"??" สโรชาไม่เข้าใจว่าทำไมสามีถึงพูดแบบนั้น เขามีอะไรปิดบังแม่หรือเปล่า เพราะถ้าบอกแม่ไปว่าเป็นผู้จัดการจะไม่ง่ายกว่าเหรอ
หญิงสาวนั่งเงียบมาจนถึงบริษัท รอให้สามีพูดให้ฟังว่าทำไมถึงต้องโกหกแบบนั้น แต่เขาก็ไม่พูดอะไรให้ฟังเลย
พอลงจากรถทั้งสองก็เดินเข้าไปรอลิฟต์พร้อมกัน
พนักงานหลายคนต่างก็หลบออกมาก่อน เพื่อให้ท่านประธานและภรรยาได้ขึ้นไปก่อน ถึงแม้มันไม่มีกฎข้อนี้ แต่ทุกคนก็ไม่กล้าเสียมารยาทเข้าลิฟต์รอบเดียวกันกับท่านประธานอยู่แล้ว
ชั้นผู้บริหาร..
จนประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน สามีก็ยังไม่พูดอะไรให้ฟัง สโรชาจำเป็นต้องได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ก่อน
"มาทำงานแต่เช้าเลยนะ" เดินมาถึงโต๊ะทำงาน หญิงสาวก็อดแซวรุ่นพี่ไม่ได้ เพราะเมื่อคืนนี้ทีแรกเธอก็ตกใจว่าทำไมเอวาถึงพิมพ์คำว่ากรี๊ดยาวเหยียดขนาดนั้น
"จ้ะ"
"พี่เอวาเป็นอะไร" แทนที่อีกฝ่ายจะอารมณ์ดี แต่ดูเหมือนหน้าบอกบุญไม่รับเลย
"ไม่ได้เป็นอะไรหรอก"
"มีเรื่องกับคนนั้นอีกแล้วเหรอ" สโรชาคิดว่าเอวามีเรื่องกับพิมพ์อีกแล้ว
"เปล่าสักหน่อย"
"สงสัยจะอึไม่ออก" เกวลินก็เลยตอบแทน
"พี่เกวลินพูดอะไร"
"ก็มันจริงไหมล่ะเห็นหน้าแบบนี้ตั้งแต่มาถึงแล้ว"
"เห้อ" เอวาถอนหายใจเสียงดัง พร้อมกับเดินไปชงกาแฟออกมาดื่ม
ห้องท่านประธาน..
เขายืนมองทอดออกไปนอกกระจกใส คิดอยู่ว่าจะแก้ปัญหายังไงดี ทำไมช่วงนี้ปัญหาถึงได้เข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน
"คุณพิมพ์" เสียงนี้ดังขึ้นหน้าห้องของท่านประธาน แต่ตอนนี้โต๊ะนั้นว่างเปล่าไม่มีใครนั่งอยู่
คนที่เดินมาเปิดประตูห้องก็คือภรรยา
รามสูรเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองย้ายพิมพ์ไปเป็นเลขาของผู้จัดการแล้ว
"ฉันแค่จะมาบอกว่า ถ้าคุณไม่ชินก็ย้ายเธอกลับมาเถอะค่ะ"
"เปล่าหรอกแค่ผมลืม"
"คุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ" หญิงสาวพยายามจะเก็บความน้อยใจไว้ คงจะเรียกกันจนชินปากล่ะสิ
"เดี๋ยวผมจัดการเอง"
"ก็ได้ค่ะ"
รามสูรหายใจโล่งขึ้นเมื่อภรรยาไม่ได้ตำหนิอะไรมากไปกว่านี้ เกือบมีงานเพิ่มขึ้นแล้วไหมล่ะเรา
{"คุณพิมพ์ถ้าผู้จัดการเข้ามาบอกให้มาพบผมหน่อยนะ"} รามสูรก็เลยต้องได้โทรเข้ามือถือของพิมพ์
{"ได้ค่ะท่านประธาน"} ถึงแม้พิมพ์จะถูกย้ายไปนั่งไกลหน่อย แต่พูดเสียงดังขนาดนี้ ทำไมคนที่นั่งอยู่แถวหน้าห้องประธานจะไม่ได้ยิน
ก๊อก ก๊อก
"ผู้จัดการมาแล้วค่ะ" พอพิมพ์แจ้งทศกัณฐ์ไป จากที่กำลังจะออกไปธุระเขาก็เลยกลับมาก่อน
"เข้ามา"
ผู้จัดการหายเข้าไปในห้องของท่านประธานเกือบครึ่งชั่วโมงได้
"คุณเอวาเข้ามาพบผมหน่อย" รามสูรต้องได้มาเปิดประตูแล้วบอกเอวาเอง เพราะตอนนี้เขาไม่มีเลขาส่วนตัว
เกวลินและสโรชามองหน้ากัน ทำไมท่านประธานถึงเรียกแค่เอวา แถมในห้องนั้นผู้จัดการก็ยังไม่ออกมาอีก
ส่วนคนที่ถูกเรียกก็ต้องได้รีบไป
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาครับ"
เอวาเปิดประตูเข้ามาก็ทำหน้าไม่ถูก หรือว่าเขาจะฟ้องท่านประธานเรื่องที่เธอเข้าไปในห้อง? "ดิฉันคิดว่าโรสกลับมาค่ะ"
ผู้ชายที่อยู่ในห้องสองคนมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าเอวาหมายถึงอะไร
"ท่านประธานไม่ได้เรียกฉันเข้ามาตำหนิเรื่องที่เข้าห้องนอนของผู้จัดการเหรอคะ"
"เข้าห้องนอน...??" จากที่ไม่รู้เรื่องก็ได้รู้ตอนนี้แหละ
อ้าวงามไส้แล้วไม่ล่ะเรา.. อยู่ดีๆ ก็สาวไส้ออกมาประจานตัวเอง "เออ..คือ.."
"นั่งลงก่อนสิครับ" รามสูรเลื่อนเก้าอี้ตัวมาให้กับเอวาได้
"ค่ะ"
เอวาหายเข้าไปในห้องของท่านประธานร่วมชั่วโมงได้ ก็เปิดประตูออกมาแบบสับสนกับชีวิต
"มีอะไรเหรอเอวา" ที่จริงมันไม่ใช่นิสัยของเกวลินหรอกที่อยากรู้อยากเห็น แต่เป็นใครก็ต้องอยากรู้อยากเห็นไหม
"ปะ..เปล่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก