ ฉันอยากแนะนำลูกสะใภ้ให้ทุกคนได้รู้จัก" พุดตาลส่งหลานชายให้รามสูรพ่อของแกได้อุ้มไว้ แล้วก็เอื้อมมือไปโอบเอวของลูกสะใภ้ "หนูสโรชาบุตรสาวของท่านพลโทพงศธร เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของลูกชายฉัน"

ตอนนี้ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานจะตกใจอันไหนก่อนดี ระหว่างที่สโรชาเป็นภรรยาของท่านประธาน หรือที่เธอเป็นลูกสาวของท่านพลโท เพราะนั่นหมายถึงฐานะของเธอไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงมาทำงานในบริษัทเล็กๆ

พุดตาลไม่ได้ทำให้ลูกสะใภ้เดือดร้อน นางทำทีเป็นแนะนำลูกสะใภ้กับหลานชาย แต่ที่จริงแล้วพุดตาลเจาะจงให้คนบางกลุ่มที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ได้รับรู้

"โรสขอกลับก่อนได้ไหมคะ" มันอาจจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับผู้หญิงหลายๆ คน แต่สำหรับเธอแล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นและดีใจอะไรเลย

สโรชาเอื้อมมือไปขอลูกจากเขา แต่รามสูรไม่ยอมส่งให้ แค่เห็นแววตาของเธอก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่

"ดึกมากแล้วฉันจะพาลูกกลับไปนอน"

"เป็นอะไร"

"ทุกอย่างมันจบแล้วไม่ใช่เหรอ"

"คุณโกรธอะไรให้ผม"

"ทุกท่านร่วมสนุกกันได้ตามอัธยาศัยเลยนะคะ" พุดตาลและผกาแก้วต่างก็หันไปบอกแขกที่ยังให้ความสนใจคู่ของลูกๆ อยู่

"เราสองคนมันผ่านคำว่าโกรธกันมานานแล้วล่ะค่ะ" หญิงสาวยังคงเอื้อมไปขอลูกจากเขา ส่วนรามิลหัวเราะเฉยเลย เพราะคิดว่าพ่อกับแม่กำลังหยอกตัวเองอยู่

"ตามผมมานี่" มือข้างหนึ่งอุ้มลูกชายไม่ยอมวาง อีกข้างจูงมือของเธอให้เดินออกมาข้างนอกด้วย

"ปล่อยค่ะ ฉันอยากจะกลับบ้านแล้ว" ออกมายังไม่พ้นประตูเลยด้วยซ้ำหญิงสาวก็แกะมือของเขาออก

ถึงแม้ทุกคนในงานจะทำเป็นไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้ว ก็ยังให้ความสนใจทั้งสองอยู่

"คุณทำอะไร" สโรชามองเข้าไปในงาน เพราะตอนนี้เธอกับเขายังคงยืนอยู่หน้าประตู แต่พอคิดได้ว่ายืนอยู่หน้าประตู เธอก็รีบหันมองไปด้านนอก เพราะนักข่าวไม่ถูกอนุญาตให้เข้ามาข้างใน และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เพราะตอนนี้นักข่าวต่างก็หันกล้องมาที่เธอกับเขา

"คุณอภัยให้ผมได้ไหม เรื่องที่ผ่านมาผมไม่สามารถจะกลับไปแก้ไขมันได้ เพราะมันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้จักกัน แต่นับต่อจากนี้ไป ผมสาบานด้วยเกียรติที่ผมมีอยู่ จะรักและดูแลคุณกับลูก จนกว่าผู้ชายคนนี้จะไม่มีลมหายใจอีก" และประโยคที่เขาพูดคนในงานก็ไม่ได้ยินหรอก เพราะอยู่ห่างกันพอสมควร

"ฉันขอดูก่อนแล้วกัน" เขาทำให้เธอเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่รู้จักกัน เธอก็เริ่มรู้จักคำว่าเสียใจ เจ็บใจ น้อยใจ ซึ่งอีกฝ่ายไม่เคยรับรู้เลย จนแม่คนหนึ่งต้องแกล้งทำเป็นว่าแท้งลูก เพื่อที่จะได้ไปจากชีวิตคู่อันล้มเหลวในครั้งนี้

"ผมจะรอวันนั้น แต่คุณช่วยอยู่ข้างๆ ผมได้ไหม อย่าพาลูกไปไกลจากผมเลย"

สโรชาไม่ได้ตอบแต่เธอหันมองเข้าไปในงาน เพื่อดูญาติผู้ใหญ่ที่เธอมีอยู่ "ฉันจะกลับไปอยู่บ้าน"

"ได้สิ ผมจะไปด้วย"

"ฉันจะไปกับลูกสองคน" ว่าแล้วหญิงสาวก็อุ้มลูกเดินออกมา ส่วนรามสูรก็ยังคงเดินตาม

"ก็ได้แต่คุณอย่าลืมนะว่าคุณยังทำงานที่บริษัทอยู่" มันเป็นสิ่งเดียวที่ยังจะได้อยู่ใกล้เธอ เพราะถึงแม้จะไปหาลูกเธอก็คงไม่ให้ค้างที่นั่นด้วย

"ฉันไม่ลืมหรอกค่ะ จนกว่างานของคุณจะเสร็จ" เธอคิดว่าจะช่วยงานของบริษัทให้เสร็จก่อนถึงจะลาออก

"แต่วันนี้กลับไปค้างที่บ้านก่อนนะ" ชายหนุ่มรีบเดินไปที่รถก่อนเพื่อจะเปิดประตูรถให้

"ของลูกก็อยู่ที่นั่นหมด" เธอพูดแค่นี้เขาคงจะเข้าใจ ว่าคืนนี้ยังไงเธอก็ต้องได้กลับไปเตรียมข้าวของให้ลูก

รามสูรยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะปิดประตูให้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก