สรุปตอน บทที่ 80 – จากเรื่อง ภรรยาที่(ไม่)รัก โดย ชะนีติดมันส์
ตอน บทที่ 80 ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ภรรยาที่(ไม่)รัก โดยนักเขียน ชะนีติดมันส์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ออกมาจากห้องท่านประธาน เอวาก็เอาแต่ยืนจ้องมองไปทางห้องผู้จัดการ จนสโรชาแปลกใจเดินเข้ามาหา
"มีอะไรหรือเปล่าพี่เอวา"
"บอสให้ตามผู้จัดการเข้ามาพบ"
"แล้วทำไมพี่ไม่ไปตามล่ะ"
"เขาไม่เข้ามาแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ไม่เข้ามายังไงเมื่อสักครู่ยังเห็นอยู่เลย" ตอนที่เอวาเข้าไปในห้อง สโรชาก็ยังเห็นอยู่ว่าผู้จัดการเดินผ่านไป
เขาเข้าบริษัทอยู่เหรอ ไหนบอกจะไปแล้วไง กลับมาอีกทำไมหรือว่าลืมของอีก
เอวาก็เลยเดินมาที่หน้าห้องผู้จัดการทศกัณฐ์
"มีธุระอะไรมิทราบ" ด่านแรกก็ต้องเจอกับเลขาหน้าห้อง
"ผู้จัดการเข้ามาหรือยัง"
"สายขนาดนี้ใครจะยังไม่มา"
"ฉันถามดีๆ"
"มาแล้ว"
"ท่านประธานบอกให้ไปพบหน่อย" ว่าแล้วเอวาก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ส่วนพิมพ์รีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าใหม่ แถมยังหยิบกระจกขึ้นมาส่องมองใบหน้า ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้อง
"แค่เข้าไปรายงานทำไมต้องโอเวอร์ขนาดนั้นด้วย" สโรชาพูดเบาๆ เอวาก็เลยหันไปมอง
พิมพ์เข้าไปในห้องนั้นเพียงไม่นานทศกัณฐ์ก็ออกมาพร้อมกับคนที่เข้าไปตาม
"??" ชายหนุ่มแปลกใจทำไมเธอถึงมานั่งอยู่หน้าห้องของท่านประธาน
แต่เขาก็ไม่ได้ถามหรือไม่ได้พูดอะไร เปิดประตูเข้าไปด้านในก็เห็นว่ารามสูรยืนมองทอดสายตาออกไปนอกอาคาร
"ผมมีธุระจะคุยกับผู้จัดการ คุณออกไปก่อน"
เลขาของผู้จัดการที่เดินตามเข้ามา ก็เลยต้องได้ออกไปก่อน
"ผมเห็นอีเมลที่คุณยื่นมาแล้ว"
"ใช่ครับผมแค่แจ้งไว้ก่อนล่วงหน้า" ที่จริงเขาจะไม่เข้ามาบริษัทอีกก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะเข้ามา
"ผมก็แล้วแต่การตัดสินใจของคุณ"
ถึงแม้ทั้งสองจะไม่บอกอีกฝ่ายว่ารู้เรื่องของกันและกันแล้ว เพราะต่างคนก็ต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครทำอะไร อย่างเช่นรามสูร..รู้ดีว่าทศกัณฐ์ทำงานอะไรอยู่ และเขาก็แอบแปลกใจที่ทศกัณฐ์ยอมมาเป็นผู้จัดการติดไปกับเรือสินค้าให้กับเขา รามสูรก็เลยเปิดใจให้กับทศกัณฐ์มากขึ้น ถ้าไม่มีทศกัณฐ์ป่านนี้เขาคงไม่ได้กลับมาเห็นหน้าลูกเมียอีก
"ถ้างั้นผมออกไปนะ"
รามสูรพยักหน้าเล็กน้อย เส้นทางชีวิตของเขากับทศกัณฐ์มันต่างกันสุดขั้ว ทั้งสองอาจจะไม่ได้กลับมาเจอกันอีกเลย คิดแบบนั้นก็เริ่มใจหาย ถ้าแต่ก่อนเขายอมเปิดใจมากกว่านี้ ก็คงไม่ห่างเหินกัน
ทศกัณฐ์ออกมาจากห้องก็แอบมองดูเลขาที่นั่งอยู่หน้าห้องเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้มอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าต้องเป็นเขาแน่ที่ออกมา
"เสร็จธุระจากท่านประธานแล้วหรือคะ" พิมพ์เดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าทศกัณฐ์ยืนอยู่ตรงนั้นนานไปแล้ว
"ครับ"
"เรื่องที่เราคุยกันวันนั้น..เออคือว่า"
"เรื่องอะไรครับ"
"ก็เรื่องออกไปทานข้าวไงคะตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว.." ประโยคนี้พิมพ์จงใจพูดให้เอวาได้ยินด้วย เพราะอยากให้เอวาหน้าหงาย แต่คนที่หน้าหงายกลับเป็น..
"เที่ยงนี้ผมมีนัดแล้ว"
"หึหึหึ" เสียงนี้ดังมาจากทางแผนกบัญชี แต่พิมพ์ก็ไม่ได้มองไปที่เสียงนั้น พิมพ์มัวหันมองมาดูเลขาคนใหม่ของท่านประธาน ถึงแม้เอวาจะทำเหมือนไม่สนใจแต่ใบหน้านั้นเหมือนยิ้มเยาะ
"เดี๋ยวก่อนสิ"
เอวากำลังจะออกมาตอนที่เขาเปิดดูเอกสาร
"ฉันจะเข้ามาใหม่ตอนที่คุณดูเอกสารเสร็จค่ะ" ถึงแม้หน้าตาของเธอจะดูปกติมาก แต่ตอนนี้ในใจไม่ปกติเลย เมื่อรู้ว่าเขาก็ทำแบบนั้นกับแม่เลขาหน้าห้องเหมือนกัน เพราะรอยที่เห็นอยู่บนคอทำให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย
"ทำไมถึงไปทำหน้าที่เลขา" เขาถามเหมือนไม่จริงจังนัก เพราะสายตาของเขายังคงมองเอกสาร
จากที่หันหลังคุยกับเขาอยู่ เธอก็ค่อยๆ หันหน้ากลับมา
"งานดีเงินดีขนาดนั้น ใครบ้างไม่อยากทำล่ะคะ"
"เงินดีกว่าที่ผมให้ไปอีกเหรอ" เอกสารในมือถูกวางลงพร้อมกับสายตาคมที่จ้องมองดูผู้หญิงตรงหน้า
"ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่อนาคตก็ไม่แน่"
"ผมเพิ่งรู้ว่าคุณคิดแบบนี้"
"ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนเห็นแก่เงิน ใครยื่นเงินมาฉันก็ต้องรีบรับไว้"
ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบเอาของสำคัญของตัวเอง แล้วก็เดินผ่านหญิงสาวมาที่ประตูห้อง เพื่อจะออกจากห้องไปตอนนั้นเลย
จังหวะที่ชายหนุ่มเอื้อมมือไปที่ประตู เขาก็ได้หยุดตัวเองไว้แล้วค่อยๆ หันกลับมา ..เอวาคิดว่าเขาจะออกจากห้องไปแล้ว เธอก็เลยไม่ได้ระวังตัวหญิงสาวรีบหันหลังให้ เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นน้ำตา
"ต้องการเงินอีกเท่าไร"
"?" ที่เธอร้องไห้เพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว "คุณถามทำไม" มือเรียวรีบปาดน้ำตาออก
"แค่เรื่องเงินคุณไม่ต้องไปดิ้นรนหาจากคนอื่น ต้องการเท่าไรก็บอกผมมา"
"คุณจะซื้อตัวฉันเหรอ"
"ใช่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก